อาจารย์ ม.รังสิต ติงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม

อ.นิติศาสตร์ ม.รังสิต ติงกฎหมายโดยสารรถกระบะ ชี้ของเดิมไม่ได้ห้ามนั่ง เผยกฎใหม่ดูจากการคาดเข็มขัด ถ้าติดที่แค็บกับท้ายกระบะก็นั่งได้ใช่ไหม ?

          จากประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ กับการออกคำสั่งห้ามนั่งในแค็บและกระบะหลัง ก่อนจะเจอกระแสโจมตีอย่างหนัก จนทำให้ต้องยอมผ่อนปรนเป็นบังคับใช้เข้มงวดหลังสงกรานต์ แต่ในเรื่องนี้ ทางฝ่ายกฎหมายบางส่วนได้ตีความว่า กฎหมายนี้เดิมทีถูกบังคับใช้มานานแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2522 คือมาตรา 20 ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พร้อมปฎิบัติตาม และทางเจ้าหน้าที่ได้ยอมผ่อนปรนมาตลอด

  ล่าสุด วันที่ 6 เมษายน 2560 นายคมสัน โพธิ์คง อาจารณ์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ผ่านเฟซบุ๊ก Komsarn Pokong  ชี้แจงว่า เดิมทีไม่มีข้อความหรือหลักการใด ๆ ที่ห้ามนั่งหลังกระบะปรากฏในมาตรา 20 ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก แต่ที่เป็นปัญหาคือการตีความใหม่ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จากเดิมที่ให้คนนั่งเบาะหน้าสองคนและคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ไม่ได้มีการห้ามนั่งในส่วนอื่น กลายเป็นให้นั่งหน้าได้ 2 คน และคาดเข็มขัดทุกที่ ทำให้ส่วนของแค็บและกระบะหลังที่ไม่มีเข็มขัดก็ถือว่าผิด จนกลายเป็นทีถูกวิจารณ์ในปัจจุบัน

          นายคมสัน กล่าวอีกว่า จากที่ตนศึกษากฎหมายจราจรฉบับนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้าในแค็บและท้ายกระบะติดเข็มขัดนิรภัยก็สามารถใช้โดยสารได้ใช่หรือไม่ และถ้าบังคับใช้จริง ทำไมประชาชนถึงไม่ได้เวลาปรับตัว นอกจากนี้กรณีการโดยสารรถเมล์ สองแถว หรือตุ๊กตุ๊ก ที่ไม่มีการเข็มขัด ทำไมถึงได้รับการยกเว้น ดังนั้นมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายนี้คืออะไร ?

          สำหรับใจความทั้งหมดของนายคมสัน ที่ตั้งคำถามถึงกฎหมายหเามนั่งแค็บ-ท้ายกระบะ มีดังนี้


อาจารย์ ม.รังสิต ท้วงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม

อาจารย์ ม.รังสิต ท้วงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม

อาจารย์ ม.รังสิต ท้วงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม

อาจารย์ ม.รังสิต ท้วงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม

อาจารย์ ม.รังสิต ท้วงรัฐตีความกฎห้ามนั่งท้ายกระบะผิดทำเดือดร้อน ชี้ฉบับเดิมไม่เคยห้าม


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Komsarn Pokong