ร้องไห้เเทบขาดใจ!!สองแม่ลูกฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ…แม่ทำเงินหาย 500 บาท…และนี่ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดซึ้งกินใจ!
รักใดใดเล่าในโลกนี้จะเท่ารักของ “แม่” ความคิดนี้คงตราตรึงอยู่ในใจของลูกทุกคนที่สำนึกในพระคุณของแม่ที่เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผล ความห่วงหาอาทรระหว่างพ่อแม่ลูก มักจะมีให้ได้ประสบกันบ่อย ๆ รวมไปถึง เด็กชายรายหนึ่ง ซึ่งมีฐานะทางบ้านยากจน พ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ แม่ประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้า ลูกชายจึงพยายามหางานพิเศษทำตั้งแต่เรียนประถม เพื่อแบ่งเบาภาระแม่ ส่งตัวเองเรียนได้บ้าง
ในขณะที่ลูกชายอายุได้ 18 ปี เรียนเก่งมาก เกรดเฉลี่ยสูงปรี๊ด ทำให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ยาก แม่แอบไปขายเลือดเพื่อเตรียมเงินให้เขาเข้ามหาวิทยาลัย เขารู้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เกรงว่าจะทำให้แม่ยิ่งเสียใจ ส่วนลูกชายเองก็ปิดแม่เรื่องที่เขาไปขายเลือด ไปรับจ้างขนของจนนิ้วฉีก เดินส่งหนังสือพิมพ์จนเคยเป็นลมกลางถนน เพราะอยากแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งของแม่
ช่วงปิดเทอมปี2 ลูกชายกลับบ้านไปในช่วงฤดูหนาว มองดูแม่ที่ต้องซักผ้าด้วยมือในวันที่อากาศหนาวเหน็บ แม่บอกกับลูกชายว่า “งานอย่างอื่นทำไปกว่าจะได้เงิน ซักผ้านี่เงินดีสุดแล้ว ตัวละ 5 บาท เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้สกปรกเลย เพราะเป็นเสื้อของคนมีตังค์ทั้งนั้น พวกเขากลัวว่าถ้าเข้าเครื่องซักเนื้อผ้าจะเสียหาย”
เย็นวันนั้น หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ แม่ก็บอกลุกชายด้วยความดีใจว่า “ลูกแม่ อาทิตย์นี้แม่ซักผ้าได้ตั้ง 1,000 บาท” พอพูดเสร็จแม่ก็ล้วงมือหยิบเงินในกระเป๋ากางเกงออกมา แต่มีแบงค์ 500 อยู่ในกระเป๋ากางเกงของแม่เพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น
แม่มีสีหน้าที่ตื่นตระหนกมาก พร้อมพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “เงินแม่หาย! เงินแม่หายไปตั้ง500บาท” พูดเสร็จแล้ว แม่ก็รีบลุกขึ้นไปหยิบไฟฉายเดินออกไปหน้าบ้านที่ซักผ้าเมื่อตอนกลางวัน ข้างนอกมืดมิด เสียงลมหาวพัดมาเป็นระยะๆ แม่กวาดไฟฉายไปทั่วบริเวณบ้าน แต่ก็ไม่เจอ และบ่นพึมพำว่า “หรือมันจะหล่นหายตอนที่แม่เอาผ้าไปส่งคุณนายบ้านข้างๆเมื่อตอนหัวค่ำ” ไม่ทันขาดคำ แม่ก็รีบเดินส่องไฟฉายไปที่บ้านคุณนายที่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร แต่ก็ยังไม่พบอยู่ดี
เงินจำนวน 500 บาท ดูเหมือนจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรสำหรับคนมีเงิน แต่เงินจำนวนนี้ เป็นเงินที่ใช้ได้ทั้งเดือนและเป็นค่าใช้จ่ายของลูกชายได้ทั้งเดือนเช่นกัน ลูกชายเดินตามหลังแม่ไป แถมน้ำตาคลอเบ้า หร้อมคิดไปตลอดทางเดินว่า “นี่มันเป็นเงินที่แม่ต้องซักผ้า 100 ผืนถึงจะได้มา” ลูกชายนึกไปก็ใช้มือป้ายน้ำตาไป แม่เดินกลับไปกลับมาอย่างนั้น 2-3 รอบ ลูกชายจึงบอกแม่ว่า “แม่ครับ ไม่ต้องหาแล้วครับ พรุ่งนี้ผมจะช่วยแม่หาอีกทีดีไหมครับ ฟ้ามืดอย่างนี้มองไม่เห็นหรอกครับ” แม่จึงยอมเข้าบ้านมานอน
