อุกอาจ!โจรสาวลักทารกกลางโรงพยาบาลเมืองนครปฐมสาวแสบทำทีมาเยี่ยมไข้ตีสนิทพ่อแม่ชาวพม่าหลังคลอดเด็กทารกเพศชายได้เพียง
4
วันออกอุบายพาไปส่งถึงบ้านพักแล้วย้อนกลับมาอ้างหมอให้พาทารกไปฉีดยาจัดแจงอุ้มทารกนำหน้าขึ้นตึก
ขณะที่พ่อเด็กยังจ่ายค่าแท็กซี่อยู่
คนร้ายฉวยโอกาสรีบอุ้มทารกขึ้นตึกโรงพยาบาลหายตัวไปพร้อมเด็กทารก
ตร.นครปฐมตรวจเช็กกล้องวงจรปิดพบภาพชัดเจนคนร้ายเป็นหญิงวัยกลางคนเดินอุ้มทารกออกทางประตูหลังโดยจนท.ไม่เอะใจสงสัยเพราะคิดว่าคนร้ายเป็นนายจ้าง
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 12 มี.ค. ขณะที่ ร.ต.ท.ประเวช ผิวอ่อน รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมด.ต.ไพโรจน์ ฮวดจั่น จ.ส.ต.วัฒนา พิมพา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราบสภ.เมืองนครปฐม ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักพาทารกเพศชาย วัย 4 วันไปจากญาติ เหตุเกิดที่บริเวณห้องคลอดชั้น 3 อาคารทวารวดี โรงพยาบาลนครปฐม หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบนายมิน ทัต อายุ 48 ปี แรงงานชาวเมียนมา ทำงานโรงน้ำแข็งธรรมศาลา ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม และนางเอ๋ ชาวพม่า อายุ 32 ปี เพื่อนร่วมงาน ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ สอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ถูกคนร้ายเป็นหญิงสวมเสื้อลาย หลอกให้พาลูกมาหาหมออีกครั้งเพื่อฉีดยา จึงเหมาแท็กซี่มาพร้อมกัน เมื่อถึงโรงพยาบาลนครปฐม คนร้ายได้อุ้มทารกเดินล่วงหน้าขึ้นตึกไป โดยมีนางเอ๋เดินตามมา ส่วนนาย มิน ทัต พ่อเด็กกำลังจ่ายค่ารถแท็กซี่อยู่
นางเอ๋ ชาวเมียนมาเพื่อนพ่อแม่เด็กที่หายบอกอีกว่า ได้เดินตามขึ้นมาที่ห้องคลอด ชั้น 3 ตึกทวารวดี ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีคนอุ้มทารกมาฉีดยาที่นี่หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกไม่มี จึงได้ ตามหาแต่ไม่พบ จึงได้ประสานทางรปภ. โรงพยาบาลให้ช่วยตามหา อาจจะไปผิดตึก แต่ก็ไม่พบ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำประตูออก และประตูทางเข้า ว่ามีผู้หญิงวัยกลางคน รูปร่างท้วม ใส่เสื้อลายดอกแดงขาว อุ้มเด็กผ่านออกมาหรือไม่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ รปภ. ประตูทางออก ฝั่งถนนเท่าซอย 7 บอกว่ามีผู้หญิงลักษณะดังกล่าว อุ้มทารกออกไปแล้ว และเดินข้ามถนนเทศาไปฝั่งโรงเรียน พระปฐมวิทยาลัย แต่ไม่ทราบว่าไปทางไหน
ต่อมาพ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม รุดมาสอบปากคำ นายมิน ทัต บิดาทารกน้อยเคราะห์ร้าย ให้การว่า ได้พานางหยิน ชาวเมียนมา ภรรยามาคลอดลูกที่โรงพยาบาลนี้ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม และพบผู้หญิงคนดังกล่าวนี้มาทำทีพูดคุย ว่าเป็นคนเยี่ยมไข้ อยู่ด้วยกันมาหลายวัน กระทั่งวันนี้ หมอให้กลับบ้านได้ และเมื่อเวลา 11.30 น. ผู้หญิงคนดังกล่าวยังทำทีว่าจะไปส่งที่บ้าน เรียกรถยนต์รับจ้างพาไปส่งถึงบ้านหลังวัดธรรมศาลา แล้วก็กลับไป กระทั่งช่วงบ่าย ผู้หญิงคนดังกล่าวย้อนกลับไปที่บ้านบอกว่าหมอให้พาเด็กไปฉีดยา ตนจึงอุ้มลูกมาพร้อมกับนางเอ๋ เพื่อนร่วมงานพร้อมกับผู้หญิงคนดังกล่าวแล้วก็หายตัวไปพร้อมลูกชายจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโรงพยาบาล พบหญิงคนดังกล่าว นุ่งกางเกงสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมไนกี้ ลายดอก สะพายกระเป๋าผ้าสีเทา ชัดเจน เมื่อเวลา 11.40 น. ช่วงที่มาพาพ่อ แม่ และทารกกลับบ้าน และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่า หญิงคนดังกล่าวอุ้มทารก ห่อด้วยผ้าขนหนู ออกไปทางประตูทางออกข้างโรงพยาบาลไปฝั่งโรงเรียนพระปฐมฯ
