หลังจากเป็นดราม่าเล็กๆเกี่ยวกับตอนจบของบัลลังก์หงส์
ค่ายละคร สามัญการละคร ได้มีการออกคำชี้แจง
กรณีความไม่สมบูรณ์ของละครบัลลังก์หงส์ ฉบับที่ 1 ใจความว่า
สืบเนื่องจากการที่ ละครบัลลังก์หงส์ ในคืนวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม
พ.ศ.2559 ได้ออกอากาศทางช่องเจ็ดสี
เป็นวันสุดท้าย...ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ความสับสน และรวมไปถึงความผิดหวัง
จากผู้ชมที่กรุณา ติดตามละครเรื่องบัลลังก์หงส์มาโดยตลอด
บริษัทสามัญจึงขอชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว...โดยคำชี้แจงนี้ หาใช่การขอความเห็นใจ หาใช่คำแก้ตัว หรือโยนความผิดให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น เป็นคำชี้แจงเพื่อให้ผู้ชมที่ ต้องการทราบข้อเท็จจริง ได้เข้าถึงข้อมูลและสาเหตุที่แท้จริงของกรณีนี้เท่านั้น
บัลลังก์หงส์ เป็นบทประพันธ์ที่ช่องเจ็ดสีได้ซื้อลิขสิทธิ์ไว้ และอนุมัติให้บริษัทสามัญ ผลิตเป็นละคร โทรทัศน์...ในการพิจารณาการผลิตละครเรื่องนี้นั้น เป็นความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้ผลิตกับช่องเจ็ดสี ที่เห็นคุณค่าของบทประพันธ์เรื่องบัลลังก์หงส์ ทั้งในเรื่องความเข้มข้น และโครงสร้างของเรื่องที่ แสดงให้เห็นถึง ชีวิตของมนุษย์ในสังคม ซึ่งมีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ชิงชัง แค้นเคือง...โดยเชื่อว่า จะเป็นรสชาติของละครที่คนดูสามารถติดตามดูได้อย่างสนุก...การวางตัวนักแสดงของเรื่อง ก็เป็นการคัดสรร และเห็นชอบร่วมกันระหว่างช่องเจ็ดสีและบริษัทสามัญ
ในระหว่างขั้นตอนการถ่ายทำละครเรื่องนี้ มีรายละเอียดของการทำงานมากมาย เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แก่ละครบัลลังก์หงส์มากที่สุด ซึ่งคำชี้แจงฉบับนี้ จะขอข้ามเรื่องนี้ไป จะไม่กล่าวถึงงานในส่วนนี้ แต่อย่างใด
กระทั่ง การถ่ายทำละครได้เนื้อละครประมาณ 60เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ทางสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสี มีความเห็นว่า ถึงเวลาที่ละครเรื่องนี้สมควรออกอากาศ จึงมีกำหนดออกอากาศ ในวันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559 โดยออกอากาศสัปดาห์ละสองวันคือวันจันทร์และอังคาร
เมื่อมีกำหนดออกอากาศแน่นอน บริษัทสามัญจึงจำเป็นต้องวางแผนการถ่ายทำละครในส่วนที่เหลือ ให้ เสร็จสิ้น ทันต่อการออกอากาศ...กำหนดการทำงานจนถึงวันปิดกล้อง จึงถูกกำหนดขึ้น โดยบริษัทจำเป็น ต้องถ่ายไล่เรียงตามบท ไปจนถึงบทสุดท้ายของเรื่อง เพื่อกระบวนการตัดต่อ จะได้เดินหน้าคู่กันไปจนจบ เรื่องและออกอากาศได้ทันเวลา และบริษัทได้เร่งดำเนินการถ่ายทำตามแผนงานนั้นอย่างละเอียด...
ในวันที่ละครบัลลังก์หงส์ออกอากาศเป็นวันแรก มีผู้ชมให้ความสนใจ ตอบรับละครเรื่องบัลลังก์หงส์ เป็น อย่างดี ท่ามกลางความยินดีของผู้ร่วมงานทุกคน...อย่างไรก็ตาม ช่องทางการชมละครโทรทัศน์ใน ปัจจุบันนั้นมีมากมาย มีจำนวนช่องมากขึ้น มีจำนวนละครมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปิดทางเลือกให้ผู้ชมมากขึ้น...ดังนั้นในแต่ละวันแต่ละคืนของการชมโทรทัศน์ ย่อมมีละครบางเรื่องที่มีคนดูมาก และมีละครบางเรื่องที่มีคนดูปานกลาง หรือบางเรื่องที่จำนวนคนดูน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ...ซึ่งทั้งนี้ อยู่ที่รสนิยมของผู้ชมและบรรยากาศของการชมในเวลานั้นๆ จะถูกจริตกับละครโทรทัศน์เรื่องไหนมากกว่ากัน
หลังจากละครบัลลังก์หงส์ออกอากาศไปได้ประมาณ สาม-สี่ สัปดาห์จำนวนผู้ชมละครบัลลังก์หงส์จากการวัดเรตติ้งกลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายและความคาดหวังของสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสี...ในขณะที่ บริษัทสามัญก็ยังคงเร่งถ่ายทำละครต่อไปอย่างมิอาจหยุดได้ โดยให้ความสำคัญกับเนื้อหาของเรื่อง และ พัฒนาการของชีวิตตัวละครแต่ละตัว เช่นเดียวกับที่ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ตอนแรก...
เมื่อละครออกอากาศไปได้กว่าครึ่งเรื่อง บริษัทได้รวบรวมเวลาของเนื้อละครที่ถ่ายไปแล้ว รวมกับบทที่เหลืออีกสองตอนสุดท้าย บริษัทพบว่าความยาวของละครทั้งเรื่องน่าจะมีจำนวนตอนยาวกว่าที่ได้เซ็นสัญญากับทางช่องเจ็ดสีไว้เป็นจำนวนสองตอน...โดยได้แสดงให้ทางสถานีเห็นด้วยว่า มิได้เกิดจากการจงใจยืดเรื่องเพื่อให้ได้เวลาละครมากขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัวนั้น มี ที่มาที่ไป มีความพลิกผัน และชะตากรรมของตนมากมาย ที่ไม่อาจข้ามไปหรือตัดทิ้งไปได้ เพราะจะทำให้ ตัวละครเหล่านั้นขาดความสมบูรณ์ และขาดเหตุผลที่เกี่ยวพันกับเนื้อเรื่องหลักไป...ซึ่งประเด็นรายละเอียดนี้ อาจมีความเห็นที่ต่างกัน เพราะเป็นเรื่องของรสนิยมในการชมละครที่อาจจะแตกต่างกัน เราไม่อาจบอกได้ว่ารสนิยมของใครดีกว่ากัน หรือรสนิยมของใครถูกหรือผิด
แต่เมื่อบริษัทเดินหน้าถ่ายทำเรียงตามตอนตามแผนงานดังกล่าวไปแล้วเบื้องต้น เราจึงไม่สามารถตัดเรื่องให้จบลงกลางคันได้...บริษัทสามัญได้ชี้แจงเรื่องนี้ให้ทางสถานีทราบก่อนหมดเวลาออกอากาศสี่สัปดาห์
สถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสีได้พิจารณาจากเหตุผลที่ว่า ในบางวันของการออกอากาศละครบัลลังก์หงส์นั้น เวลาของละครได้ถูกตัดหายไปบางส่วน เนื่องจากมีการถ่ายทอดฟุตบอล ช่องเจ็ดสีจึงอนุโลมให้เพิ่มจำนวนตอนของละครได้หนึ่งตอน...
