ตำนาน อาถรรพ์ถ้ำหลวงดอยนางนอน (คลิป)




ชมคลิปวิดิโอ



หรือตำนานที่ชาวบ้านกล่าวถึงจะเป็นความจริง การจะเข้าไปในถ้ำต้องขออนุญาตจากเจ้าที่เจ้าทางผู้ที่ดูแลถ้ำ ห้ามส่งเสียงดัง และพูดจาในสิ่งที่ไม่ควร ไม่เช่นนั้นจะเจอเหตุลี้ลับไม่คาดฝันขึ้น จนต้องออกจากถ้ำแทบไม่ทัน

ในอดีตเมื่อปี 2534 ได้มีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 2 คน มาเที่ยวถ้ำหลวง จนเวลาล่วงเลยไปนาน ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะออกมาจากถ้ำ จึงมีการแจ้งตำรวจและช่วยกันค้นหา กว่าจะพบใช้เวลาไป 3 วันในสภาพนักท่องเที่ยวอิดโรยเต็มที รวมถึงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวจอดจักรยานทิ้งไว้หน้าถ้ำ เข้าไปนั่งสมาธิในถ้ำแห่งนี้ และหลงทาง กว่าจะพบตัวใช้เวลามากถึง 7 วัน



ตำนานดอยนางนอน เรื่องแรกเล่าขานว่า ณ เมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งมีพระรูปงดงามเป็นที่ยิ่ง ได้แอบรักกับชายเลี้ยงม้าในวัง จึงหนีตามกันมาถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง เมื่อเดินทางไปถึงที่นั่น เจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงเสด็จต่อไปไม่ไหว บอกพระสวามีว่าจะประทับรออยู่ที่นั่น สวามีก็บอกว่าจะไปหาอาหารมาให้ อย่าไปไหน ชายหนุ่มก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเสียที ปรากฏว่าถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดาเจ้าหญิงที่สะกดรอยตามมา

ด้วยความเสียใจ นางจึงใช้ปิ่นปักผม แทงพระเศียรของพระองค์จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ และพระวรกายของพระองค์ที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจนทุกวันนี้


ทางไปอำเภอแม่จัน มีขุนเขาทอดตัวคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว เรียกว่า ดอยนางนอน ดอยส่วนที่ศีรษะเรียกว่า ดอยจ้อง หรือ ดอยจิกจ้อง (เดิมเรียกดอยนี้ว่า ดอยท่าหรือดอยต้า) เป็นดอยของลูกชายปู่เจ้าลาวจกที่รอคอยพ่อ ดอยลูกถัดมาเรียกว่า ดอยย่าเฒ่า ซึ่งเป็นภรรยาของปู่เจ้าลาวจก ส่วนดอยอีกลูกหนึ่งคือ ดอยดินแดง หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ ดอยตุง

เชื่อกันว่า ดอยทั้ง 3 นี้เป็นที่อยู่อาศัยเดิมของลาวจักราช ผู้เป็นต้นวงศ์ของพญามังราย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง อันถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของภาคเหนือ


ตำนานเรื่องที่ 2 เล่าว่า เจ้าหญิงเมืองพุกามกรีธาทัพออกตามหาเจ้าชายที่นางรัก นางออกรบ มีผู้คนล้มตายมากมาย และขยายอาณาเขตมาเรื่อยๆ จนมาถึง "เวียงสี่ทวง" จึงพบกับเจ้าชาย แต่ปรากฏว่าเจ้าชายหนีหายไปกับสาวสวยชาวเวียงนี้อีกครั้ง นางรู้สึกเศร้าสลดจนตรอมใจตาย

ก่อนตายได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ร่างของนางกลายเป็นเทือกเขา ที่ชาวบ้านพากันเรียกว่า "ดอยนางนอน" น้ำตาที่ไหลรินกลายเป็น "ขุนน้ำนางนอน" ส่วนไพร่พลของนางก็กลายมาเป็นชนเผ่าหลากชาติพันธุ์บนภูเขาแห่งนี้


ตำนานเรื่องที่ 3 เกี่ยวกับ "พระธาตุจอมนาค" อีกเรื่องว่า พญาครุฑลักพาลูกสาวพญานาค มาแอบซุกซ่อนอยู่ในเทือกเขาแห่งนี้ พญานาคผู้พ่อออกตามหาก็มาพบลูกสาวนอนอยู่กับพญาครุฑในบริเวณที่เป็นต้นน้ำ ปัจจุบันเรียกว่า "ขุนน้ำนางนอน" ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระธาตุดอยตุง

พญานาคขอลูกสาวคืน แต่พญาครุฑขอแลกกับทองคำ ทุกวันนี้แหล่งน้ำที่พญานาคนำทองคำขึ้นจากบาดาล มาแลกลูกสาวนั้นเรียกว่า "หนองตานาค" บริเวณที่พญานาคส่งทองคำให้พญาครุฑนั้นเรียกว่า "หนองละกา" แปลว่าพญานาคลาจากสัตว์พวกนกกากลับบาดาล ทองคำถูกนำไปเก็บไว้ที่ "ถ้ำทรายคำ" หรือถ้ำทรายทอง ก่อนกลับไปพญานาคสร้าง "พระธาตุจอมนาค" หมายไว้

จาก

ตำนานที่คนเล่าขานถึงความลี้ลับ อาถรรพณ์ของถ้ำหลวง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ด้วยลักษณะของถ้ำมีความคดเคี้ยว บางช่วงมีเพดานต่ำ เดินทางลำบาก รวมถึงน้ำในถ้ำที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นอุปสรรคในการค้นหาเด็กๆ และโค้ชทีมฟุตบอลที่สูญหาย หวังว่าทุกคนจะปลอดภัย จากกำลังใจของคนในสังคมส่งมา "ต้องรอด".