หลังจากมีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มบนโลกโซเชียล ว่า มีรูปปั้นตายายอยู่ในศาลกลางหมู่บ้าน ชื่อว่า “ศาลตาเมฆ ยายหมอก” ปั้นในท่าเปลือยกายทั้ง 2 ท่าน
โดยตาอยู่บนตัวยายในท่านั่งคุกเข่า 2 ข้าง
ขณะกำลังจะแหย่อวัยวะเพศไปที่อิตถีของยาย
โดยยายนอนราบกับพื้นยกขาทั้ง 2 ข้างวางพาดไปบนต้นขาของตา
ในลักษณะกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน ที่พื้นที่ หมู่ 3 บ้านบางสะแก ริมถนนสายบางสะแก-โคกงูเห่า ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ส่งผลทำให้นักเสี่ยงโชคแห่ขอเลขเด็ดกันทั่วสารทิศ
( 31 ต.ค. 61 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบนักเสี่ยงโชคหวังจะได้เลขเด็ดโชคลาภ
ชาวบ้านแห่กันเข้ามาจุดธูปขอพรตาเมฆยายหมอก
นำผ้าสามสีมาผูกและพวงมาลัยมาคล้องให้ตาเมฆยายหมอกกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจะเขย่าติ้ว
เสี่ยงเซียมซี เพื่อขอเลขเด็ดกับตายายอย่างเนื่องแน่น
บางรายก็นำเอาผลไม้ น้ำแดง เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนขอเลขเด็ด ซึ่งมี
ส.ท.ผ่อง แจ่มจำรัส อายุ 67 ปี คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการ “ศาลตาเมฆ
ยายหมอก” และชาวบ้านพื้นที่ ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง
ร่วมกันสวดมนต์ขมาลาโทษก่อนชาวบ้าน และประชาชนที่มาร่วมในพิธี
ต่างคนก็ต่างจุดธูปขอเลขเด็ด
หลังจากนั้นทั้งหมดก็ได้ร่วมกันอธิษฐานขอพรขอโชคลาภ
จากนั้นได้เขย่าติ้วเสี่ยงเซียมซีเพื่อเสี่ยงโชคได้เลขเป็น 730, 24
,14 อย่างไรก็ตามเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
และเป็นโชควาสนาของแต่ละคนที่จะได้โชคลาภกันด้วย
ด้าน ส.ท.ผ่อง แจ่มจำรัส กล่าวเพิ่มด้วยว่ากรณีที่มีชาวเน็ต
วิจารณ์กันอย่างหนักในโลกโซเชียล ว่า “ศาลตาเมฆ
ยายหมอก” ไม่เหมาะสมนั้นก็ไม่สามารถห้ามความคิดใครได้
แต่โดยความถูกต้องแล้วรูปปั้นตายายนี้ มีมาตั้งแต่ในอดีตโบราณนานมาแล้ว
อายุราว 40-50 ปี
โดยสมัยก่อนเป็นรูปปั้นดินเหนียว วางอยู่ข้างคันนาในทางสามแพร่ง เมื่อฝนแล้งทำให้นาได้รับความเสียหาย
พืชไร่พืชนาไม่ได้ผลผลิต ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ชาวบ้านจึงได้นำรูปปั้นตาเมฆ-ยายหมอก ลักษณะมีเพศสัมพันธ์กัน
พร้อมกับแมวอีก 1 ตัว ร้องเพลงแห่ไปรอบหมู่บ้านเพื่อขอฝนจากเทวดา ให้เทวดาได้เห็นว่า มีภาพลักษณะพิเรนของโลกมนุษย์ เทวดาจึงทำให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล
ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ถือว่า
เป็นประเพณีอันนี้สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นโบราณเป็นความเชื่อของชาวบ้านบางสะแก
ไม่คิดไปในเรื่องลามกอนาจารแต่อย่างใด