ในคืนนั้น ลูกชายแอบเอาเงินที่แม่ให้ไว้ 500 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนนี้ไปแอบเอาไว้ที่ราวตากผ้าหลังบ้าน มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้แม่หายกังวล ลูกชายคิดได้แค่นี้
รุ่งเช้าวันต่อมา ลูกชายก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนลั่นบ้านว่า “ลูกแม่ แม่หาเงินเจอแล้ว!” เป็นการปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา ทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร เขาแสร้งเป็นดีใจไปกับแม่ ลูกชายบอกว่า “เห็นไหมครับ แม่เป็นคนดี ฟ้าย่อมคุ้มครองแม่ เจ้าที่คงเก็บเงินไว้ให้แม่แหละครับ” ลูกชายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาการดีอกดีใจของแม่
“เอาละ ได้มาแม่ก็ดีใจแล้ว เงิน 500 บาทนี้แม่แถมให้ลูกก็แล้วกันนะ ถือว่าแม่เงินหายก็แล้วกัน หาอาหารอร่อยๆกินบ้างนะลูก ลูกแม่ผอมไปเยอะเลย” แม่ยัดเงิน500บาทที่ได้คืนมาใส่มือของเขา จากนั้นก็ดึงเขาเข้ามากอด น้ำตาของลูกชายไหลออกมาอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า “แม่ครับ แม่ให้ผมเมื่อวานนี้ 500 บาทแล้วนะครับ แม่ให้ผมอีก 500 มันเยอะเกินไปสำหรับผม แล้วแม่จะเอาเงินที่ไหนมาใช้?” แม่บอกกับลูกชายว่า “เจ้าลูกโง่ แม่ซักผ้าทุกวัน อีกไม่กี่วันก็ได้เงิน 500คืนมาแล้วละ ไม่ต้องห่วงแม่นะ ตั้งใจเรียนนะ” ลูกชายโผเข้ากอดแม่ด้วยความรักและเคารพแม่อีกครั้ง แม่ ที่ไม่เคยห่วงแม้แต่ตัวเอง
เมื่อลูกชายจบการศึกษา ก็ได้ทำงานที่บริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง หลังจากทำงานได้หนึ่งปี ด้วยความช่วยเหลือของเจ้านาย ให้ลูกชายผ่อนตึกแถวห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ลูกชายจึงไปรับแม่มาอยู่ด้วย จากวันนั้น แม่ก็ไม่ต้องซักผ้าอีกต่อไป เงิน 500 บาทใบนั้น ลูกชายได้นำมันใส่กรอบติดไว้ข้างฝา เพราะไม่กล้าใช้เงินจำนวนนี้ มันแทบจะเป็นชีวิตของแม่เขาในคืนนั้น แล้วสัญญาว่าจะดูแคลนชีวิตของแม่เขาได้อย่างไรกัน เงินจำนวนนี้คือความรัก คือกำลังใจ คือทุกสิ่งที่แม่มอบให้แก่เขา
เย็นวันหนึ่ง ไม่รู้พูดคุยอะไรกัน ทำให้ลูกชายเอ่ยถึงเรื่องเงินจำนวน 500 บาทนั้น เขาชี้มือไปที่กรอบรูปใบนั้น “แม่ดูสิครับ เงิน 500 บาท ที่แม่หาทั้งคืน ตอนนี้มันก็ยังอยู่กับเราที่บ้านหลังใหม่นี้ โชคดีนะครับที่แม่หายังเจอ” แม่ตอบกลับไปว่า “เจ้าลูกโง่เอ๋ย แม่จะไม่รู้ได้ยังไงว่าแบงค์นี้เป็นใบที่แม่ให้เจ้า ตอนที่แม่นำเงินไปแลกให้เป็นแบงค์ 500 ที่ธนาคาร แม่จำหมายเลขของแบงค์ได้” ลูกชายมองแม่อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “แม่รู้ ว่าลูกต้องการให้แม่คลายใจ แม่ถึงมาคิดได้ ลูกรักแม่ถึงขนาดนี้ แม่ไม่ควรทำให้ลูกไม่สบายใจอีกต่อไป แม่จึงทำเป็นตื่นเต้นดีใจที่หาเงินเจอ ลูกเอ๋ย ขอบใจนะลูกแม่” ลูกชายกอดแม่อีกครั้ง ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาไม่คิดว่าสิ่งเขาทำเพื่อแม่ในวันนั้น แม่ของเขาต่างหากที่ทำเพื่อเขา โดยที่ไม่รู้อะไรเลย !!!
