“โครงการบ้านประชารัฐ” จ่ายเพียงเดือนละ3,000บาท กู้ได้100%

วันนี้เรามีข่าวดีมาบอกสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยแต่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งการที่จะมีบ้านสักหลังมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ไม่มีเงินทุนหรือเงินสำรองแต่โอกาสดีๆมาถึงแล้วใครที่ไม่อยากพลาดรีบจองด่วนเลย ซึ่งโครงการบ้านประชารัฐ เปิดให้จองเพียง 1,000 บาท ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้นที่สำคัญ ให้กู้ 100% อีกด้วยจ้าเรามาดูเงื่อนไขต่างๆของผู้ที่มีสิทธิ์กู้กันเลยนะคะว่าเงื่อนไขและรายละเอียดที่ทางรัฐได้ระบุไว้จะมีอะไรบ้าง



โครงการบ้านประชารัฐเป็นการปล่อยกู้ให้ผู้ มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ในราคาไม่เกิน 700,000 บาท และไม่เกิน 1,500,000 บาท เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งผู้ที่มีรายได้ประจำ เช่น ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรืออาชีพอิสระ ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มาก่อน ให้สามารถมีที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่เกิน 1,500,000 บาท เป็นของตัวเอง หรือซ่อมแซมและต่อเติมที่อยู่อาศัย ผ่านการปล่อยกู้จากธนาคาร 3 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์

โดยเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ จะต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน หรือเป็นบ้านหลังแรก ราคาที่อยู่อาศัยรวมที่ดินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ได้ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือบ้านที่ปลูกในที่ของตัวเอง โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะบ้านที่รัฐจะสร้างใหม่บนที่ราชพัสดุ สำหรับการกู้เพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมนั้น ผ่อนปรนให้ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย แต่ให้กู้ไม่เกิน 5 แสนบาท

ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะแบ่งวงเงินกู้โครงการบ้านประชารัฐเป็นสองส่วน คือ วงเงินกู้ไม่เกิน 7 แสนบาทและวงเงินกู้ระหว่าง 7 แสน – 1.5 ล้านบาท

เงื่อนไข ธนาคารออมสิน

1.วงเงินกู้ไม่เกิน 7 แสนบาท ใช้อัตราดอกเบี้ย ในปีที่ 1 ดอกเบี้ย 0% ผ่อน 3,000 บาท/เดือน /ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 2% ผ่อน 3,000 บาท/เดือน /ปีที่ 4-6 ดอกเบี้ย 5% ผ่อน 4,000 บาท/เดือน และปีที่ 7-30 ดอกเบี้ยลอยตัว (MRR) -1.475% ผ่อน 4,000 บาท/เดือน (ข้อมูลเฉพาะธนาคารออมสิน)

2.วงเงินกู้ระหว่าง 7 แสน – 1.5 ล้านบาท ใช้อัตราดอกเบี้ย ในปีที่ 1-3 ดอกเบี้ย 3% ผ่อน 7,200 บาท/เดือน /ปีที่ 4-6 ดอกเบี้ย 5% ผ่อน 8,600 บาท/เดือน และปีที่ 7-30 ดอกเบี้ยลอยตัว (MRR) -1.475% ผ่อน 9,100 บาท/เดือน (ข้อมูลเฉพาะธนาคารออมสิน)

เงื่อนไข ธนาคารอาคารสงเคราะห์

(1) อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษสำหรับกรณีวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อหรือก่อสร้างที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 7 แสนบาทต่อหน่วย และกรณีวงเงินสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมและ/หรือต่อเติมอาคารวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาทต่อหน่วย คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้
ปีที่ 1 = 0.00% ต่อปี
ปีที่ 2 – ปีที่ 3 = 2.00% ต่อปี
ปีที่ 4 – ปีที่ 6 = 5.00% ต่อปี
ปีที่ 7 – ปีที่ 30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว = MRR-0.75% ต่อปี

(2) อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนสำหรับกรณีวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อหรือก่อสร้างที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้
ปีที่ 1 – ปีที่ 3 = 3.00% ต่อปี
ปีที่ 4 – ปีที่ 6 = 5.00% ต่อปี
ปีที่ 7 – ปีที่ 30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว
– กรณีลูกค้ารายย่อย = MRR-0.75% ต่อปี
– กรณีลูกค้าสวัสดิการ = MRR-1.00% ต่อปี

ขั้นตอนการสมัครโครงการฯ

1.สมัครโครงการบ้านประชารัฐ ธนาคารที่ร่วมโครงการ เอกสารสมัคร (ข้างล่าง)

2.เข้าเวปไซต์ http://www.google.co.th ค้นหาคำว่า ทรัพย์สินรอการขาย
2.1.ธนาคารออมสิน http://properties.gsb.or.th/properties/index.php
2.2.ธนาคารกรุงไทย www.ktb.co.th/npa
2.3.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbhomecenter.com/ghb

3.ค้นหาและจดเลขที่ทรัพย์สินที่สนใจ ในวงเงินที่กำหนด

4.โทรสอบถามธนาคารที่ร่วมโครงการ
เอกสารการใช้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2559 จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ 2ปี(ธนาคารออมสิน)