เดิมทีที่เป็นดินนั้นพอแห่นางแมวเสร็จแล้วฝนตกลงมา ก็จะวางรูปปั้น “ตาเมฆ
ยายหมอก” ไว้กับดินก็จะละลายไปตามสายฝน
จนกระทั่ง
“ช่างเล็ก” ช่างปั้นเปรต วัดไผ่โรงวัว วัดที่หลวงพ่อขอม
เกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งลุ่มน้ำท่าจีน เมืองสุพรรณฯ
ได้สร้างปริศนาธรรมให้กับพุทธศาสนิกชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ธรรมะ บาป
บุญ คุณ โทษ มาเห็นเข้าจึงอาสาปั้นให้เป็นปูน ส่วนศาลนั้นคอหวยที่โชคดีถูกหวยรวยเบอร์จึงได้ช่วยกันมาสร้างศาลขึ้นมา
ส่วน นายกำพล ลีวานนท์ อายุ 48 ปี หรือผู้ใหญ่หนึ่ง
อยู่บ้านเลขที่ 248 หมู่ 3 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง
อธิบายถึงความหมายที่มาของคำว่า “ตาเมฆ ยายหมอก” ตาเมฆ
เป็นสัญลักษณ์ของผู้ชาย และ ยายหมอกคือผู้หญิง เป็นเมฆหมอก
การที่รูปปั้นแสดงออกแบบนี้คือทำให้รวมกัน
เมื่อเมฆหมอกรวมตัวกันก็จะกลายเป็นฝน
ก็คือมันเป็นกุศโลบายของคนสมัยโบราณเท่านั้นเอง
เดิมที ที่เป็นรูปดินในทางสามแพร่ง ชาวบ้านเห็นว่า ไม่น่าดูเท่าไหร่นัก
จึงได้ร่วมมือกันสร้างศาลาเล็กๆ
ขึ้นมาเพื่อให้ตากับยายได้สถิตย์อยู่ในศาลาแห่งนี้
ปัจจุบันก็ยังเป็นที่พึ่งทางใจ
เป็นศูนย์รวมจิตใจกับชาวบ้านให้มีความรักความสามัคคีกันในชุมชนด้วย
ส่วนช่วงใกล้วันหวยออก
ที่มีนักเสี่ยงโชคมาขอเลขกับตายายเป็นประจำ บ้างก็ได้เลขเด็ดรับโชคไป
ถูกหวยกันบ้าง บางรายไม่มีโชคก็ต้องผิดหวังไม่ได้โชคก็มี
อย่างไรก็ตามเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ส่วนเรื่องลี้ลับที่เกิดกับศาลแห่งนี้
ก่อนหน้านี้มีวัยรุ่นคึกตะนองไม่เชื่อเรื่องตรงนี้ได้ใช้เท้าถีบตาเมฆยายหมอกถีบจนศีรษะหัก
ต่อมาวัยรุ่นสองผัวเมีย ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ และอีกหลายๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างน่าแปลกใจ
โดยเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใครบอกได้ว่าเกี่ยวข้องกับศาลตายายหรือไม่
ทั้งนี้ นายกำพล หรือผู้ใหญ่หนึ่ง กล่าวว่าในวันที่ 12 เมษายน
ของทุกปีจะเป็นงานฉลองศาล “ตาเมฆ ยายหมอก” มีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป
ถวายภัตราหารจตุปัจจัยไทยธรรมต่างๆ รวมไปถึงมีการร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานจนสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน บางคนก็เดินทางมาขอโชคลาภก็ได้กัน ถูกหวยถูกลอตเตอรี่กันเป็นจำนวนมาก
ส่วนในเรื่องที่ถูกมองว่า เป็นเรื่องลามกอนาจารหรือไม่ นายดำรง
กล่าวเพิ่มอีกด้วยว่า จริงๆ
แล้วมันไม่ใช่ แต่จะเป็นการอนุรักษ์สิ่งที่คนโบราณ รุ่นปู่ย่าตายาย
ที่เขาทำต่อเนื่องกันมาช้านานแล้ว
เพื่อเป็นที่ยึดทางเหนี่ยวจิตใจของคนโบราณมากกว่า