รักใดใดเล่าในโลกนี้จะเท่ารักของ “แม่” ความคิดนี้คงตราตรึงอยู่ในใจของลูกทุกคนที่สำนึกในพระคุณของแม่ที่เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผล ความห่วงหาอาทรระหว่างพ่อแม่ลูก มักจะมีให้ได้ประสบกันบ่อย ๆ รวมไปถึง เด็กชายรายหนึ่ง ซึ่งมีฐานะทางบ้านยากจน พ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ แม่ประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้า ลูกชายจึงพยายามหางานพิเศษทำตั้งแต่เรียนประถม เพื่อแบ่งเบาภาระแม่ ส่งตัวเองเรียนได้บ้าง
ในขณะที่ลูกชายอายุได้ 18 ปี เรียนเก่งมาก เกรดเฉลี่ยสูงปรี๊ด ทำให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ยาก แม่แอบไปขายเลือดเพื่อเตรียมเงินให้เขาเข้ามหาวิทยาลัย เขารู้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เกรงว่าจะทำให้แม่ยิ่งเสียใจ ส่วนลูกชายเองก็ปิดแม่เรื่องที่เขาไปขายเลือด ไปรับจ้างขนของจนนิ้วฉีก เดินส่งหนังสือพิมพ์จนเคยเป็นลมกลางถนน เพราะอยากแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งของแม่
ช่วงปิดเทอมปี2 ลูกชายกลับบ้านไปในช่วงฤดูหนาว มองดูแม่ที่ต้องซักผ้าด้วยมือในวันที่อากาศหนาวเหน็บ แม่บอกกับลูกชายว่า “งานอย่างอื่นทำไปกว่าจะได้เงิน ซักผ้านี่เงินดีสุดแล้ว ตัวละ 5 บาท เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้สกปรกเลย เพราะเป็นเสื้อของคนมีตังค์ทั้งนั้น พวกเขากลัวว่าถ้าเข้าเครื่องซักเนื้อผ้าจะเสียหาย”
เย็นวันนั้น หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ แม่ก็บอกลุกชายด้วยความดีใจว่า “ลูกแม่ อาทิตย์นี้แม่ซักผ้าได้ตั้ง 1,000 บาท” พอพูดเสร็จแม่ก็ล้วงมือหยิบเงินในกระเป๋ากางเกงออกมา แต่มีแบงค์ 500 อยู่ในกระเป๋ากางเกงของแม่เพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น
แม่มีสีหน้าที่ตื่นตระหนกมาก พร้อมพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “เงินแม่หาย! เงินแม่หายไปตั้ง500บาท” พูดเสร็จแล้ว แม่ก็รีบลุกขึ้นไปหยิบไฟฉายเดินออกไปหน้าบ้านที่ซักผ้าเมื่อตอนกลางวัน ข้างนอกมืดมิด เสียงลมหาวพัดมาเป็นระยะๆ แม่กวาดไฟฉายไปทั่วบริเวณบ้าน แต่ก็ไม่เจอ และบ่นพึมพำว่า “หรือมันจะหล่นหายตอนที่แม่เอาผ้าไปส่งคุณนายบ้านข้างๆเมื่อตอนหัวค่ำ” ไม่ทันขาดคำ แม่ก็รีบเดินส่องไฟฉายไปที่บ้านคุณนายที่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร แต่ก็ยังไม่พบอยู่ดี
เงินจำนวน 500 บาท ดูเหมือนจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรสำหรับคนมีเงิน แต่เงินจำนวนนี้ เป็นเงินที่ใช้ได้ทั้งเดือนและเป็นค่าใช้จ่ายของลูกชายได้ทั้งเดือนเช่นกัน ลูกชายเดินตามหลังแม่ไป แถมน้ำตาคลอเบ้า หร้อมคิดไปตลอดทางเดินว่า “นี่มันเป็นเงินที่แม่ต้องซักผ้า 100 ผืนถึงจะได้มา” ลูกชายนึกไปก็ใช้มือป้ายน้ำตาไป แม่เดินกลับไปกลับมาอย่างนั้น 2-3 รอบ ลูกชายจึงบอกแม่ว่า “แม่ครับ ไม่ต้องหาแล้วครับ พรุ่งนี้ผมจะช่วยแม่หาอีกทีดีไหมครับ ฟ้ามืดอย่างนี้มองไม่เห็นหรอกครับ” แม่จึงยอมเข้าบ้านมานอน
