ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ
ที่เกิดขึ้นในสังคม
เมื่อเด็กชายคนหนึ่งช่วยเก็บกระเป๋าที่ตกหล่นคืนเจ้าของ
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์
เมื่อนายพุธ มุมกลาง ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่ทำงาน โดยมี ด.ช.พงศกร
มุมกลาง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านสวนอุดมวิทยา หมู่ 3
ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี
ลูกชายนั่งซ้อนท้ายมุ่งหน้าไปทางบางแสนเพื่อกลับบ้านพัก
เมื่อมาถึงบริเวณบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด ตั้งอยู่ที่ 39/1-4 หมู่ 1 ริมถนนสุขุมวิท ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ด.ช.พงศกรได้เห็นกระเป๋าเงินตกอยู่กลางถนน มีธนบัตรปลิวเกลื่อนถนน และชาวบ้านบริเวณดังกล่าววิ่งไล่เก็บและเอาใส่กระเป๋าตนเอง ก่อนที่จะจากไป แต่ ด.ช.พงศกรได้พยายามเก็บบัตรเอทีเอ็ม และบัตรราชการออกให้ รวมทั้งเงินที่เหลือบนพื้นถนน หลังจากนั้นได้ชักชวนพ่อนำมาส่งให้กับ ร.ต.ท.อภินันท์ บุญยรัตน์ ร้อยเวร สภ.เสม็ด เพื่อส่งคืนเจ้าของ
จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของกระเป๋าคือ นางบังอร เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลชลบุรี จึงได้ประสานงานให้มารับกระเป๋าพร้อมทั้งเงินจำนวนหนึ่งที่ ด.ช.พงศกรและพ่อเก็บได้ทั้งหมด 3,220 บาท และเอกสารจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นนางบังอรได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งรับกระเป๋า และเอกสารทั้งหมด หลังจากนั้นได้มอบเงินให้ ด.ช.พงศกรเป็นสินน้ำใจ ครั้งแรกจะให้เงินที่เหลือทั้งหมด แต่น้ำมันหมดพอดี จึงขอเงินที่เหลือไว้เติมน้ำมันรถ
ทั้งนี้ นางบังอร กล่าวว่า หลังจากทำงานที่โรงพยาบาลชลบุรีแล้วจะเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.บางละมุง แต่ลืมกระเป๋าเงินไว้ที่บริเวณที่ปัดน้ำฝนรถเก๋ง คาดว่าเมื่อถึงที่บริเวณบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด คงจะตกลงพื้นถนน หลังจากนั้นรถได้เหยียบกระเป๋าแตก ทำให้เงินที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมด 20,000 บาท กระจายเกลื่อนถนน จนกระทั่ง ด.ช.พงศกรเก็บได้ 3,220 บาท แล้วนำมามอบให้กับตำรวจ จึงได้ให้สินน้ำใจไปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนที่เก็บเงินที่เหลือนั้นไป ไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ เพราะถือว่าสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากพ่อป่วยจะได้หายไวๆ ส่วน ด.ช.พงศกรนั้นขอชมด้วยด้วยใจจริง พ่อแม่เลี้ยงมาดี ถ้าเด็กไทยเป็นอย่างนี้ เชื่อว่าประเทศชาติเจริญแน่นอน
ด้าน ด.ช.พงศกร มุมกลาง ผู้เก็บกระเป๋าเงินได้กล่าวว่า ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับพ่อ เมื่อเห็นกระเป๋าเงินตกอยู่กลางถนน จึงได้พยายามเก็บบัตรเอทีเอ็ม บัตรของทางราชการ และเงินได้จำนวนหนึ่ง ช่วงนั้นได้มีชาวบ้านมาเก็บใส่กระเป๋าไปจำนวนมาก การที่มาส่งให้กับตำรวจก็เพราะอยากทำความดีกับเขาบ้าง
เมื่อมาถึงบริเวณบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด ตั้งอยู่ที่ 39/1-4 หมู่ 1 ริมถนนสุขุมวิท ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ด.ช.พงศกรได้เห็นกระเป๋าเงินตกอยู่กลางถนน มีธนบัตรปลิวเกลื่อนถนน และชาวบ้านบริเวณดังกล่าววิ่งไล่เก็บและเอาใส่กระเป๋าตนเอง ก่อนที่จะจากไป แต่ ด.ช.พงศกรได้พยายามเก็บบัตรเอทีเอ็ม และบัตรราชการออกให้ รวมทั้งเงินที่เหลือบนพื้นถนน หลังจากนั้นได้ชักชวนพ่อนำมาส่งให้กับ ร.ต.ท.อภินันท์ บุญยรัตน์ ร้อยเวร สภ.เสม็ด เพื่อส่งคืนเจ้าของ
จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของกระเป๋าคือ นางบังอร เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลชลบุรี จึงได้ประสานงานให้มารับกระเป๋าพร้อมทั้งเงินจำนวนหนึ่งที่ ด.ช.พงศกรและพ่อเก็บได้ทั้งหมด 3,220 บาท และเอกสารจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นนางบังอรได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งรับกระเป๋า และเอกสารทั้งหมด หลังจากนั้นได้มอบเงินให้ ด.ช.พงศกรเป็นสินน้ำใจ ครั้งแรกจะให้เงินที่เหลือทั้งหมด แต่น้ำมันหมดพอดี จึงขอเงินที่เหลือไว้เติมน้ำมันรถ
ทั้งนี้ นางบังอร กล่าวว่า หลังจากทำงานที่โรงพยาบาลชลบุรีแล้วจะเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.บางละมุง แต่ลืมกระเป๋าเงินไว้ที่บริเวณที่ปัดน้ำฝนรถเก๋ง คาดว่าเมื่อถึงที่บริเวณบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด คงจะตกลงพื้นถนน หลังจากนั้นรถได้เหยียบกระเป๋าแตก ทำให้เงินที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมด 20,000 บาท กระจายเกลื่อนถนน จนกระทั่ง ด.ช.พงศกรเก็บได้ 3,220 บาท แล้วนำมามอบให้กับตำรวจ จึงได้ให้สินน้ำใจไปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนที่เก็บเงินที่เหลือนั้นไป ไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ เพราะถือว่าสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากพ่อป่วยจะได้หายไวๆ ส่วน ด.ช.พงศกรนั้นขอชมด้วยด้วยใจจริง พ่อแม่เลี้ยงมาดี ถ้าเด็กไทยเป็นอย่างนี้ เชื่อว่าประเทศชาติเจริญแน่นอน
ด้าน ด.ช.พงศกร มุมกลาง ผู้เก็บกระเป๋าเงินได้กล่าวว่า ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับพ่อ เมื่อเห็นกระเป๋าเงินตกอยู่กลางถนน จึงได้พยายามเก็บบัตรเอทีเอ็ม บัตรของทางราชการ และเงินได้จำนวนหนึ่ง ช่วงนั้นได้มีชาวบ้านมาเก็บใส่กระเป๋าไปจำนวนมาก การที่มาส่งให้กับตำรวจก็เพราะอยากทำความดีกับเขาบ้าง
ที่มา - tnews