วันที่ 5 ม.ค. ที่ ณ
Billboard Cafe' ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา
พิธีกรชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ #OurSong
ตอกย้ำภาพลักษณ์ "ช้าง...เติมเต็มคำว่าเพื่อน"
ถึงเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาแก้ไขบทลงโทษ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา และ แจ๊ค-เฉลิมพล หรือ แจ๊ค แฟนฉัน ในคดีหมิ่นประมาท ‘ไฮโซแชมป์-จิรัฏฐ์'
ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
กล่าวหาโจทก์เบี้ยวค่าจ้างการทำประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ต จากเดิมโทษจำคุก 1
ปี แก้ไขเหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
โดยจะต้องรายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน เป็นเวลา 4 ครั้ง
และบริการสังคม 12 ชั่วโมง
โดย ‘วู้ดดี้' เผยว่า "ตั้งแต่มีการตัดสินในวันนั้นก็มีผู้ใหญ่ เพื่อนคุณแม่ เพื่อนๆ ทั้งวงการ และแฟนๆ ที่ติดตามในโซเชียลต่างๆ มาคอมเม้นต์ให้กำลังใจเยอะมาก ส่วนใหญ่จะบอกว่ายินดีด้วย ตัดสินออกมาแบบนี้มันดีกว่าคราวที่แล้ว รู้สึกปล่อยวาง ว่าง และโล่ง ผมเพิ่งรู้มาว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่หลายคนเป็นห่วงเรามากแต่บางคนไม่มีโอกาสได้มาบอกส่วนตัวก็จะส่งข้อความมา บางคนโทร.มาด้วยตัวเองก็มี"
"ช่วงระหว่างสองปีที่ผ่านมามันทำให้ตัวเราทบทวนตลอดเวลาว่าทำไมเราถึงพลาดซะขนาดนั้น รู้สึกว่าตัวเราเองกับเมื่อสองปีที่แล้วมันเป็นคนละคน ทุกเช้าที่ตื่นมามันทำให้ผมคิดว่าจะไม่เป็นคนคนนั้น แล้วผมก็จะบอกแจ๊ค(แฟฉัน)เสมอว่าเห็นไหมว่าวันนั้นกับวันนี้มันช่างต่างกัน แจ๊คเองก็ยังอึ้งไปเลยว่าทำไมเราถึงพูดแบบนั้นในวันนั้น ถึงแม้ว่าแขกหรือว่าคนที่เราเป็นเขาด้วยเราไม่ได้อินหรืออะไรมากกับประเด็น แต่ในฐานะที่เราทำงานในแวดวงการนี้สอนเราเยอะมาก ดังนั้นสองปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่เราไม่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่นึกถึงเรื่องนี้เลย แล้วโดยเฉพาะกับการตัดสินล่าสุดมันยิ่งทำให้เรามีสติมากขึ้นในการพูด ในการจัดรายการ ไม่ใช่ว่าเราเปิดปากแล้วจะพูดทุกอย่างในโลกนี้ได้" พิธีกรคนดังกล่าว
ด้านแจ๊คค่อนข้างจะเครียดกับเรื่องนี้ได้ให้กำลังใจเขายังไงบ้าง
วู้ดดี้กล่าวว่า
"ขอเล่าในมุมตลกแล้วกันเพื่อคลายเครียด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ศาลตัดสินเราก็ยืนฟังอยู่ประมาณ 10 นาที พอศาลตัดสินเสร็จปั๊บแจ๊คก็หันมาถามว่าตกลงมันคือยังไงผมไม่เข้าใจ จนครั้งล่าสุดศาลอุทธรณ์อ่านสำนวนจบแล้วก็บอกว่าให้รอลงอาญา แจ๊คก็หันมาถามอีกครั้งว่าตกลงเราติดคุกหรือยังไง เฮ้ย! คือแจ๊คมีความเสมอต้นเสมอปลายที่ไม่เข้าใจเหมือนเดิม แต่แจ๊คโตขึ้นมาก ตั้งแต่เขาลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้เพิ่มกล้ามเนื้อที่ร่างกาย แต่ปัญญาเพิ่มมาด้วยกับกล้ามเนื้อ บอกได้เลยว่าแจ็คจะกลายเป็นผู้นำที่น่าจับตามองมาก ตั้งแต่แปลงร่างมาเขาดูมีวุฒิความเป็นผู้นำมากขึ้น เรียกว่าเป็นนิวแจ๊คและก็มีทัศนคติใหม่ๆ จากเดิมที่เขามองว่าทำไมโดนตัดสินแบบนั้นแบบนี้ แต่วันนี้เขามองว่าดีเหมือนกันที่ตัดสินออกมาเป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีบทเรียนกับชีวิต"
