การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย
และก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าจะหาชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบ
คงต้องเฟ้นหากันหน่อย เฉกเช่นเดียวกับคนในวงการบันเทิง
ที่มีหลายคู่สละโสดไปได้ไม่เท่าไหร่ มีอันต้องเลิกรากันไป ด้วยเหตุผลต่าง ๆ
นานา ล่าสุด "บันเทิงเดลินิวส์" ได้ข่าวแว่วมาว่า ชีวิตคู่ของพระเอกรุ่นพี่ "ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" กับศรีภรรยา "ยุ้ย-คนึงนิจ ศิริพงษ์ปรีดา" (พี่สาวของ นิ้ง-กุลสตรี) ที่ใช้ชีวิตคู่กันมาสิบกว่าปี
ก็ส่อแววล่มสลาย ถึงขั้นจะหย่ากันเร็ว ๆ นี้ โดยทั้งคู่มีพยานรักด้วยกัน 3
คน คือลูกสาวฝาแฝดชื่อ "ใบเตย-ใบตอง" อายุ 12 ขวบและลูกสาวคนสุดท้องชื่อ
"มู่หลาน" อายุ 10 ขวบ
เพื่อความกระจ่างและอยากรู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เราก็เลยติดต่อไปยัง "ไทด์-เอกพันธ์" พอได้ยินคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอึ้งไปพักนึง
พร้อมตอบว่า 'เป็นเรื่องจริงครับ เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว มันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งเราต่างก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน มีบางช่วงที่ผมรับงานละครและงานบันเทิงต่าง ๆ เยอะมาก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็อาจจะน้อยใจบ้างอะไรบ้าง แต่พอได้คุยกันเขาก็เข้าใจ (ในตอนนั้น)"
ก่อนที่จะแยกกันอยู่ เกิดอะไรขึ้น
"มีอะไรไม่รู้ ก็บึ้งตึงกันมาตลอด ไม่คุยกัน 4-5 เดือน คือเป็นเรื่องที่สะสมมาเรื่อย ๆ อย่างเค้าก็ไปได้ยินคนอื่นพูดถึงผมอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็ได้ยินคนอื่นพูดถึงเค้า มันฟังแล้ว ก็รู้สึกไม่ดีทั้งคู่ ก็เริ่มห่างกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นอยู่ในบ้านเดียวกัน วันหนึ่งเขาก็ขนที่นอนของเขาลงมาข้างล่าง จากนั้นไม่กี่วันก็ขนเสื้อผ้าผมออกจากห้อง เหมือนบอกเป็นนัย ๆ ผมก็เลยหอบเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่บ้าน แถวพุทธมณฑล"
ที่ผ่านมาก็เคยมีข่าวว่า "ไทด์" กับ "ยุ้ย"มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย จนผู้ใหญ่ในวงการฯ ต้องออกมาเคลียร์
"ทะเลาะกัน 3 วันดี 4 วันไข้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหยุมหยิม ต่างคนต่างไม่ยอม มีทิฐิ เขาชอบท้าหย่า ผมเข้าใจเขาอาจจะพูดด้วยความโมโห แต่พูดบ่อย ๆ คนฟังก็เสียความรู้สึก ยิ่งทำให้รู้สึกว่าชีวิตครอบครัวไม่มีอะไรแน่นอน จู่ ๆ อยากจะหย่าก็หย่า ไม่มีความผูกพันอะไรเลยหรือ มีอยู่ 1-2 ครั้ง เขาทำเกินเหตุต่อหน้าลูก ผมรับไม่ได้จริง ๆ"
ทุกวันนี้ยังรัก 'ยุ้ย" อยู่หรือป่าว??