กระทั่ง ถึงต้นเดือนธันวาคม เมื่อบริษัทส่งเนื้อละครตอนสุดท้ายที่มีให้ช่องเจ็ดสีได้ดู ทางสถานีจึงมีคำสั่ง ให้ใส่ตัวหนังสือคำว่าจบบริบูรณ์ลงไปตอนท้ายละครด้วย บริษัทได้แจ้งว่า เนื่องจากละครไม่จบบริบูรณ์จริง จึงไม่อาจเขียนคำว่าจบบริบูรณ์ลงไปได้ แต่ทางสถานีก็ยืนยันที่จะให้มีข้อความดังกล่าว และขอให้ บริษัท หาวิธีเล่าเรื่องสรุปจบลงไปพร้อมกับคำว่าจบบริบูรณ์ให้ได้
นั่นจึงเป็นที่มาของภาพสุดท้ายในละครบัลลังก์หงส์ ที่ออกอากาศในวันที่26 ธันวาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่าน มา
ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น...บริษัทสามัญขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกท่าน และ นักแสดงทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันมาจนถึงวันนี้...รวมถึงผู้ชมที่กรุณาติดตามละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ละครเรื่องนี้จบ อย่างไม่สมบูรณ์...และไม่ใช่การจบบริบูรณ์แต่อย่างใด...ความรู้สึกของผู้ที่ได้ชมและไม่ได้ชมละครเรื่องนี้ ย่อมมีแตกต่างกันไป บริษัทสามัญไม่อาจขอร้องให้ผู้ใด เข้าใจได้มากกว่าที่ท่านนั้นๆจะเข้าใจ สิ่งเดียวที่ทำได้ คือบอกเล่าความเป็นจริงอย่างบริสุทธิ์ใจในคำชี้แจงนี้ และไม่มีเจตนาจะกล่าวโทษฝ่ายใด...เพราะ ในการผลิตละครโทรทัศน์นั้น ผู้จัดและสถานีถือเป็นผู้ผลิตร่วมกัน ความผิดพลาดใดๆที่เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่ง ที่ต้องยอมรับร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขร่วมกันในอนาคต
ขอขอบพระคุณด้วยจิตบริสุทธิ์
บริษัท สามัญการละคร
27 ธันวาคม พ.ศ.2559
บริษัทสามัญจึงขอชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว...โดยคำชี้แจงนี้ หาใช่การขอความเห็นใจ หาใช่คำแก้ตัว หรือโยนความผิดให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น เป็นคำชี้แจงเพื่อให้ผู้ชมที่ ต้องการทราบข้อเท็จจริง ได้เข้าถึงข้อมูลและสาเหตุที่แท้จริงของกรณีนี้เท่านั้น
บัลลังก์หงส์ เป็นบทประพันธ์ที่ช่องเจ็ดสีได้ซื้อลิขสิทธิ์ไว้ และอนุมัติให้บริษัทสามัญ ผลิตเป็นละคร โทรทัศน์...ในการพิจารณาการผลิตละครเรื่องนี้นั้น เป็นความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้ผลิตกับช่องเจ็ดสี ที่เห็นคุณค่าของบทประพันธ์เรื่องบัลลังก์หงส์ ทั้งในเรื่องความเข้มข้น และโครงสร้างของเรื่องที่ แสดงให้เห็นถึง ชีวิตของมนุษย์ในสังคม ซึ่งมีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ชิงชัง แค้นเคือง...โดยเชื่อว่า จะเป็นรสชาติของละครที่คนดูสามารถติดตามดูได้อย่างสนุก...การวางตัวนักแสดงของเรื่อง ก็เป็นการคัดสรร และเห็นชอบร่วมกันระหว่างช่องเจ็ดสีและบริษัทสามัญ
ในระหว่างขั้นตอนการถ่ายทำละครเรื่องนี้ มีรายละเอียดของการทำงานมากมาย เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แก่ละครบัลลังก์หงส์มากที่สุด ซึ่งคำชี้แจงฉบับนี้ จะขอข้ามเรื่องนี้ไป จะไม่กล่าวถึงงานในส่วนนี้ แต่อย่างใด
กระทั่ง การถ่ายทำละครได้เนื้อละครประมาณ 60เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ทางสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสี มีความเห็นว่า ถึงเวลาที่ละครเรื่องนี้สมควรออกอากาศ จึงมีกำหนดออกอากาศ ในวันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559 โดยออกอากาศสัปดาห์ละสองวันคือวันจันทร์และอังคาร
เมื่อมีกำหนดออกอากาศแน่นอน บริษัทสามัญจึงจำเป็นต้องวางแผนการถ่ายทำละครในส่วนที่เหลือ ให้ เสร็จสิ้น ทันต่อการออกอากาศ...กำหนดการทำงานจนถึงวันปิดกล้อง จึงถูกกำหนดขึ้น โดยบริษัทจำเป็น ต้องถ่ายไล่เรียงตามบท ไปจนถึงบทสุดท้ายของเรื่อง เพื่อกระบวนการตัดต่อ จะได้เดินหน้าคู่กันไปจนจบ เรื่องและออกอากาศได้ทันเวลา และบริษัทได้เร่งดำเนินการถ่ายทำตามแผนงานนั้นอย่างละเอียด...