มีโอกาสได้คุยกับคนที่เป็นข่าวบ้างไหมในช่วงสองปีก่อนหน้านี้ วู้ดดี้ตอบว่า "ผมมีโอกาสคุยกับคนที่เป็นข่าวทุกคนมาตลอด ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีการคุยและต้องหาทางยุติในที่สุดว่าจะต้องเป็นยังไง แต่สุดท้ายเราก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน"
หลังจากนี้เตรียมตัวในการดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
วู้ดดี้กล่าวว่า "ตอนนี้ทำงานอย่างเดียวเลย จัดรายการแล้วก็เดินหน้าต่อไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราทบทวนหลายอย่าง แล้วสิ่งที่เราตัดสินใจก่อนปีใหม่ก็คือตัดสินใจที่จะปิดตัวรายการ ‘วู้ดดี้เกิดมาคุย' ลงในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ว่ารายการตื่นมาคุยยังมีอยู่กับทางช่อง 9 อสมท เพียงแค่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรในอีกประมาณเดือนนึงข้างหน้าและผมอาจจะไม่ได้มาเป็นพิธีกรแล้ว ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจปิดรายการ ‘เกิดมาคุย' ด้วยความที่รายการอยู่มาถึง 9 ปี เชื่อว่าทุกอย่างต้องมีเริ่มต้นและมีจบ แล้วเราก็คิดว่าวันนี้เราอยากจบในจุดที่เราอิ่มและสวยงามที่สุด หลังจากนี้ในไตรมาสต่อไปก็ค่อยว่ากันต่อว่าเราจะไปทำอะไรยังไงที่ไหน อยากใช้เวลาตรงนี้ทบทวนหน่อยเพราะต้องบอกว่าแค่งานในโซเชียลฯ มันก็เยอะแล้วและมีคอนเทนต์เยอะมากที่จะเล่น ตอนนี้วู้ดดี้สนใจที่จะรุกตลาดยูทูปและเฟซบุ๊กไลฟ์ แต่ถามว่ามีช่องอื่นทาบทามมาไหมก็มี แล้วตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าเราจะไปลงตัวกับที่ไหน แต่ถ้าไปกับช่องอื่นก็จะเป็นในฟอร์แมตอื่นไปที่ไม่ใช่วู้ดดี้เกิดมาคุย"
แล้วกับรายการที่จะทำร่วมกับกาละแมร์ พัชรศรี ล่ะ "รายการที่ทำกับกาละแมร์เรากำลังรออยู่ว่ามันจะออกไตรมาสไหนยังไง รูปแบบรายการจะใหม่แกะกล่องเลยครับ เดี๋ยวรอแถลงพร้อมกับกาละแมร์ทีเดียวแล้วกัน แต่มันจะเป็นรายการที่อลังการมาก" พิธีกรคนดังกล่าว
แสดงว่าจะไม่เอารายการวู้ดดี้เกิดมาคุยไปลงที่ช่องไหนแน่นอน
วู้ดดี้ย้ำว่า "เอาอย่างนี้ดีกว่าผมประกาศเลยว่าผมจะไปดิจิตอลอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนโลกทีวีเดี๋ยวว่ากันอีกทีว่าจะไปลงอะไรที่ไหนยังไงหรืออาจจะไม่ลงเลยก็ได้ ถามว่าเกี่ยวกับเรื่องของเรตติ้งของทางช่อง 9 ไหม ต้องบอกว่าช่อง 9 ให้กำเนิดวู้ดดี้ขึ้นมา แล้ววันนี้มันก็ครบเก้าปีพอดี ดังนั้นทุกอย่างมันมีจุดที่มันสิ้นสุด เราบอกช่อง 9 ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วด้วยซ้ำว่ารายการมันอิ่มตัวแล้ว เราอยากจบในช่วงที่มันพีคสุด ดีกว่าจบในช่วงที่มันแบบตกต่ำมาก แล้วก็ต้องบอกว่าทุกวันนี้เราขายโฆษณาได้ดีกว่าเมื่อเก้าปีที่แล้ว ลูกค้าเต็มตลอด แต่สิ่งที่วู้ดดี้อยากทำก็คือโลกของออนไลน์ ดิจิตอล โซเชียลต่างๆ เพราะรู้สึกว่ามันสนุกและเล่นอะไรได้เยอะมาก แต่ฟอร์แมตของทีวีในการเล่ารายการหนึ่งชั่วโมงมันเป็นการเล่าแบบเก่า เราชอบเราแบบกระชับแบบใหม่ ฉะนั้นจึงสนใจที่อยากทำคอนเทนต์ที่มันสั้น กระชับ เร็วๆ ดิจิตอลมันจึงตอบโจทย์มากกว่า"
