เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 59
พบศพเด็กทารกเพศหญิงแรกเกิด พร้อมกับสายรก อายุประมาณ 7-8 เดือน
อยู่ในถุงพลาสติกสีดำภายในถุงขยะ ที่ตั้งอยู่บนริมฟุตบาท
ถนนเลียบริมหนองบัว ชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี จ.อุดรธานี
สภาพศพที่บริเวณศีรษะมีรอยเขียวช้ำและยุบหลายแห่ง เหมือนถูกของแข็งทุบหัว
ที่บริเวณลำคอมีรอยถูกของมีคมตัดเกือบขาด ลึก 2 เซนติเมตร ยาว 7.5
เซนติเมตร จนถูกหลอดลมขาด
จากการสอบสวน นางหนูแดง ศรีกลาง ผู้พบศพเด็กทารกคนแรก ให้การว่า ตนมีอาชีพเก็บขยะขาย โดยจะตระเวนเก็บขยะในถังขยะ ที่บริเวณรอบสวนสาธารณะวังมัจฉาริมหนองบัวทุกคืน ก่อนจะมาพบศพเด็กทารก ตนเห็นเด็กวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนมาด้วยกัน 3 คน โดยมีผู้ชายเป็นผู้ขี่ และมีวัยรุ่นหญิงอีก 2 คน นั่งซ้อนท้ายขี่ผ่านตนไป โดยในตอนแรกมีท่าทีเหมือนจะนำของมาทิ้งตรงถังขยะที่ตนกำลังจะเก็บของในถังขยะ แต่ก็ได้ขี่เลยไป
จนเมื่อตนเดินมาถึงถังขยะที่พบศพเด็ก ก็พบว่าถังขยะใบนี้ถูกเปิดฝาออก เมื่อเข้าไปดูเพื่อจะเลือกเก็บขยะ พบว่ามีถุงดำอยู่ด้านบนสุด เมื่อเปิดออกดูก็พบศพเด็กทารกเพิ่งคลอดพร้อมกับสายรกอยู่ในถังขยะ
เบื้องต้น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บดีเอ็นเอที่กระพุ้งแก้ม และคราบเลือดบริเวณรกศพเด็กทารก เพื่อเก็บไว้หาหลักฐานในการนำไปเปรียบว่าศพเด็กทารกดังกล่าวเป็นลูกของผู้ใด เพื่อติดตามนำตัวแม่ของเด็กมาดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวน นางหนูแดง ศรีกลาง ผู้พบศพเด็กทารกคนแรก ให้การว่า ตนมีอาชีพเก็บขยะขาย โดยจะตระเวนเก็บขยะในถังขยะ ที่บริเวณรอบสวนสาธารณะวังมัจฉาริมหนองบัวทุกคืน ก่อนจะมาพบศพเด็กทารก ตนเห็นเด็กวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนมาด้วยกัน 3 คน โดยมีผู้ชายเป็นผู้ขี่ และมีวัยรุ่นหญิงอีก 2 คน นั่งซ้อนท้ายขี่ผ่านตนไป โดยในตอนแรกมีท่าทีเหมือนจะนำของมาทิ้งตรงถังขยะที่ตนกำลังจะเก็บของในถังขยะ แต่ก็ได้ขี่เลยไป
จนเมื่อตนเดินมาถึงถังขยะที่พบศพเด็ก ก็พบว่าถังขยะใบนี้ถูกเปิดฝาออก เมื่อเข้าไปดูเพื่อจะเลือกเก็บขยะ พบว่ามีถุงดำอยู่ด้านบนสุด เมื่อเปิดออกดูก็พบศพเด็กทารกเพิ่งคลอดพร้อมกับสายรกอยู่ในถังขยะ
เบื้องต้น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บดีเอ็นเอที่กระพุ้งแก้ม และคราบเลือดบริเวณรกศพเด็กทารก เพื่อเก็บไว้หาหลักฐานในการนำไปเปรียบว่าศพเด็กทารกดังกล่าวเป็นลูกของผู้ใด เพื่อติดตามนำตัวแม่ของเด็กมาดำเนินคดีต่อไป