1.สำเนาบัตรบัตรประชาชน

2.สำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่อาศัย

3.หนังสือรับรองเงินเดือน (ตัวจริง)

4.สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน

หมายเหตุ : กรณีกู้เพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซม วงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท บ้านต้องไม่ติดกู้และเป็นเจ้าบ้าน
บ้านประชารัฐคืออะไร

โครงการบ้านประชารัฐ คือ โครงการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 70,000 ลบ.ของรัฐบาล เอื้อต่อผู้มีรายได้น้อยให้สามารถซื้อบ้านได้แบบดอกเบื้ยถูกลง แบ่งเป็น

1.สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอกชนภาคอสังหาริมทรัพย์สร้างที่อยู่อาศัย ในวงเงิน 3 หมื่นลบ. ผ่านธนาคารกรุงไทย ออมสิน และธอส.

2.สินเชื่อให้ประชาชนกู้ซื้อบ้าน ผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ แห่งละ 2 หมื่นลบ. รวม 4 หมื่นลบ.โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี

บ้านประชารัฐจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกอันต้องมีราคาไม่เกิน 1.5 ลบ. ไม่ว่าจะสร้างบนที่ดินของตนเอง โครงการของเอกชน หรือสร้างบนที่ดินของรัฐ และยังครอบคลุมไปจนถึงที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และทรัพย์สินรอการขายของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ รวมทั้ง NPA ของกรมบังคับคดี

โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งผู้ที่มีรายได้ประจำ เช่น ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรืออาชีพอิสระ ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มาก่อน ให้สามารถมีที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่เกิน 1.5 ลบ. เป็นของตัวเอง หรือซ่อมแซมและต่อเติมที่อยู่อาศัยโดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2559

บ้านประชารัฐ มีที่ไหนบ้าง
ที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านประชารัฐมีราคาไม่เกิน 1.5 ลบ. ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งสร้างบนที่ดินของตนเอง โครงการของเอกชน หรือโครงการที่สร้างบนที่ดินของรัฐ ซึ่งครอบคลุมที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยโครงการของเอกชนจะประกอบไปด้วยโครงการบ้านของ Developers ชั้นนำ เช่น LPN, พฤกษา, ศุภาลัย ซึ่งบางโครงการจะเข้าร่วมบางส่วน (เฉพาะที่ราคาไม่เกิน 1.5 ลบ.) หรือบางโครงการมีราคาไม่เกินนี้อยู่แล้วก็จะเข้าร่วมทั้งหมด

ใครมีสิทธิ์จองบ้านประชารัฐบ้าง
ผู้ขอสินเชื่อจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 65 ปี ส่วนการซื้อบ้าน เช่าซื้อ หรือสร้างใหม่ ราคาหลังละไม่เกิน 1.5 ลบ. และเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น โดยผู้ขอสินเชื่อ ต้องไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านมาก่อน ยกเว้นว่า จะเป็นการซ่อมแซมหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยรวมทั้งผู้ขอสินเชื่อ ต้องไม่มีชื่อเป็นหรือเคยเป็น “เจ้าบ้าน” ในทะเบียนบ้านที่นำมาแสดงเป็นหลักฐานการยื่นกู้กับธนาคาร และต้องมีชื่อเป็น “ผู้อยู่อาศัย” ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 3 ปี ยกเว้น มีชื่อเป็นเจ้าบ้านแต่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้านนั้น

สำหรับคนที่มีบ้านแล้ว สามารถขอสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมและตกแต่งที่อยู่อาศัยได้ ในวงเงินกู้ไม่เกิน 5 แสนบาท คิดดอกเบี้ยเท่ากับกรณีที่กู้บ้านไม่เกิน 7 แสนบาท ทั้งนี้มูลค่ารวมของที่ดินและที่อยู่อาศัยที่จะขอกู้เพื่อซ่อมแซมหรือต่อเติมต้องไม่เกิน 1.5 ลบ.

เงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้จองบ้านประชารัฐ
สิทธิพิเศษเพื่อผู้จองบ้านประชารัฐ คือ ไม่จำกัดรายได้ผู้ขอสินเชื่อ ครอบคลุมทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมาก่อน

นอกจากนั้นแล้ว ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย จะลดราคาบ้านให้อีกอย่างน้อย 2% จากราคาขายสุทธิ ทำให้วงเงินขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านลดลงพร้อม ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจำนองฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปีแถมดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ระยะเวลาผ่อนสูงสุดถึง 30 ปี เท่านั้นยังไม่พอ! ธนาคารยังผ่อนปรนสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้เพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือนกรณีลูกค้ารายย่อย จากเดิม 33% อีกด้วย

อัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อบ้านประชารัฐ
ในส่วนของประชาชนนั้น แยกเป็นเงินกู้เพื่อซื้อหรือก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 700,000 บ. และไม่เกิน 1.5 ลบ. หรือกรณีกู้เพื่อซ่อมแซมวงเงินไม่เกิน 500,000 บ. จะมีรายละเอียด ดังนี้
โครงการบ้านประชารัฐจะแบ่งวงเงินกู้ออกเป็น 2 ส่วนคือ