ในวันที่ละครบัลลังก์หงส์ออกอากาศเป็นวันแรก มีผู้ชมให้ความสนใจ ตอบรับละครเรื่องบัลลังก์หงส์ เป็น อย่างดี ท่ามกลางความยินดีของผู้ร่วมงานทุกคน...อย่างไรก็ตาม ช่องทางการชมละครโทรทัศน์ใน ปัจจุบันนั้นมีมากมาย มีจำนวนช่องมากขึ้น มีจำนวนละครมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปิดทางเลือกให้ผู้ชมมากขึ้น...ดังนั้นในแต่ละวันแต่ละคืนของการชมโทรทัศน์ ย่อมมีละครบางเรื่องที่มีคนดูมาก และมีละครบางเรื่องที่มีคนดูปานกลาง หรือบางเรื่องที่จำนวนคนดูน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ...ซึ่งทั้งนี้ อยู่ที่รสนิยมของผู้ชมและบรรยากาศของการชมในเวลานั้นๆ จะถูกจริตกับละครโทรทัศน์เรื่องไหนมากกว่ากัน
หลังจากละครบัลลังก์หงส์ออกอากาศไปได้ประมาณ สาม-สี่ สัปดาห์จำนวนผู้ชมละครบัลลังก์หงส์จากการวัดเรตติ้งกลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายและความคาดหวังของสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสี...ในขณะที่ บริษัทสามัญก็ยังคงเร่งถ่ายทำละครต่อไปอย่างมิอาจหยุดได้ โดยให้ความสำคัญกับเนื้อหาของเรื่อง และ พัฒนาการของชีวิตตัวละครแต่ละตัว เช่นเดียวกับที่ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ตอนแรก...
เมื่อละครออกอากาศไปได้กว่าครึ่งเรื่อง บริษัทได้รวบรวมเวลาของเนื้อละครที่ถ่ายไปแล้ว รวมกับบทที่เหลืออีกสองตอนสุดท้าย บริษัทพบว่าความยาวของละครทั้งเรื่องน่าจะมีจำนวนตอนยาวกว่าที่ได้เซ็นสัญญากับทางช่องเจ็ดสีไว้เป็นจำนวนสองตอน...โดยได้แสดงให้ทางสถานีเห็นด้วยว่า มิได้เกิดจากการจงใจยืดเรื่องเพื่อให้ได้เวลาละครมากขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัวนั้น มี ที่มาที่ไป มีความพลิกผัน และชะตากรรมของตนมากมาย ที่ไม่อาจข้ามไปหรือตัดทิ้งไปได้ เพราะจะทำให้ ตัวละครเหล่านั้นขาดความสมบูรณ์ และขาดเหตุผลที่เกี่ยวพันกับเนื้อเรื่องหลักไป...ซึ่งประเด็นรายละเอียดนี้ อาจมีความเห็นที่ต่างกัน เพราะเป็นเรื่องของรสนิยมในการชมละครที่อาจจะแตกต่างกัน เราไม่อาจบอกได้ว่ารสนิยมของใครดีกว่ากัน หรือรสนิยมของใครถูกหรือผิด
แต่เมื่อบริษัทเดินหน้าถ่ายทำเรียงตามตอนตามแผนงานดังกล่าวไปแล้วเบื้องต้น เราจึงไม่สามารถตัดเรื่องให้จบลงกลางคันได้...บริษัทสามัญได้ชี้แจงเรื่องนี้ให้ทางสถานีทราบก่อนหมดเวลาออกอากาศสี่สัปดาห์
สถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดสีได้พิจารณาจากเหตุผลที่ว่า ในบางวันของการออกอากาศละครบัลลังก์หงส์นั้น เวลาของละครได้ถูกตัดหายไปบางส่วน เนื่องจากมีการถ่ายทอดฟุตบอล ช่องเจ็ดสีจึงอนุโลมให้เพิ่มจำนวนตอนของละครได้หนึ่งตอน...
