Edit สิ้นตำนาน 51 ปี โรงภาพยนตร์สกาลา ประกาศปิดตัวถาวร เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. สื่อเผยว่า โรงภาพยนตร์สกาลา ย่านสยามสแควร์ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่เปิดมายาวนานกว่า 51 ปี ปิดตัวลงถาวรแล้ว โดยมีรายงานข่าวจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า… เดิมสัญญาเช่าพื้นที่ของโรงภาพยนตร์สกาลาจะหมดในเดือน ธ.ค. ปีนี้ แต่จากสถานการณ์ โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนัก ทำให้ผู้เช่าขอยกเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนด โรงภาพยนตร์สกาลา ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 1 ตั้งอยู่ใจกลางสยามสแควร์ เดินทางสะดวก เพียงแค่ลงสถานีรถไฟฟ้าสยาม เดินเข้ามาอีกหน่อย ก็สามารถเข้ามาเสพบรรยากาศเก่าๆ ที่แสนจะคลาสสิค และชมภาพยนตร์คุณภาพจากที่นี่ได้แล้ว โรงหนังแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย คุณพิสิฐ ตันสัจจา โชว์แมนคนสำคัญของเมืองไทย เมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยทำสัญญาเช่าพื้นที่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากที่ท่านได้จากไป ก็ได้ส่งต่อให้กับ คุณนันทา ตันสัจจา บริหารดูแลกิจการต่อ สิ่งที่โดดเด่นกว่าโรงภาพยนตร์อื่นๆ ก็คือความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรม ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก ด้วยเอกลักษณ์และความวิจิตรของสถานที่ ทำให้สกาลาได้รับรางวัล “อนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ปี 2555” จากสมาคมสถาปนิกในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากตัวอาคารได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มานานับ 40 ปี ในสมัยนั้นโรงภาพยนตร์สกาลาเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากที่วิดีโอ วีซีดีเข้ามา ก็ทำให้พฤติกรรมการดูหนังเปลี่ยนไป จากที่เคยมีผู้ชมล้นทะลัก กลายเป็นหายไปเกือบครึ่ง ทำให้โรงหนังได้รับผลกระทบมากพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้น สกาล่าก็ยังคงยืนหยัดฉายหนังต่อไป โดยมีการออกโปรโมชั่นสะสมคะแนน เมื่อดูครบ 10 เรื่อง สามารถดูฟรีได้ 1 เรื่อง แม้จะช่วยทำให้ยอดขายดีขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะพลิกฟื้นภาพเก่าๆ กลับมาได้ดังเดิม หนังเรื่องแรกที่เข้าฉายกับสกาลาคือเรื่อง “สองสิงห์ตะลุยศึก” ในตอนแรกที่สกาลาจะเน้นการฉายภาพยนตร์กระแส ที่ได้รับรางวัล แต่ในช่วงหลังก็จะมีการเปิดโอกาสให้คนทำหนังหน้าใหม่ ได้มีโอกาสแสดงฝีมือบ้าง โดยมีการเปิดฉายหนังทางเลือก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน นักศึกษาได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบัน ทางสกาล่าไม่ได้ฉายภาพยนตร์ทางเลือกแล้ว กลับมาฉายหนังฟอร์มยักษ์ หนังกระแสเหมือนเดิม ส่วนหนังทางเลือก สามารถหาดูได้ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้ ในเครือ APEX เช่นเดียวกัน ที่มา: Khaosod