สำหรับคดีการสังหารกลางกรุงที่เกิดขึ้นกับอดีตนักกีฬามือปืนเเห่งประเทศไทยรายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 56 โดยนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิต ขณะขับรถยนต์ปอร์เช่ เพื่อไปหา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม ภรรยา ที่ปากซอยรามคำแหง 106
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ รอยกระสุนด้านข้างคนขับที่พุ่งผ่านกระจก 2 รู ถังกระโปรงหน้ารถถูกกระสุนอีก 3 นัด โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ก่อนจะกระหน่ำยิงใส่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ หลายนัด แต่เจ้าตัวยังกัดฟันขับรถหนีไปได้อีกกิโลเมตรกว่า ๆ ก่อนจะสลบแน่นิ่งไป
ซึ่งก่อน เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จะเสียชีวิต เคยตกเป็นข่าวระหองระแหงกับ "หมอนิ่ม" ภรรยามาหลายครั้ง เขาตกเป็นผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายภรรยาและแม่ตัวเอง จนต้องถูกส่งตัวไปนอนในคุกอยู่หลายวัน แต่ออกมาได้ไม่นาน เอ็กซ์ก็มีอันต้องขึ้นโรงพักอีกรอบ เพราะจู่ ๆ ทรัพย์สินในธนาคารมูลค่ากว่า 60 ล้าน ได้หายไป โดยเจ้าตัวแจ้งความว่า ภรรยาเป็นผู้ยักยอกไป
นอกจากนี้ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ยังเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายกลุ่มหลายวงการ ทั้งวงการยาเสพติด วงการพระเครื่องที่มีปัญหากับเซียนพระคนหนึ่ง อีกทั้งยังเคยมีปัญหากับสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทยด้วย และเป็นที่ทราบกันดีว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เป็นคนอารมณ์ร้อน อาจจะไปมีปัญหากับใครสักคนจนนำมาสู่การลอบสังหารในครั้งนี้ ซึ่งทุกประเด็นมีความเป็นไปได้ทั้งหมด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบตัวมือปืนที่ก่อเหตุ คือ นายจิรศักดิ์ หรือ จี กลิ่นคล้าย โดยมือปืนสารภาพว่า น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกูล หรือ เจ๊แหม่ม เป็นคนจ้างให้ลงมือ เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวมาสอบสวน ในที่สุด น.ส.วรพรรณภูรี รับสารภาพว่า ได้รับการไหว้วานจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มให้ช่วยหามือปืนให้ จึงได้ปรึกษากับนายสันติ ทองเสม หรือ ทนายอี๊ด ซึ่งนายสันติ รับปากว่าจะดำเนินการให้ โดยเรียกเงิน 200,000 บาท
หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการออกหมายจับทั้งตัวหมอนิ่ม มารดา และทนายอี๊ด ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้ามอบตัว โดยทางมารดาหมอนิ่มให้การในชั้นพนักงานสอบสวนว่าเป็นคนจ้างทนายอี๊ดให้หามือปืนมาสังหารจริง เพราะสงสารลูกสาวที่ถูกลูกเขยทำร้ายจนถึงกับแท้งลูก ส่วนหมอนิ่มและทนายอี๊ดปฏิเสธข้อกล่าวหาเเละขอสู้คดีในศาล
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2556 สรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน ส.ค. - 19 ต.ค. 2556 พญ.นิธิวดี, นางสุรางค์ และนายสันติ จำเลยที่ 2 - 4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้นายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์จนเสียชีวิต โดยจำเลยที่ 1 กับพวกได้ใช้อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด 7.62 ม.ม. ยิงนายจักรกฤษณ์หลายนัด จนถึงแก่ความตายก่อนหลบหนี ต่อมาตำรวจสืบสวนจับกุมจำเลยทั้งหมดไว้ได้ จำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่แขวง-เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน
ขอบคุณ springnews.co.th
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบ รอยกระสุนด้านข้างคนขับที่พุ่งผ่านกระจก 2 รู ถังกระโปรงหน้ารถถูกกระสุนอีก 3 นัด โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ก่อนจะกระหน่ำยิงใส่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ หลายนัด แต่เจ้าตัวยังกัดฟันขับรถหนีไปได้อีกกิโลเมตรกว่า ๆ ก่อนจะสลบแน่นิ่งไป
ซึ่งก่อน เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จะเสียชีวิต เคยตกเป็นข่าวระหองระแหงกับ "หมอนิ่ม" ภรรยามาหลายครั้ง เขาตกเป็นผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายภรรยาและแม่ตัวเอง จนต้องถูกส่งตัวไปนอนในคุกอยู่หลายวัน แต่ออกมาได้ไม่นาน เอ็กซ์ก็มีอันต้องขึ้นโรงพักอีกรอบ เพราะจู่ ๆ ทรัพย์สินในธนาคารมูลค่ากว่า 60 ล้าน ได้หายไป โดยเจ้าตัวแจ้งความว่า ภรรยาเป็นผู้ยักยอกไป
นอกจากนี้ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ยังเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายกลุ่มหลายวงการ ทั้งวงการยาเสพติด วงการพระเครื่องที่มีปัญหากับเซียนพระคนหนึ่ง อีกทั้งยังเคยมีปัญหากับสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทยด้วย และเป็นที่ทราบกันดีว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เป็นคนอารมณ์ร้อน อาจจะไปมีปัญหากับใครสักคนจนนำมาสู่การลอบสังหารในครั้งนี้ ซึ่งทุกประเด็นมีความเป็นไปได้ทั้งหมด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบตัวมือปืนที่ก่อเหตุ คือ นายจิรศักดิ์ หรือ จี กลิ่นคล้าย โดยมือปืนสารภาพว่า น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกูล หรือ เจ๊แหม่ม เป็นคนจ้างให้ลงมือ เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวมาสอบสวน ในที่สุด น.ส.วรพรรณภูรี รับสารภาพว่า ได้รับการไหว้วานจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มให้ช่วยหามือปืนให้ จึงได้ปรึกษากับนายสันติ ทองเสม หรือ ทนายอี๊ด ซึ่งนายสันติ รับปากว่าจะดำเนินการให้ โดยเรียกเงิน 200,000 บาท
หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการออกหมายจับทั้งตัวหมอนิ่ม มารดา และทนายอี๊ด ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้ามอบตัว โดยทางมารดาหมอนิ่มให้การในชั้นพนักงานสอบสวนว่าเป็นคนจ้างทนายอี๊ดให้หามือปืนมาสังหารจริง เพราะสงสารลูกสาวที่ถูกลูกเขยทำร้ายจนถึงกับแท้งลูก ส่วนหมอนิ่มและทนายอี๊ดปฏิเสธข้อกล่าวหาเเละขอสู้คดีในศาล
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2556 สรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน ส.ค. - 19 ต.ค. 2556 พญ.นิธิวดี, นางสุรางค์ และนายสันติ จำเลยที่ 2 - 4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้นายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์จนเสียชีวิต โดยจำเลยที่ 1 กับพวกได้ใช้อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด 7.62 ม.ม. ยิงนายจักรกฤษณ์หลายนัด จนถึงแก่ความตายก่อนหลบหนี ต่อมาตำรวจสืบสวนจับกุมจำเลยทั้งหมดไว้ได้ จำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่แขวง-เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน
ขอบคุณ springnews.co.th