"ก่อนหน้านี้ผมรักเขามาก เพราะเขาก็เป็นคนจิตใจดี ขี้สงสาร ระเบียบเรียบร้อย แต่นี่เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว แน่นอนความรักมันก็จืดจาง เพราะไม่ได้ติดต่อกันเลย นอกจากวันเสาร์-อาทิตย์ มีการตกลงกันว่า เราจะพาลูก ๆ ไปกินข้าว ไปเที่ยว ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กัน"
อย่างไรก็ดี "ไทด์-เอกพันธ์" ก็ยอมรับว่า! ชีวิตคู่ของเขาล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่พยายามแก้ไขทุกวิถีทาง แต่เมื่อไม่เป็นผล สุดท้ายก็คงต้องเลิกรากันไป 'เราคุยเรื่องหย่ากันแล้ว เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่างคนต่างไม่มีความสุข ลูก ๆ เองก็เข้าใจ เพราะเขาโตพอที่จะรับรู้เรื่องของพ่อแม่"
ส่วนจะไปหย่ากันเมื่อไหร่ ก็คงจะเป็นเร็ว ๆ นี้จ้า.
เพื่อความกระจ่างและอยากรู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เราก็เลยติดต่อไปยัง "ไทด์-เอกพันธ์" พอได้ยินคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอึ้งไปพักนึง
พร้อมตอบว่า 'เป็นเรื่องจริงครับ เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว มันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ซึ่งเราต่างก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน มีบางช่วงที่ผมรับงานละครและงานบันเทิงต่าง ๆ เยอะมาก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็อาจจะน้อยใจบ้างอะไรบ้าง แต่พอได้คุยกันเขาก็เข้าใจ (ในตอนนั้น)"
ก่อนที่จะแยกกันอยู่ เกิดอะไรขึ้น
"มีอะไรไม่รู้ ก็บึ้งตึงกันมาตลอด ไม่คุยกัน 4-5 เดือน คือเป็นเรื่องที่สะสมมาเรื่อย ๆ อย่างเค้าก็ไปได้ยินคนอื่นพูดถึงผมอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็ได้ยินคนอื่นพูดถึงเค้า มันฟังแล้ว ก็รู้สึกไม่ดีทั้งคู่ ก็เริ่มห่างกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นอยู่ในบ้านเดียวกัน วันหนึ่งเขาก็ขนที่นอนของเขาลงมาข้างล่าง จากนั้นไม่กี่วันก็ขนเสื้อผ้าผมออกจากห้อง เหมือนบอกเป็นนัย ๆ ผมก็เลยหอบเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่บ้าน แถวพุทธมณฑล"
ที่ผ่านมาก็เคยมีข่าวว่า "ไทด์" กับ "ยุ้ย"มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย จนผู้ใหญ่ในวงการฯ ต้องออกมาเคลียร์
"ทะเลาะกัน 3 วันดี 4 วันไข้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหยุมหยิม ต่างคนต่างไม่ยอม มีทิฐิ เขาชอบท้าหย่า ผมเข้าใจเขาอาจจะพูดด้วยความโมโห แต่พูดบ่อย ๆ คนฟังก็เสียความรู้สึก ยิ่งทำให้รู้สึกว่าชีวิตครอบครัวไม่มีอะไรแน่นอน จู่ ๆ อยากจะหย่าก็หย่า ไม่มีความผูกพันอะไรเลยหรือ มีอยู่ 1-2 ครั้ง เขาทำเกินเหตุต่อหน้าลูก ผมรับไม่ได้จริง ๆ"
ทุกวันนี้ยังรัก 'ยุ้ย" อยู่หรือป่าว??
"ก่อนหน้านี้ผมรักเขามาก เพราะเขาก็เป็นคนจิตใจดี ขี้สงสาร ระเบียบเรียบร้อย แต่นี่เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว แน่นอนความรักมันก็จืดจาง เพราะไม่ได้ติดต่อกันเลย นอกจากวันเสาร์-อาทิตย์ มีการตกลงกันว่า เราจะพาลูก ๆ ไปกินข้าว ไปเที่ยว ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กัน"
อย่างไรก็ดี "ไทด์-เอกพันธ์" ก็ยอมรับว่า! ชีวิตคู่ของเขาล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่พยายามแก้ไขทุกวิถีทาง แต่เมื่อไม่เป็นผล สุดท้ายก็คงต้องเลิกรากันไป 'เราคุยเรื่องหย่ากันแล้ว เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่างคนต่างไม่มีความสุข ลูก ๆ เองก็เข้าใจ เพราะเขาโตพอที่จะรับรู้เรื่องของพ่อแม่"
ส่วนจะไปหย่ากันเมื่อไหร่ ก็คงจะเป็นเร็ว ๆ นี้จ้า.