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส. สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า การสอบถาม เจ้าหน้าที่และสอบพยานแล้วพบว่าคนร้ายทำทีเป็นญาติผู้ป่วยและมาหาพูดคุยกับคนไข้ชาวเมียนมารายนี้สองสามวันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังเข้าใจว่า เป็นนายจ้าง และวันนี้ก็เป็นธุระช่วยดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่าย และจัดการเอกสารต่างๆ และพากันออกไปพร้อมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังเข้าใจว่า เป็นญาติหรือเป็นนายจ้าง เพราะไม่มีอะไรผิดปกติ และเหตุการณ์ที่เด็กหายคนร้ายไม่ได้พาเด็กขึ้นไปฉีดยาบนห้องคลอดตามที่อ้างกับพ่อเด็ก และไม่ทราบว่า มีขบวนการ หรือมีใครร่วมอุ้มเด็กออกไป เห็นเพียงแต่ภาพตอนอุ้มเด็กออกไปทางประตูริมถนนเทศาเท่านั้น จากนี้ให้ฝ่ายสืบสวนออกเดินเท้าตรวจกล้องวงจรปิดละแวกนั้นว่า คนร้ายรายนี้ไปทางไหน มาด้วยยานพาหนะอะไรต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนี้แยกออกเป็นสองช่วงเหตุการณ์ เนื่องจากผู้ป่วย เด็ก และญาติ ได้เช็กเอาต์จากห้องคลอด โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว คนร้ายได้ไปแอบอ้าง หลอกว่าแพทย์ให้พาเด็กกลับไปฉีดยา จึงพากันกลับมาอีกรอบ แต่กระบวนการขั้นตอนนี้ไม่ผ่านระบบทางการแพทย์ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ความร่วมมือตรวจสอบกล้องวงจรปิด และทางโรงพยาบาลมีระบบความปลอดภัยสูง ขณะที่นางหยิน มารดาทารกเคราะห์ร้าย พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเช่าหลังวัดธรรมศาลา รู้ว่าลูกชายถูกลักพาตัวไป ถึงกับร้องไห้โฮ ฟูมฟาย พูดจาไม่รู้เรื่อง เพื่อนร่วมงานชาว เมียนมาต้องช่วยกันปลอบใจ
เครดิต : เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 12 มี.ค. ขณะที่ ร.ต.ท.ประเวช ผิวอ่อน รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมด.ต.ไพโรจน์ ฮวดจั่น จ.ส.ต.วัฒนา พิมพา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราบสภ.เมืองนครปฐม ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักพาทารกเพศชาย วัย 4 วันไปจากญาติ เหตุเกิดที่บริเวณห้องคลอดชั้น 3 อาคารทวารวดี โรงพยาบาลนครปฐม หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบนายมิน ทัต อายุ 48 ปี แรงงานชาวเมียนมา ทำงานโรงน้ำแข็งธรรมศาลา ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม และนางเอ๋ ชาวพม่า อายุ 32 ปี เพื่อนร่วมงาน ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ สอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ถูกคนร้ายเป็นหญิงสวมเสื้อลาย หลอกให้พาลูกมาหาหมออีกครั้งเพื่อฉีดยา จึงเหมาแท็กซี่มาพร้อมกัน เมื่อถึงโรงพยาบาลนครปฐม คนร้ายได้อุ้มทารกเดินล่วงหน้าขึ้นตึกไป โดยมีนางเอ๋เดินตามมา ส่วนนาย มิน ทัต พ่อเด็กกำลังจ่ายค่ารถแท็กซี่อยู่
