ไม่มีข่าวคราวไหนในชั่วโมงนี้ที่คนไทยตามติดเท่ากับ กรณีนักฟุตบอลทีมหมูป่าและโค้ชอีก 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ใน ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย อีกแล้ว สื่อทั่วโลก คนไทยเกือบทั้งประเทศต่างภาวนาให้ผู้ที่ช่วยเหลือพบกับ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำกว่า 80 ชั่วโมงไวๆ
บนความหวังและกำลังใจที่ส่งให้ หลายคนเชื่อว่าทั้ง 13 ชีวิต ยังคงเอาตัวรอด อยู่ในหลืบไหนสักแห่งในถ้ำที่ถูกน้ำกลืนกิน และกั้นขวางจนไม่สามารถกลับออกมาได้
รวมถึงคำถามที่ถูกตั้งมากที่สุด "ทั้ง 13 ชีวิตเป็นอยู่อย่างไรจุดไหนในถ้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ?"
อินทุ อินเจริญ หนุ่มจากเชียงราย ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสนุกซุกซนกับเพื่อนจนติดอยู่ใน ถ้ำหลวง และเกือบทิ้งชีวิตไว้ในถ้ำแห่งนี้ วันนี้ชายคนนี้เปลือยความรู้สึกทั้งหมดให้ "ข่าวสดออนไลน์" รับฟัง ถึงภาพความรู้สึกที่ติดตาฝังใจตลอด แม้จะผ่านมาหลายปี
"จุดที่ผมเดินในถ้ำ ไกลกว่าที่ทั้ง 13 คน อยู่อีกนะ ถ้าอ้างอิงจากสถานที่ที่ข่าวลง" อินทุ กล่าวเริ่มกับเรา
"มันเริ่มต้นมาจากที่ผมและเพื่อนเป็นคนชอบเข้าถ้ำอยู่แล้ว ในเชียงราย ถ้ำอื่นๆพวกผมไปมาหมด วันนั้นประมาณเดือนมิถุนายนเหมือนกันแหละ มันเกิดจากความคึกคะนองของผมเอง ที่อยากเดินถ้ำ เลยไปกับเพื่อน 4-5 คน ไม่ได้บอกที่บ้านแต่อย่างใด เตรียมของใช้ ของกินอะไรทุกอย่างไปครบถ้วนเพื่อลุย"
"ถ้ำมันค่อนข้างยาวนะ ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ แม้จะกว้างแต่ตลอดทางก็มีหินย้อยที่เป็นอุปสรรคบ้าง ทำให้เราต้องหลบตลอด ผมเดินอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า หลบซอกเล็กซอกน้อย เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ จนสุดทาง"
สุดทางแล้วยังไงต่อ ไม่มีทางไปแล้ว ? เราถามคุณอินทุ
"มันเป็นแอ่งน้ำใหญ่อยู่ข้างหน้า ผมเชื่อว่าถ้าเราจะไปต่อต้องดำน้ำลงไปลึกมาก และรูมันเล็กไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหนต่อ จุดที่ผมมาถึง ผมเชื่อว่ามีน้อยคนที่จะมาถึง ตอนนั้นผมตัดสินใจคุยกับเพื่อนว่าเราหยุดตรงนี้ดีกว่า หยิบข้าวมานั่งกินกันริมน้ำในถ้ำ"
อย่างไรก็ตาม "ฝน" หรือน้ำท่วมไม่ใช่อุปสรรคของ อินทุและเพื่อน หากแต่เป็นหนทางที่ซับซ้อนจนงง เมื่อเขาเดินย้อนกลับมาเพื่อกลับ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนเก่า
"พอเดินกลับมามีแต่กำแพงมืด ตอนนั้นผมคิดหน้าคิดหลังทำไงดี พยายามจะหาทางออกกัน เพื่อนหลายคนใจเสียทำอะไรไม่ถูกมันมืดไป 8 ด้าน ไฟที่เราเตรียมมาแบตก็ใกล้หมด ทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด เราอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ เพื่อนผมบางคนตอนนั้นเริ่มไหว้ดิน ไหว้พระขอเจ้าป่าเจ้าเขาแล้ว เราทำทุกวิถีทางที่ทำได้ ขอแค่ให้มีทางกลับออกไป"
"ครู่หนึ่งเราได้ยินเสียงผู้หญิงดังออกมาจากอีกฝั่ง จึงตัดสินใจตามเสียงนั้นด้วยการปืนไป ปรากฎว่ามันเป็นอีกเส้นทางที่ไม่ใช่ทางที่เรามา มันเป็นเนินสูงคล้ายเขาเล็กๆลูกหนึ่งเลย ตรงนั้นอีกฝั่งมีหญิงไทยใหญ่ที่หลงทางอยู่เช่นกัน จากนั้นพวกเราจึงเร่งเดินออกมาถ้ำ จนรอดมาได้ ถ้าไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้น ผมคงติดอยู่ในถ้ำนั่นแหละ"
เราถามคุณอินทุต่อ อากาศข้างในหรือแสงสว่างจากปล่องบนเขา มีเล็ดลอดเข้ามาบ้างหรือไม่ตลอดทางเดินช่วงปลายถ้ำ ?
"ไม่มีเลย มันมืดไปหมด อากาศในถ้ำอาจถ่ายเทสะดวก แต่มันมืดมาก คือถ้าคุณไม่มีไฟติดตัวคุณจะไม่สามารถเดินได้เลย ส่วนจุดที่น้องทั้ง 13 คนอยู่ มันใกล้กว่าที่ผมเดินไปเยอะนะ แต่ตรงนั้นก็ไม่มีปล่องหรอก ยิ่งโดนน้ำท่วมมาเรื่อยๆ ผมคิดว่าตรงจุดเนินใหญ่ที่ผมหาทางกลับไม่ได้ น่าจะเป็นจุดเล็กจุดเดียวที่น้องจะพักอยู่ได้ และน้ำไปไม่ถึง เพราะจุดอื่นท้ายถ้ำมันเต็มไปด้วยน้ำ ไปไหนไม่ได้แน่"
"มันเป็นถ้ำที่ยาว และมืด จุดท้ายถ้ำมันซับซ้อนจนผมกับเพื่อนให้ชื่อว่าเป็น เมืองลับแลเลย" อินทุ ทิ้งท้ายกับเรา
ที่มา : ข่าวสด