อยากให้คน “สูบบุหรี่” ได้อ่าน ความในใจที่พูดไม่ได้

ใครที่มีแฟนสูบบุหรี่ต้องอ่านหรือใครที่ติดบุหรี่ก็ต้องอ่าน บทความที่นำมานี้เป็นบทความของคนที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดเขียนเอาไว้ ซึ่งเค้าก็ได้บอกไว้ด้วยว่าไม่รู้ว่าเค้าจะสู้ได้อีกนานแค่ไหน แต่ในที่สุดเค้าก็ต้องจากเราไปกับโรคร้ายนี้ ซึ่งบทความที่เค้าเขียนไว้นั้นถือว่าเป็นข้อคิดและแง่คิดได้อยางดีเลยทีเดียว เพราะเค้าต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งระยะสุดท้ายมาเป็นเวลานานและเค้าก็ต้องสู้กับความเจ็บปวดและอะไรหลายๆอย่าง แต่ความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่เพราะว่าเค้ามีกำลังใจที่ดี มีทั้งเพื่อน ครอบครัว และเพื่อน ซึ่งเค้าได้ติดบุหรี่มากและก็สูบมาเป็นเวลานาน แต่ในที่สุดเค้าก็เลิกได้แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพื่อนๆ ลองอ่านบทความด้านล่างดู อาจจะช่วงดึงสติคนที่กำลังสูบอยู่ในตอนนี้ คิดถึงครอบครัวและลูกให้เยอะๆ อย่าให้มีคำว่าสายไป…. ลองไปอ่านดูค่ะ

My memory : ความในใจ ที่พูดไปไม่ได้
————————————————
เข้าใจคนติดบุหรี่เพราะผมก็สูบตั้งแต่สมัยเรียน เลิกเป็นพักๆ แต่ก็ไม่เคยเลิกได้ขาด สมัยสูบมากสุดซองนึงสูบได้วันครึ่ง ก็สูบๆเลิกๆมาเรื่อยตั้งแต่ก่อนอายุ 20 จนถึงจะ 40….มาเลิกได้ขาดเพราะเหตุผล อยากออกกำลังกายได้ดีขึ้น อยากมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ไม่ใช่คุยกับใคร เค้าก็เหม็นแต่กลิ่นบุหรี่ที่ปาก ที่ตัวเรา แค่นั้นเอง…ไม่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ดี หรือไม่มีใครบอกให้เลิกเลย ( ขนาดช่วงแรกลูกสังเกต ทักเราว่าป๊าเลิกบุหรี่เหรอ เรายังแอบดีใจในใจ )
สรุป : คนติดบุหรี่ ไม่ใช่เลิกง่ายๆ ถ้าใจเค้าไม่อยากเลิก ไปพูดบอกให้เลิก ก็ไม่มีประโยชน์
ทุกวันนี้รักษา ” มะเร็งปอดระยะสุดท้าย ” หลังจากที่เลิกบุหรี่แบบเด็ดขาดมา 2 ปี อยากบอกว่า ระยะเวลาปีกว่าๆที่รักษามา ผ่านเหตุการณ์มาเยอะ ทรมานมาก สู้ทั้งใจ สู้ทั้งกาย ได้รับกำลังใจจากทั้งตัวเอง ครอบครัว เพื่อนฝูง … ร่างกายทรุด ดื้อยา 2 รอบ เปลี่ยนการรักษาไป 3รอบ (กะลังจะเปลี่ยนรอบ 4 ) ….. ทุกวันนี้ผมมีความสุข แม้ร่างกายจะไม่เหมือนเดิม ยังทรมานจากโรค การรักษา และอาการแทรกซ้อนอื่นอยู่ทุกวัน แต่สภาพจิตใจผมโอเค ยอมรับมัน อยู่กับมัน ค่อยๆเคลียร์สิ่งต่างๆที่เรายังห่วงให้เสร็จจะได้ไม่เป็นภาระคนข้างหลัง และคิดเสมอว่าตื่นขึ้นมาจะทำวันนี้ให้มีความสุขที่สุด … จะไม่ทำพรุ่งนี้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้อีกนานแค่ไหน
แต่สิ่งที่ผมยังเห็น และกังวล ไม่สบายใจที่สุดคือ เพื่อน พี่ น้องที่สนิท รักกันในกลุ่มยังสูบบุหรี่กัน ในขณะที่มีผมเป็นตัวอย่างให้เห็นต่อหน้าว่ามันไม่ดียังไง มันทรมานขนาดไหน หมดเงินเยอะ สร้างความเดือดร้อน ความเป็นห่วงให้ครอบครัวมากขนาดไหน
ผมเข้าใจสมัยผมสูบใครมาบอกให้เลิกก็ไม่ได้ คือคนมันติดบุหรี่ ( เราก็คิดกูสูบ กูก็ตายคนเดียวไม่เห็นเป็นไร ก็กูอยาก เงินกู ตัวกู กูจะสูบจะทำไม … เชื่อผม คนที่สูบคิดแบบนี้ทุกคน ถึงไม่เลิก )
ผมคงไม่กล้าไปบอกให้เค้าสูบเบาลง รึเลิก แต่ในใจลึกๆ …ได้แต่เป็นห่วงจริงๆ เพราะรักกันมาก … ไม่อยากให้มาทรมานแบบผม… ” มันโคตรทรมาน บอกเลย ” กิจกรรมต่างๆ กิจวัตรที่เคยทำมาแต่ก่อนแทบจะหยุดหมด แล้วคนในครอบครัวล่ะ แม่ พี่น้อง แทนที่จะให้เค้ามีความสุขในบั้นปลาย แต่ต้องมาดูแลคนป่วยมะเร็งเพราะเราทำตัวเอง ( เชื่อเหอะยังไงซะครอบครัวต้องทำทุกทาง หมดเงินมหาศาลเพื่อรักษา )
ผมไม่รู้จะสู้ จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน แต่เวลาที่เหลืออยากแชร์ อยากเตือน ไม่อยากเห็นคนที่เรารักต้องมาอยู่ในสภาพแบบผม
ที่มา : Ton Asawan