วันที่ 24 ก.พ. 60 หลวงปุ่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย นครปฐม ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ...
ยิ่งใกล้ตาย ก็ยิ่งดิ้น เรียกว่าดิ้นจนตัวตาย
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
มีคนรายงานว่า ช่วงนี้ไม่ว่าคุณไพบูลย์ นิติตะวัน คุณหมอมโน เลาหวณิช และพุทธะอิสระ จะไปออกรายการทีวีของช่องโทรทัศน์ใดๆ เมื่อพูดถึงลัทธิทำจนตัวตาย ก็จะมีบรรดาลิ่วล้อของลัทธินี้พากันเข้าไปคอมเม้นท์ในโซเชียลมีเดีย ด่าว่าอย่างเมามัน
ฉันสังเกตดูว่าคนพวกนี้จะจัดทีมเฝ้าระวัง และติดตามหาข้อมูลว่าพวกเรา ๓ คนจะไปแสดงความคิดเห็นที่ไหน พวกลิ่วล้อที่มีหน้าที่เฝ้าระวังก็จะส่งสัญญาณบอกพรรคพวกให้เข้ามาถล่ม แม้บางคนอาจจะไม่ได้ฟังเสียด้วยซ้ำ แต่ก็นัดกันเข้าไปด่าเพื่อให้ทีวีช่องนั้นๆ เข็ดขยาด ไม่อยากเชิญทั้ง ๓ คนไปออกรายการ
อีกทั้งก็เพื่อแสดงให้ผู้คนในสังคมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยังเคารพศรัทธาต่อลัทธิทำจนตัวตายอยู่อย่างมากล้น ทั้งที่บางคนวนเวียนเข้าไปด่ากันคนละ ๕-๑๐ รอบ และใช้นามแฝงแตกต่างกัน
เล่ห์ เพทุบาย ของพวกลัทธินี้ยังไม่ได้มีแค่นี้ มันยังเพียรพยายามค้นหารูปภาพ หรือเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต นำมาผูกเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วก็ตั้งคอมเม้นให้เป็นข้อวิจารณ์แก่ลิ่วล้อพวกพ้องคิดไปเองว่าคนในภาพกำลังเข้าไปกำกับดูแลในสถานการณ์ปัจจุบัน
ช่น กรณีนายนพดล สิริวังโส นำภาพตอนที่ฉันนำประชาชนเข้ายื่นหนังสือสถานทูตอเมริกา กรณีจาบจ้วงกฎหมายเบื้องสูงของไทย เพื่อขอเปลี่ยนตัวท่านทูตคนใหม่ ในปีที่แล้ว เมื่อเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ก็ตามมาส่งที่รถ แต่นายนพดลก็ได้นำภาพเหล่านี้มาแสดงในสถานการณ์ที่ลัทธิของตนถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้มาตรา ๔๔ เข้าตรวจค้น
โดยนายนพดลโพสต์ประกอบรูปว่า
"ผู้บัญชาการมาแล้ว สุดยอดจริงๆ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ มีนายดี"
นี่คือธาตุแท้ของพวกลัทธินี้ โกหกจนเป็นสันดาน ใส่ร้ายจนกลายเป็นนิสัย ขอเพียงกูรอด ก็พร้อมที่จะทำอะไรก็ได้
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงตรัสว่า
"ผู้ที่โกหกทั้งที่รู้อยู่ว่ากำลังโกหก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำชั่วยิ่งกว่า"
พุทธะอิสระ
ยิ่งใกล้ตาย ก็ยิ่งดิ้น เรียกว่าดิ้นจนตัวตาย
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
มีคนรายงานว่า ช่วงนี้ไม่ว่าคุณไพบูลย์ นิติตะวัน คุณหมอมโน เลาหวณิช และพุทธะอิสระ จะไปออกรายการทีวีของช่องโทรทัศน์ใดๆ เมื่อพูดถึงลัทธิทำจนตัวตาย ก็จะมีบรรดาลิ่วล้อของลัทธินี้พากันเข้าไปคอมเม้นท์ในโซเชียลมีเดีย ด่าว่าอย่างเมามัน
ฉันสังเกตดูว่าคนพวกนี้จะจัดทีมเฝ้าระวัง และติดตามหาข้อมูลว่าพวกเรา ๓ คนจะไปแสดงความคิดเห็นที่ไหน พวกลิ่วล้อที่มีหน้าที่เฝ้าระวังก็จะส่งสัญญาณบอกพรรคพวกให้เข้ามาถล่ม แม้บางคนอาจจะไม่ได้ฟังเสียด้วยซ้ำ แต่ก็นัดกันเข้าไปด่าเพื่อให้ทีวีช่องนั้นๆ เข็ดขยาด ไม่อยากเชิญทั้ง ๓ คนไปออกรายการ
อีกทั้งก็เพื่อแสดงให้ผู้คนในสังคมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยังเคารพศรัทธาต่อลัทธิทำจนตัวตายอยู่อย่างมากล้น ทั้งที่บางคนวนเวียนเข้าไปด่ากันคนละ ๕-๑๐ รอบ และใช้นามแฝงแตกต่างกัน
เล่ห์ เพทุบาย ของพวกลัทธินี้ยังไม่ได้มีแค่นี้ มันยังเพียรพยายามค้นหารูปภาพ หรือเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต นำมาผูกเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วก็ตั้งคอมเม้นให้เป็นข้อวิจารณ์แก่ลิ่วล้อพวกพ้องคิดไปเองว่าคนในภาพกำลังเข้าไปกำกับดูแลในสถานการณ์ปัจจุบัน
ช่น กรณีนายนพดล สิริวังโส นำภาพตอนที่ฉันนำประชาชนเข้ายื่นหนังสือสถานทูตอเมริกา กรณีจาบจ้วงกฎหมายเบื้องสูงของไทย เพื่อขอเปลี่ยนตัวท่านทูตคนใหม่ ในปีที่แล้ว เมื่อเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ก็ตามมาส่งที่รถ แต่นายนพดลก็ได้นำภาพเหล่านี้มาแสดงในสถานการณ์ที่ลัทธิของตนถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้มาตรา ๔๔ เข้าตรวจค้น
โดยนายนพดลโพสต์ประกอบรูปว่า
"ผู้บัญชาการมาแล้ว สุดยอดจริงๆ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ มีนายดี"
นี่คือธาตุแท้ของพวกลัทธินี้ โกหกจนเป็นสันดาน ใส่ร้ายจนกลายเป็นนิสัย ขอเพียงกูรอด ก็พร้อมที่จะทำอะไรก็ได้
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงตรัสว่า
"ผู้ที่โกหกทั้งที่รู้อยู่ว่ากำลังโกหก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำชั่วยิ่งกว่า"
พุทธะอิสระ