นางเอ๋ ชาวเมียนมาเพื่อนพ่อแม่เด็กที่หายบอกอีกว่า ได้เดินตามขึ้นมาที่ห้องคลอด ชั้น 3 ตึกทวารวดี ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีคนอุ้มทารกมาฉีดยาที่นี่หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกไม่มี จึงได้ ตามหาแต่ไม่พบ จึงได้ประสานทางรปภ. โรงพยาบาลให้ช่วยตามหา อาจจะไปผิดตึก แต่ก็ไม่พบ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำประตูออก และประตูทางเข้า ว่ามีผู้หญิงวัยกลางคน รูปร่างท้วม ใส่เสื้อลายดอกแดงขาว อุ้มเด็กผ่านออกมาหรือไม่ กระทั่งเจ้าหน้าที่ รปภ. ประตูทางออก ฝั่งถนนเท่าซอย 7 บอกว่ามีผู้หญิงลักษณะดังกล่าว อุ้มทารกออกไปแล้ว และเดินข้ามถนนเทศาไปฝั่งโรงเรียน พระปฐมวิทยาลัย แต่ไม่ทราบว่าไปทางไหน
ต่อมาพ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม รุดมาสอบปากคำ นายมิน ทัต บิดาทารกน้อยเคราะห์ร้าย ให้การว่า ได้พานางหยิน ชาวเมียนมา ภรรยามาคลอดลูกที่โรงพยาบาลนี้ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม และพบผู้หญิงคนดังกล่าวนี้มาทำทีพูดคุย ว่าเป็นคนเยี่ยมไข้ อยู่ด้วยกันมาหลายวัน กระทั่งวันนี้ หมอให้กลับบ้านได้ และเมื่อเวลา 11.30 น. ผู้หญิงคนดังกล่าวยังทำทีว่าจะไปส่งที่บ้าน เรียกรถยนต์รับจ้างพาไปส่งถึงบ้านหลังวัดธรรมศาลา แล้วก็กลับไป กระทั่งช่วงบ่าย ผู้หญิงคนดังกล่าวย้อนกลับไปที่บ้านบอกว่าหมอให้พาเด็กไปฉีดยา ตนจึงอุ้มลูกมาพร้อมกับนางเอ๋ เพื่อนร่วมงานพร้อมกับผู้หญิงคนดังกล่าวแล้วก็หายตัวไปพร้อมลูกชายจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโรงพยาบาล พบหญิงคนดังกล่าว นุ่งกางเกงสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมไนกี้ ลายดอก สะพายกระเป๋าผ้าสีเทา ชัดเจน เมื่อเวลา 11.40 น. ช่วงที่มาพาพ่อ แม่ และทารกกลับบ้าน และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่า หญิงคนดังกล่าวอุ้มทารก ห่อด้วยผ้าขนหนู ออกไปทางประตูทางออกข้างโรงพยาบาลไปฝั่งโรงเรียนพระปฐมฯ
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส. สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า การสอบถาม เจ้าหน้าที่และสอบพยานแล้วพบว่าคนร้ายทำทีเป็นญาติผู้ป่วยและมาหาพูดคุยกับคนไข้ชาวเมียนมารายนี้สองสามวันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังเข้าใจว่า เป็นนายจ้าง และวันนี้ก็เป็นธุระช่วยดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่าย และจัดการเอกสารต่างๆ และพากันออกไปพร้อมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังเข้าใจว่า เป็นญาติหรือเป็นนายจ้าง เพราะไม่มีอะไรผิดปกติ และเหตุการณ์ที่เด็กหายคนร้ายไม่ได้พาเด็กขึ้นไปฉีดยาบนห้องคลอดตามที่อ้างกับพ่อเด็ก และไม่ทราบว่า มีขบวนการ หรือมีใครร่วมอุ้มเด็กออกไป เห็นเพียงแต่ภาพตอนอุ้มเด็กออกไปทางประตูริมถนนเทศาเท่านั้น จากนี้ให้ฝ่ายสืบสวนออกเดินเท้าตรวจกล้องวงจรปิดละแวกนั้นว่า คนร้ายรายนี้ไปทางไหน มาด้วยยานพาหนะอะไรต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนี้แยกออกเป็นสองช่วงเหตุการณ์ เนื่องจากผู้ป่วย เด็ก และญาติ ได้เช็กเอาต์จากห้องคลอด โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว คนร้ายได้ไปแอบอ้าง หลอกว่าแพทย์ให้พาเด็กกลับไปฉีดยา จึงพากันกลับมาอีกรอบ แต่กระบวนการขั้นตอนนี้ไม่ผ่านระบบทางการแพทย์ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ความร่วมมือตรวจสอบกล้องวงจรปิด และทางโรงพยาบาลมีระบบความปลอดภัยสูง ขณะที่นางหยิน มารดาทารกเคราะห์ร้าย พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเช่าหลังวัดธรรมศาลา รู้ว่าลูกชายถูกลักพาตัวไป ถึงกับร้องไห้โฮ ฟูมฟาย พูดจาไม่รู้เรื่อง เพื่อนร่วมงานชาว เมียนมาต้องช่วยกันปลอบใจ