เมื่อเวลา 13 .30 น.วันที่ 6 มีนาคม สภ.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
นางอรุณรัตน์ ชมโลก อายุ 50 ปีมารดาของนายธีระพงษ์หรือปอนด์ ฐิตะญาณ อายุ
24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4
มหาวิทยาลัยศิลปากร(มศก.)วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี
"ขณะที่น้องปอนด์อยู่ในช่วงการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ตลอดจนถึงช่วงประกอบพิธีทางศาสนาการสวดอภิธรรมศพ ก็ไม่มีใครเข้ามาสอบถาม
เข้ามาดูแลหรือติดต่อ เพื่อจะแสดงรับผิดชอบ หรือสำนึกผิดเลย
ครอบครัวคุณเป็นผู้ออกรายจ่ายทั้งหมด ไม่มีใครให้การช่วยเหลือ
แสดงถึงจิตใจผู้ก่อเหตุที่เหี้ยมเกรียมไม่มีการสำนึกผิด
จะขอดำเนินการเอาผิดผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด
และต้องเอาคนผิดที่อาจเหลืออยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้"
ผู้สื่อข่าวในรายงานว่าช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีกลุ่มนักเรียนศิลปากรจำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ เพื่อนของน้องปอนด์ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชะอำ และเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มวัยรุ่น ทั้ง 18 คนในข้อหาพยายามฆ่าด้วย
ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น
บุกเข้าไปรุมทำร้ายในหอพัก และใช้ไขควงแทงศีรษะเสียชีวิต
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และต่อมาเจ้าที่ตำรวจ สภ. ชะอำ
ได้จับกุมและติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวรวม 18 คน
มาสอบสวนและดำเนินคดี ได้เดินทางมาที่สภ. ชะอำ พร้อมนาง อรุณี ดีสุวรรณ ป้าของน้องปอนด์ และ นายรณรงค์ แก้วเพชร
ทนายความอาสา เพื่อติดตามคดี โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์
ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล
ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมชี้แจงรายละเอียดการสืบสวนจับกุม
นางอมรรัตน์ เปิดเผยว่า พอใจในผลงานติดตามสืบสวนคดีของเจ้าที่ตำรวจจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ซึ่งมีผู้ลงมือก่อเหตุแทงน้องเสียชีวิตอยู่ในกลุ่มด้วย แต่ตนได้ข้อมูลจากเพื่อนน้องปอนด์ว่ายังมีบุคคลอื่นที่นอกเหนือจาก 18 คน ร่วมใน ขบวนการก่อเหตุครั้งนี้และคาดว่าจะเป็น ผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นลูกผู้มีอิทธิพลและคนมีสี อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังห่วงเรื่องความปลอดภัยของเพื่อนของน้องปอนด์ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บและเป็นพยาน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยซึ่งหลายคนเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลได้รับการประกันตัว และอาจมีการข่มขู่พยานอยากให้เจ้าที่ตำรวจและทหารเข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัย
นางอมรรัตน์ เปิดเผยว่า พอใจในผลงานติดตามสืบสวนคดีของเจ้าที่ตำรวจจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ซึ่งมีผู้ลงมือก่อเหตุแทงน้องเสียชีวิตอยู่ในกลุ่มด้วย แต่ตนได้ข้อมูลจากเพื่อนน้องปอนด์ว่ายังมีบุคคลอื่นที่นอกเหนือจาก 18 คน ร่วมใน ขบวนการก่อเหตุครั้งนี้และคาดว่าจะเป็น ผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นลูกผู้มีอิทธิพลและคนมีสี อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังห่วงเรื่องความปลอดภัยของเพื่อนของน้องปอนด์ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บและเป็นพยาน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยซึ่งหลายคนเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลได้รับการประกันตัว และอาจมีการข่มขู่พยานอยากให้เจ้าที่ตำรวจและทหารเข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัย
นางอรุณีกล่าวว่า ครอบครัวยังไม่สามารถทนรับกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของน้องปอนด์ได้เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ ได้รับทราบจากมีเพื่อนของน้องปอนด์และจากสภาพศพน้องปอนด์
พบว่ามีการการใช้ไขควงแทงที่หลังน้องปอนด์เป็นแผลฉกรรจ์ 4
รูจากนั้นผู้ลงมือก่อเหตุได้ขึ้นคร่อมหลัง
ใช้ไขควงดังกล่าวแทงที่ศีรษะเป็นแผลลึกฉกรรจ์ เหล็กไขควงปักคาศีรษะ
ก่อนและใช้เท้ากระทืบจนเหล็กฝังเข้าไปมิดด้าม
ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะทำ
ผู้สื่อข่าวในรายงานว่าช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีกลุ่มนักเรียนศิลปากรจำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ เพื่อนของน้องปอนด์ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชะอำ และเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มวัยรุ่น ทั้ง 18 คนในข้อหาพยายามฆ่าด้วย
ขอบคุณ matichon.co.th/news/486658