แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

สำหรับสาวแตงโม - นิดา ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคุณแม่ลูกอ่อนแล้ว หลังจากที่รับลูกสาวน้องอีสเตอร์ ของเพื่อนคนสนิทมาเป็นลูกบุญธรรม โดยเจ้าตัวได้อัพเดทพัฒนาการของน้องอีสเตอร์ให้ฟังว่า...
"น้องอีสเตอร์ ตอนนี้น่ารักมากเลยค่ะ กำลังอ้อแอ้ ได้เดือนกับอีกไม่กี่วันเองค่ะ ตอนคลอดได้เข้าไปดูค่ะ วินาทีนั้นก็ต้องให้กำลังใจคุณกระติกนะคะ เพราะเขาลูกคนแรก และตัดสินใจจะคลอดเอง เพราะฉะนั้นต้องการกำลังใจมากๆ เราก็พยายามบอกว่าโอเคไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ไม่ถึงกับเบ่งตาม แต่เราต้องช่วยเขาในการเบ่ง ช่วยไปพร้อมๆกันกับพยาบาลนะคะ มันก็มีความรู้สึกซาบซึ้ง เห็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์ ที่พระเจ้าทรงสร้างให้ผู้หญิงมีสรีระในการอุ้มท้องได้ แต่ก็คงไม่เท่าคุณกระติกที่เขาคลอดออกมาเองมันมีสายใยแห่งสายเลือด เลี้ยงเองทุกขั้นตอนไหมก็ช่วยกันนะคะ เราจะสลับกันแต่คุณกระติกจะเป็นเมนหลักอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นแม่คอยให้นม เขาจะมีสายใยความผูกพันที่เป็นแม่ลูกโดยกำเนิดนะคะ แต่ของโมจะเป็นคุณแม่เสริมที่คอยอำนวยความสะดวก "
น้องเลี้ยงยากไหม?
"อีสเตอร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณพระเจ้า เราโชคดีมากๆที่น้องไม่ร้องเลยนอกจากหิว ไม่งอแงเลยค่ะ ถ้าไม่ร้องก็อ้อแอ้ ตอนแรกเราก็กังวลว่าจะมีเด็กจำนวนนึงที่เป็นโคลิกคือร้องแบบไม่มีสาเหตุนะคะ ร้องเป็นประจำทุกเวลานี้ในทุกวัน ตอนแนกเราก็กลัวเพราะมีลูกพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เป็นเหทือนกัน เราก็กลัวว่สถ้าเป็นแบบนั้นจะทำอย่างไร เราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่รู้จะรับมือยังไง แต่สรุปว่าไม่เป็น ไม่งอแงเลย"

อย่างโมเองถือว่าเห่อไหม?
"ค่อนข้างติดนะคะ แต่โมไม่ค่อยแสดงออกสักเท่าไหร่ โมคิดถึงอยู่ตลอดๆ วันๆก็เปิดแต่คลิปลูกดู กลับบ้านเร็ว นอนเร็ว ต้องนอนเร็วเพราะต้องชาร์ตตัวเองถ้าน้องตื่นเมื่อไหร่เราต้องพร้อมเสมอ ทำงานเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปห้างสักเท่าไหร่แล้วค่ะ เพราะว่าจะรีบกลับบ้านไปหาลูกอย่างเดียว เรื่องเปลี่ยนแพมเพิร์สเป็ค่ะ เป็นหมดสิ่งเหล่านี้เราเรียนตั้งแต่เป็นผู้ช่วยพยาบาลแล้ว จะมีพื้นฐานมาอยู่แล้ว "
มีลูกแล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหม? "เปลี่ยนค่ะ ทั้งโมและกระติก เราจะต้องใจเย็นขึ้น เพราะว่าเด็กไม่สามารถพูดได้ เราต้องเล่นเกมส์ทายใจ เราต้องอดทนกับการหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร คอยสังเกตตลอด และเราอยากจะเป็นคุณแม่ที่ดีค่ะ พัฒนาตัวเองและอยากมีศักยภาพในการดูแลน้องที่ดี และเริ่มวางแผนอะไรในระยะไกลมากขึ้น เพิ่มความมั่นคงให้ตัวเองอย่างรวดเร็วค่ะ โมเชื่อว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ทุกคนเป็นแบบนี้แน่นอน คือแม่ของน้องเป็นคนสนิทของโม รู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว เรียกง่ายๆว่าเป็นเพื่อนแท้ ไม่ใช่แค่เพื่อนเที่ยว เราอยู่บ้านเดียวกัน เราอยู่ด้วยกันมานานมากแล้วนะคะ จะมีบางช่วงที่แยกกันอยู่ เมื่อก่อนอยู่คอนโดเดียวกันพอต่างคนต่างมีแฟนก็แยกกันไปอยู่กับแฟน พอตอนนี้ไม่มีแฟนก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว เขาเป็นซิงเกิ้ลมัม พอโมเลิกกับโน่ก็เอาเขามาอยู่ด้วย มาเป็นผู้จัดการ มาอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ลูกเขาก็เหมือนลูกเราค่ะ ในเรื่องของเอกสารเป็นแค่กระดาษนะคะ โมไม่ได้อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใคร เพราะลูกกับแม่เขาเกิดมาจากสายเลือดเดียวกัน โมไม่ได้ต้องการยึดลูกใครมาเป็นของตัวเอง พอเขาโตมาเขาก็มีแม่คนเดียวนั่นแหละค่ะ เพียงแค่โมเป็นแม่ด้วยความรู้สึกด้วยหัวใจ ก็จะดูแลเขาไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะไม่ต้องการค่ะ "

แล้วตัวเราเองอยากมีลูกเป็นของตัวเองไหม?

"เมื่อก่อนอยากมีลูกของตัวเองค่ะ แต่พอมีอีสเตอร์แล้ว เขาเติมเต็มได้ครบถ้วนเลยค่ะ น่ารักมากจริงๆ คุณพ่อโมก็หลงมาก ต้องบอกว่าบ้านที่เราอยู่ตอนนี้ต่อเติมอยู่เพื่อให้น้องได้มีพื้นที่ได้เล่นในอนาคตด้วย "
ทางพ่อเด็กมีการติดต่อมาบ้างไหม?"เขาก็มีการติดต่อมาบ้างค่ะ ไม่ถึงกับเกลียดขี้หน้ากัน เราก็คำนึงถึงความสำคัญที่ลูกจำเป็นต้องมีพ่อและมีแม่ค่ะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่ได้สนิทกัน เป็นเรื่องส่วนตัวของกระติกค่ะ เรื่องบางเรื่องเราให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ
แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

แตงโม เห่อ “อีสเตอร์” แจงอยากยึดลูกมาเป็นของตัวเอง???

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS