8 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รรท.รองผบช.ภ.5 เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายกฤษณะ อมิตรสญ
หรือบอล แฟนอุ้ม ลักขณา ดาราสาวชื่อดัง พร้อมพวก 4 คน
รุมทำร้ายร่างกายนายอิศราชนุวัฒน์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอนด์ บุตรชาย
พล.ต.วิทยา วรรควิสันต์ ผบล.มทบ. 38 จ.น่าน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุเกิดที่ร้านมาลิน สกาย ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าพนักงานสอบสวนได้สอบพยานที่เป็นกลุ่มนักศึกษา
ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพิ่มอีก 10 ปาก จากพยานที่สอบไปแล้ว 26 ปาก รวมเป็น
36 ปาก ซึ่งได้เรียกสอบพยานทุกคน รวมทั้งกลุ่มดารา
หรือนักแสดงที่ยังไม่ได้มาให้ปากคำอีก 9 ปาก จาก 11 ปาก
ซึ่งพยานที่เป็นกลุ่มนักศึกษา
ได้เห็นและได้ยินมากกว่าผู้เสียหายให้ปากคำพนักงานสอบสวนและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ส่วนกลุ่มดารา ที่อยู่ในที่ร้านดังกล่าวและให้ปากคำแล้วคืออุ้ม ลักขณา และหมาก ปริญ เพียงให้การว่า โต๊ะดารานั่งอยู่ไกลจากหน้าห้องน้ำที่เกิดเหตุ มีเสียงเพลงดัง ไม่ได้ยินเสียง หรือเห็นเกิดเหตุการณ์อย่างใด พนักงานสอบสวนฟังทุกฝ่าย ทำตามขั้นตอนกรอบระเบียบกฏหมาย เคยถูกฝ่ายผู้เสียหายบอกว่าทำคดีล่าช้า ส่วนฝ่ายญาติผู้ต้องหาบอกว่าถูกกลั่นแกล้ง เป็นเรื่องที่ดีที่ตำรวจถูกตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าตำรวจเป็นกลาง ไม่ได้ลำเอียง หรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนกรณี พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.สิทธิพร มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ. 5 เพราะทำงานล่าช้า ไม่เก่ง ต้องเรียกมาฝึกและทบทวนเป็นพนักงานสืบสวนใหม่ ซี่งคดีดังกล่าว ให้ชุดสืบสวน ภาค 5 ลงไปทำคดี หรือหาพยานหลักฐานแทน
มีกระแสข่าวนายกฤษณะ พร้อมพวกหลบไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต หลังศาลให้ประกันตัว เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.พิทยา กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนี ถ้าได้รับการประกันตัว ก็สามารถไปอยู่ที่ไหนในประเทศได้แต่ห้ามออกนอกอาณาจักร แต่ต้องมารายงานตัวที่ศาล เมื่อครบกำหนดฝาก 12 วัน ถ้าไม่มารายงานตัว ต้องเรียกนายประกันมา เพื่อยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก่อนออกหมายจับอีกครั้ง เพราะตำรวจไม่ได้เฝ้าประกบ หรือติดตามผู้ต้องหาตลอดเวลา
"กรณี พล.ต.วิทยา บิดาผู้เสียหาย ไม่เคยขอเร่งรัดคดี หรือพูดอะไรเลย เพียงบอกว่าให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น และไม่เคยมีใครโทรมาสั่งคดีดังกล่าว ทั้งนี้ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้สอบผู้เกี่ยวข้องทุกคน ตรงประเด็น ยืนยันไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายไหน นอกจากสื่อเท่านั้น ส่วนการสอบเส้นทางการเงิน และธุระกิจของนายกฤษณะ มอบหมายให้ พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบ และรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ" พล.ต.ต.พิทยา กล่าว
ส่วนกลุ่มดารา ที่อยู่ในที่ร้านดังกล่าวและให้ปากคำแล้วคืออุ้ม ลักขณา และหมาก ปริญ เพียงให้การว่า โต๊ะดารานั่งอยู่ไกลจากหน้าห้องน้ำที่เกิดเหตุ มีเสียงเพลงดัง ไม่ได้ยินเสียง หรือเห็นเกิดเหตุการณ์อย่างใด พนักงานสอบสวนฟังทุกฝ่าย ทำตามขั้นตอนกรอบระเบียบกฏหมาย เคยถูกฝ่ายผู้เสียหายบอกว่าทำคดีล่าช้า ส่วนฝ่ายญาติผู้ต้องหาบอกว่าถูกกลั่นแกล้ง เป็นเรื่องที่ดีที่ตำรวจถูกตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าตำรวจเป็นกลาง ไม่ได้ลำเอียง หรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนกรณี พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.สิทธิพร มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ. 5 เพราะทำงานล่าช้า ไม่เก่ง ต้องเรียกมาฝึกและทบทวนเป็นพนักงานสืบสวนใหม่ ซี่งคดีดังกล่าว ให้ชุดสืบสวน ภาค 5 ลงไปทำคดี หรือหาพยานหลักฐานแทน
มีกระแสข่าวนายกฤษณะ พร้อมพวกหลบไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต หลังศาลให้ประกันตัว เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.พิทยา กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนี ถ้าได้รับการประกันตัว ก็สามารถไปอยู่ที่ไหนในประเทศได้แต่ห้ามออกนอกอาณาจักร แต่ต้องมารายงานตัวที่ศาล เมื่อครบกำหนดฝาก 12 วัน ถ้าไม่มารายงานตัว ต้องเรียกนายประกันมา เพื่อยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก่อนออกหมายจับอีกครั้ง เพราะตำรวจไม่ได้เฝ้าประกบ หรือติดตามผู้ต้องหาตลอดเวลา
"กรณี พล.ต.วิทยา บิดาผู้เสียหาย ไม่เคยขอเร่งรัดคดี หรือพูดอะไรเลย เพียงบอกว่าให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น และไม่เคยมีใครโทรมาสั่งคดีดังกล่าว ทั้งนี้ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้สอบผู้เกี่ยวข้องทุกคน ตรงประเด็น ยืนยันไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายไหน นอกจากสื่อเท่านั้น ส่วนการสอบเส้นทางการเงิน และธุระกิจของนายกฤษณะ มอบหมายให้ พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบ และรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ" พล.ต.ต.พิทยา กล่าว