บริษัทได้แจ้งอย่างเป็นทางการกับสถานีช่องเจ็ดว่า
จำนวนตอนดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการจบที่สมบูรณ์ ของละคร
แต่ไม่ว่าบริษัทจะชี้แจงอย่างไร ก็มิอาจเป็นผล
เพราะทางสถานีได้พิจารณาจากภาพรวมแล้ว
มีความเห็นว่าไม่สมควรเพิ่มเวลาออกอากาศให้ละครเรื่องบัลลังก์หงส์อีก
บริษัทจึงแจ้งถึงความไม่สมบูรณ์ในตอนสุดท้ายของละครให้ทางสถานีทราบอีกครั้ง ทางสถานีตอบกลับมาว่า ยืนตามข้อสรุปนั้น และขอให้บริษัทสามัญ พิจารณาทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางเลือกเดียวที่บริษัทมี ก็คือยอมให้หยุดออกอากาศทันทีที่หมดเวลาที่ช่องเจ็ดสีอนุญาตให้ออกอากาศ โดยที่บทตอนสุดท้ายของเรื่องยังมิได้มีการถ่ายทำแต่อย่างใด แต่เมื่อทางสถานีพิจารณาแล้วว่าละคร เรื่องนี้ไม่มีผู้ชมให้ความสนใจติดตามชมมากพอ ก็สมควรยอมรับความจริงและหยุดการออกอากาศลงเพียงเท่านั้น เท่าที่สถานีมีเวลาให้
เมื่อถึง ช่วงต้นเดือนตุลาคม ประเทศไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นภาวะเศร้าสลดทั้ง ประเทศ โทรทัศน์ทุกช่องระงับการออกอากาศภาคบันเทิงปกติ เพื่อให้บรรยากาศของประเทศเหมาะสมกับการถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บริษัทสามัญได้ร่วมผลิตละครเทิดพระเกียรติชุดใต้ร่มพระบารมีทางช่องเจ็ดสี...โดยในระหว่างนั้น ได้มีการหารือกับทางสถานีในเรื่องบัลลังก์หงส์อีกครั้ง...โดยบริษัทได้ขอร้องให้ช่องเจ็ดสี พิจารณาการออกอากาศของบัลลังหงส์อีกครั้ง โดยขอเพิ่มจำนวนตอนอีกหนึ่งตอน เพื่อความสมบูรณ์ของละคร หรืออย่างน้อยให้ทางสถานีมีละครที่จบสมบูรณ์เก็บไว้ในสต็อคของช่องเจ็ดสีก็ยังดี...แต่ก็ได้รับคำปฎิเสธจากช่องเจ็ดสี โดยสถานียืนยันมติเดิมว่า สมควรให้ออกอากาศวันที่26 ธันวาคม เป็นวันสุดท้าย
บริษัทสามัญได้พยายามที่สุดแล้ว ที่จะทำให้ละครบัลลังก์หงส์เกิดความสมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มิอาจโต้แย้ง การพิจารณาของช่องเจ็ดสีได้
บริษัทจึงแจ้งถึงความไม่สมบูรณ์ในตอนสุดท้ายของละครให้ทางสถานีทราบอีกครั้ง ทางสถานีตอบกลับมาว่า ยืนตามข้อสรุปนั้น และขอให้บริษัทสามัญ พิจารณาทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางเลือกเดียวที่บริษัทมี ก็คือยอมให้หยุดออกอากาศทันทีที่หมดเวลาที่ช่องเจ็ดสีอนุญาตให้ออกอากาศ โดยที่บทตอนสุดท้ายของเรื่องยังมิได้มีการถ่ายทำแต่อย่างใด แต่เมื่อทางสถานีพิจารณาแล้วว่าละคร เรื่องนี้ไม่มีผู้ชมให้ความสนใจติดตามชมมากพอ ก็สมควรยอมรับความจริงและหยุดการออกอากาศลงเพียงเท่านั้น เท่าที่สถานีมีเวลาให้