โดย ‘วู้ดดี้' เผยว่า "ตั้งแต่มีการตัดสินในวันนั้นก็มีผู้ใหญ่ เพื่อนคุณแม่ เพื่อนๆ ทั้งวงการ และแฟนๆ ที่ติดตามในโซเชียลต่างๆ มาคอมเม้นต์ให้กำลังใจเยอะมาก ส่วนใหญ่จะบอกว่ายินดีด้วย ตัดสินออกมาแบบนี้มันดีกว่าคราวที่แล้ว รู้สึกปล่อยวาง ว่าง และโล่ง ผมเพิ่งรู้มาว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่หลายคนเป็นห่วงเรามากแต่บางคนไม่มีโอกาสได้มาบอกส่วนตัวก็จะส่งข้อความมา บางคนโทร.มาด้วยตัวเองก็มี"
"ช่วงระหว่างสองปีที่ผ่านมามันทำให้ตัวเราทบทวนตลอดเวลาว่าทำไมเราถึงพลาดซะขนาดนั้น รู้สึกว่าตัวเราเองกับเมื่อสองปีที่แล้วมันเป็นคนละคน ทุกเช้าที่ตื่นมามันทำให้ผมคิดว่าจะไม่เป็นคนคนนั้น แล้วผมก็จะบอกแจ๊ค(แฟฉัน)เสมอว่าเห็นไหมว่าวันนั้นกับวันนี้มันช่างต่างกัน แจ๊คเองก็ยังอึ้งไปเลยว่าทำไมเราถึงพูดแบบนั้นในวันนั้น ถึงแม้ว่าแขกหรือว่าคนที่เราเป็นเขาด้วยเราไม่ได้อินหรืออะไรมากกับประเด็น แต่ในฐานะที่เราทำงานในแวดวงการนี้สอนเราเยอะมาก ดังนั้นสองปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่เราไม่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่นึกถึงเรื่องนี้เลย แล้วโดยเฉพาะกับการตัดสินล่าสุดมันยิ่งทำให้เรามีสติมากขึ้นในการพูด ในการจัดรายการ ไม่ใช่ว่าเราเปิดปากแล้วจะพูดทุกอย่างในโลกนี้ได้" พิธีกรคนดังกล่าว
ด้านแจ๊คค่อนข้างจะเครียดกับเรื่องนี้ได้ให้กำลังใจเขายังไงบ้าง
วู้ดดี้กล่าวว่า
"ขอเล่าในมุมตลกแล้วกันเพื่อคลายเครียด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ศาลตัดสินเราก็ยืนฟังอยู่ประมาณ 10 นาที พอศาลตัดสินเสร็จปั๊บแจ๊คก็หันมาถามว่าตกลงมันคือยังไงผมไม่เข้าใจ จนครั้งล่าสุดศาลอุทธรณ์อ่านสำนวนจบแล้วก็บอกว่าให้รอลงอาญา แจ๊คก็หันมาถามอีกครั้งว่าตกลงเราติดคุกหรือยังไง เฮ้ย! คือแจ๊คมีความเสมอต้นเสมอปลายที่ไม่เข้าใจเหมือนเดิม แต่แจ๊คโตขึ้นมาก ตั้งแต่เขาลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้เพิ่มกล้ามเนื้อที่ร่างกาย แต่ปัญญาเพิ่มมาด้วยกับกล้ามเนื้อ บอกได้เลยว่าแจ็คจะกลายเป็นผู้นำที่น่าจับตามองมาก ตั้งแต่แปลงร่างมาเขาดูมีวุฒิความเป็นผู้นำมากขึ้น เรียกว่าเป็นนิวแจ๊คและก็มีทัศนคติใหม่ๆ จากเดิมที่เขามองว่าทำไมโดนตัดสินแบบนั้นแบบนี้ แต่วันนี้เขามองว่าดีเหมือนกันที่ตัดสินออกมาเป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีบทเรียนกับชีวิต"
มีโอกาสได้คุยกับคนที่เป็นข่าวบ้างไหมในช่วงสองปีก่อนหน้านี้ วู้ดดี้ตอบว่า "ผมมีโอกาสคุยกับคนที่เป็นข่าวทุกคนมาตลอด ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีการคุยและต้องหาทางยุติในที่สุดว่าจะต้องเป็นยังไง แต่สุดท้ายเราก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน"
หลังจากนี้เตรียมตัวในการดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
วู้ดดี้กล่าวว่า "ตอนนี้ทำงานอย่างเดียวเลย จัดรายการแล้วก็เดินหน้าต่อไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราทบทวนหลายอย่าง แล้วสิ่งที่เราตัดสินใจก่อนปีใหม่ก็คือตัดสินใจที่จะปิดตัวรายการ ‘วู้ดดี้เกิดมาคุย' ลงในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ว่ารายการตื่นมาคุยยังมีอยู่กับทางช่อง 9 อสมท เพียงแค่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรในอีกประมาณเดือนนึงข้างหน้าและผมอาจจะไม่ได้มาเป็นพิธีกรแล้ว ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจปิดรายการ ‘เกิดมาคุย' ด้วยความที่รายการอยู่มาถึง 9 ปี เชื่อว่าทุกอย่างต้องมีเริ่มต้นและมีจบ แล้วเราก็คิดว่าวันนี้เราอยากจบในจุดที่เราอิ่มและสวยงามที่สุด หลังจากนี้ในไตรมาสต่อไปก็ค่อยว่ากันต่อว่าเราจะไปทำอะไรยังไงที่ไหน อยากใช้เวลาตรงนี้ทบทวนหน่อยเพราะต้องบอกว่าแค่งานในโซเชียลฯ มันก็เยอะแล้วและมีคอนเทนต์เยอะมากที่จะเล่น ตอนนี้วู้ดดี้สนใจที่จะรุกตลาดยูทูปและเฟซบุ๊กไลฟ์ แต่ถามว่ามีช่องอื่นทาบทามมาไหมก็มี แล้วตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าเราจะไปลงตัวกับที่ไหน แต่ถ้าไปกับช่องอื่นก็จะเป็นในฟอร์แมตอื่นไปที่ไม่ใช่วู้ดดี้เกิดมาคุย"
แล้วกับรายการที่จะทำร่วมกับกาละแมร์ พัชรศรี ล่ะ "รายการที่ทำกับกาละแมร์เรากำลังรออยู่ว่ามันจะออกไตรมาสไหนยังไง รูปแบบรายการจะใหม่แกะกล่องเลยครับ เดี๋ยวรอแถลงพร้อมกับกาละแมร์ทีเดียวแล้วกัน แต่มันจะเป็นรายการที่อลังการมาก" พิธีกรคนดังกล่าว
แสดงว่าจะไม่เอารายการวู้ดดี้เกิดมาคุยไปลงที่ช่องไหนแน่นอน
วู้ดดี้ย้ำว่า "เอาอย่างนี้ดีกว่าผมประกาศเลยว่าผมจะไปดิจิตอลอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนโลกทีวีเดี๋ยวว่ากันอีกทีว่าจะไปลงอะไรที่ไหนยังไงหรืออาจจะไม่ลงเลยก็ได้ ถามว่าเกี่ยวกับเรื่องของเรตติ้งของทางช่อง 9 ไหม ต้องบอกว่าช่อง 9 ให้กำเนิดวู้ดดี้ขึ้นมา แล้ววันนี้มันก็ครบเก้าปีพอดี ดังนั้นทุกอย่างมันมีจุดที่มันสิ้นสุด เราบอกช่อง 9 ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วด้วยซ้ำว่ารายการมันอิ่มตัวแล้ว เราอยากจบในช่วงที่มันพีคสุด ดีกว่าจบในช่วงที่มันแบบตกต่ำมาก แล้วก็ต้องบอกว่าทุกวันนี้เราขายโฆษณาได้ดีกว่าเมื่อเก้าปีที่แล้ว ลูกค้าเต็มตลอด แต่สิ่งที่วู้ดดี้อยากทำก็คือโลกของออนไลน์ ดิจิตอล โซเชียลต่างๆ เพราะรู้สึกว่ามันสนุกและเล่นอะไรได้เยอะมาก แต่ฟอร์แมตของทีวีในการเล่ารายการหนึ่งชั่วโมงมันเป็นการเล่าแบบเก่า เราชอบเราแบบกระชับแบบใหม่ ฉะนั้นจึงสนใจที่อยากทำคอนเทนต์ที่มันสั้น กระชับ เร็วๆ ดิจิตอลมันจึงตอบโจทย์มากกว่า"