ในคืนนั้น ลูกชายแอบเอาเงินที่แม่ให้ไว้ 500 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนนี้ไปแอบเอาไว้ที่ราวตากผ้าหลังบ้าน มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้แม่หายกังวล ลูกชายคิดได้แค่นี้
รุ่งเช้าวันต่อมา ลูกชายก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนลั่นบ้านว่า “ลูกแม่ แม่หาเงินเจอแล้ว!” เป็นการปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา ทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร เขาแสร้งเป็นดีใจไปกับแม่ ลูกชายบอกว่า “เห็นไหมครับ แม่เป็นคนดี ฟ้าย่อมคุ้มครองแม่ เจ้าที่คงเก็บเงินไว้ให้แม่แหละครับ” ลูกชายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาการดีอกดีใจของแม่
“เอาละ ได้มาแม่ก็ดีใจแล้ว เงิน 500 บาทนี้แม่แถมให้ลูกก็แล้วกันนะ ถือว่าแม่เงินหายก็แล้วกัน หาอาหารอร่อยๆกินบ้างนะลูก ลูกแม่ผอมไปเยอะเลย” แม่ยัดเงิน500บาทที่ได้คืนมาใส่มือของเขา จากนั้นก็ดึงเขาเข้ามากอด น้ำตาของลูกชายไหลออกมาอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า “แม่ครับ แม่ให้ผมเมื่อวานนี้ 500 บาทแล้วนะครับ แม่ให้ผมอีก 500 มันเยอะเกินไปสำหรับผม แล้วแม่จะเอาเงินที่ไหนมาใช้?” แม่บอกกับลูกชายว่า “เจ้าลูกโง่ แม่ซักผ้าทุกวัน อีกไม่กี่วันก็ได้เงิน 500คืนมาแล้วละ ไม่ต้องห่วงแม่นะ ตั้งใจเรียนนะ” ลูกชายโผเข้ากอดแม่ด้วยความรักและเคารพแม่อีกครั้ง แม่ ที่ไม่เคยห่วงแม้แต่ตัวเอง
เมื่อลูกชายจบการศึกษา ก็ได้ทำงานที่บริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง หลังจากทำงานได้หนึ่งปี ด้วยความช่วยเหลือของเจ้านาย ให้ลูกชายผ่อนตึกแถวห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ลูกชายจึงไปรับแม่มาอยู่ด้วย จากวันนั้น แม่ก็ไม่ต้องซักผ้าอีกต่อไป เงิน 500 บาทใบนั้น ลูกชายได้นำมันใส่กรอบติดไว้ข้างฝา เพราะไม่กล้าใช้เงินจำนวนนี้ มันแทบจะเป็นชีวิตของแม่เขาในคืนนั้น แล้วสัญญาว่าจะดูแคลนชีวิตของแม่เขาได้อย่างไรกัน เงินจำนวนนี้คือความรัก คือกำลังใจ คือทุกสิ่งที่แม่มอบให้แก่เขา
เย็นวันหนึ่ง ไม่รู้พูดคุยอะไรกัน ทำให้ลูกชายเอ่ยถึงเรื่องเงินจำนวน 500 บาทนั้น เขาชี้มือไปที่กรอบรูปใบนั้น “แม่ดูสิครับ เงิน 500 บาท ที่แม่หาทั้งคืน ตอนนี้มันก็ยังอยู่กับเราที่บ้านหลังใหม่นี้ โชคดีนะครับที่แม่หายังเจอ” แม่ตอบกลับไปว่า “เจ้าลูกโง่เอ๋ย แม่จะไม่รู้ได้ยังไงว่าแบงค์นี้เป็นใบที่แม่ให้เจ้า ตอนที่แม่นำเงินไปแลกให้เป็นแบงค์ 500 ที่ธนาคาร แม่จำหมายเลขของแบงค์ได้” ลูกชายมองแม่อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “แม่รู้ ว่าลูกต้องการให้แม่คลายใจ แม่ถึงมาคิดได้ ลูกรักแม่ถึงขนาดนี้ แม่ไม่ควรทำให้ลูกไม่สบายใจอีกต่อไป แม่จึงทำเป็นตื่นเต้นดีใจที่หาเงินเจอ ลูกเอ๋ย ขอบใจนะลูกแม่” ลูกชายกอดแม่อีกครั้ง ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาไม่คิดว่าสิ่งเขาทำเพื่อแม่ในวันนั้น แม่ของเขาต่างหากที่ทำเพื่อเขา โดยที่ไม่รู้อะไรเลย !!!