1. วงเงินกู้ต่ำกว่า 700,000 บ.
ปีที่ 1 ดอกเบี้ย 0%
ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 2%
ปีที่ 4-6 ดอกเบี้ย 5%
ปีที่ 7 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยลอยตัว
* กรณีปีที่ 7 เป็นต้นไป ธอส. คิดอัตราดอกเบี้ย MRR–0.75% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR 6.75%)
* กรณีปีที่ 7 เป็นต้นไป ออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ย MRR – 1.475% (ปัจจุบัน MRR 7.475%)
เราสามารถเลือกผ่อนได้ถึง 30 ปี หากเราขอสินเชื่อในวงเงิน 300,000 – 700,000 บ. เป็นเวลา 10-30 ปี จะต้องเลือกผ่อนจ่ายอย่างไร ดูได้จากตารางด้านล่างนี้



จากตารางด้านบนจะเห็นว่า ถ้าเราขอสินเชื่อ 700,000 บ. ปีที่ 1-3 จะผ่อนแค่เดือนละ 3,000 บ. พอปีที่ 4-6 จะผ่อนเดือนละ 4,100 บ. ขณะที่ปีที่ 7 เป็นต้นไป ผ่อนเดือนละ 4,500 บ.

2. วงเงินกู้ 700,001-1,500,000 บ.
ปีที่ 1-3 ดอกเบี้ย 3%
ปีที่ 4-6 ดอกเบี้ย 5%
ปีที่ 7 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยลอยตัว

* กรณีปีที่ 7 เป็นต้นไป ธอส. คิดอัตราดอกเบี้ย MRR–0.75% ต่อปี สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป และ MRR–1% ต่อปี สำหรับลูกค้าสวัสดิการ

* กรณีปีที่ 7 เป็นต้นไป ออมสิน คิดอัตราดอกเบี้ย MRR –1.475% สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป และ MRR -1.725% ต่อปี สำหรับลูกค้าสวัสดิการ

และหากเราขอสินเชื่อในวงเงิน 700,000-1,500,000 บ. เป็นเวลา 10-30 ปี จะต้องเลือกผ่อนจ่ายอย่างไร ดูได้จากตารางด้านล่างนี้



และถ้าหากเราขอสินเชื่อ 1.5 ลบ. และขอผ่อนชำระ 30 ปี ปีที่ 1-3 จะผ่อนแค่เดือนละ 7,200 บ. พอปีที่ 4-6 จะผ่อนเดือนละ 8,900 บ. ขณะที่ปีที่ 7 เป็นต้นไป ผ่อนเดือนละ 9,700 บ.

กรณีกู้ซ่อมแซม หรือต่อเติม

วงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บ. เริ่มต้นผ่อนชำระ 2,100 บ./เดือน
เอกสารประกอบการขอสินเชื่อบ้านประชารัฐ
บ้านประชารัฐ ธนาคารออมสิน

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้และคู่สมรส
2. สำเนาใบสำคัญสมรส หรือสำเนาใบแสดงการหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตรของผู้สมรส
3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอกู้และคู่สมรส

บ้านประชารัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

1. บัตรประจำประชาชน/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
3. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่
4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส
6. ใบรับรองเงินเดือน/หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
7. สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
8. สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน (กรณีอาชีพประจำ) และ 12 เดือน (กรณีอาชีพอิสระ)
9. สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วนฯ
10. หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
11. รูปถ่ายกิจการ
12. สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

เอกสารหลักประกันเงินกู้

1. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะ
2. สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน
3. สำเนาโฉนดที่ดิน/น.ส.3ก./หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดทุกหน้า กรณีซื้อสินทรัพย์มือสองต้องรับรอง

สำเนาโดยเจ้าพนักงานที่ดิน

โครงการบ้านประชารัฐ กำหนดระยะเวลาดำเนินงานไว้ไม่เกิน 2 ปี นับตั้งแต่ วันที่ 22 มีนาคม 2559 เป็นต้นไป และหากวงเงินเต็มแล้ว ก็ต้องลุ้นดูกันว่า จะมีการขยายวงเงินเพิ่มเติมอีกหรือไม่?

ทั้งนี้ บ้านประชารัฐนี้ คาดว่า จะมีประชาชนได้รับผลประโยชน์ราว 40,000-50,000 รายเลยทีเดียว จึงนับว่าเป็นนโยบายภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ประโยชน์ตกอยู่กับผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานเต็มที่
เผยรายชื่อ บ้านประชารัฐ ผู้ประกอบการตบเท้าเข้าร่วมกว่า 4 หมื่นยูนิต

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่ามีทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม 55 โครงการ จำนวนกว่า 1.2 หมื่นยูนิต ที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐจาก 8 บริษัท อสังหาฯ ได้แก่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท, บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์, บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.ศุภาลัย, บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ และ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึง “กคช.-การเคหะแห่งชาติ” ที่ขน 2.67 หมื่นยูนิตภายใต้แบรนด์ “โครงการเคหะประชารัฐ” ร่วมแจมด้วย