เมื่อถึง ช่วงต้นเดือนตุลาคม ประเทศไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นภาวะเศร้าสลดทั้ง ประเทศ โทรทัศน์ทุกช่องระงับการออกอากาศภาคบันเทิงปกติ เพื่อให้บรรยากาศของประเทศเหมาะสมกับการถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บริษัทสามัญได้ร่วมผลิตละครเทิดพระเกียรติชุดใต้ร่มพระบารมีทางช่องเจ็ดสี...โดยในระหว่างนั้น ได้มีการหารือกับทางสถานีในเรื่องบัลลังก์หงส์อีกครั้ง...โดยบริษัทได้ขอร้องให้ช่องเจ็ดสี พิจารณาการออกอากาศของบัลลังหงส์อีกครั้ง โดยขอเพิ่มจำนวนตอนอีกหนึ่งตอน เพื่อความสมบูรณ์ของละคร หรืออย่างน้อยให้ทางสถานีมีละครที่จบสมบูรณ์เก็บไว้ในสต็อคของช่องเจ็ดสีก็ยังดี...แต่ก็ได้รับคำปฎิเสธจากช่องเจ็ดสี โดยสถานียืนยันมติเดิมว่า สมควรให้ออกอากาศวันที่26 ธันวาคม เป็นวันสุดท้าย
บริษัทสามัญได้พยายามที่สุดแล้ว ที่จะทำให้ละครบัลลังก์หงส์เกิดความสมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มิอาจโต้แย้ง การพิจารณาของช่องเจ็ดสีได้
กระทั่ง ถึงต้นเดือนธันวาคม เมื่อบริษัทส่งเนื้อละครตอนสุดท้ายที่มีให้ช่องเจ็ดสีได้ดู ทางสถานีจึงมีคำสั่ง ให้ใส่ตัวหนังสือคำว่าจบบริบูรณ์ลงไปตอนท้ายละครด้วย บริษัทได้แจ้งว่า เนื่องจากละครไม่จบบริบูรณ์จริง จึงไม่อาจเขียนคำว่าจบบริบูรณ์ลงไปได้ แต่ทางสถานีก็ยืนยันที่จะให้มีข้อความดังกล่าว และขอให้ บริษัท หาวิธีเล่าเรื่องสรุปจบลงไปพร้อมกับคำว่าจบบริบูรณ์ให้ได้
นั่นจึงเป็นที่มาของภาพสุดท้ายในละครบัลลังก์หงส์ ที่ออกอากาศในวันที่26 ธันวาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่าน มา
ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น...บริษัทสามัญขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกท่าน และ นักแสดงทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันมาจนถึงวันนี้...รวมถึงผู้ชมที่กรุณาติดตามละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ละครเรื่องนี้จบ อย่างไม่สมบูรณ์...และไม่ใช่การจบบริบูรณ์แต่อย่างใด...ความรู้สึกของผู้ที่ได้ชมและไม่ได้ชมละครเรื่องนี้ ย่อมมีแตกต่างกันไป บริษัทสามัญไม่อาจขอร้องให้ผู้ใด เข้าใจได้มากกว่าที่ท่านนั้นๆจะเข้าใจ สิ่งเดียวที่ทำได้ คือบอกเล่าความเป็นจริงอย่างบริสุทธิ์ใจในคำชี้แจงนี้ และไม่มีเจตนาจะกล่าวโทษฝ่ายใด...เพราะ ในการผลิตละครโทรทัศน์นั้น ผู้จัดและสถานีถือเป็นผู้ผลิตร่วมกัน ความผิดพลาดใดๆที่เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่ง ที่ต้องยอมรับร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขร่วมกันในอนาคต
ขอขอบพระคุณด้วยจิตบริสุทธิ์
บริษัท สามัญการละคร
27 ธันวาคม พ.ศ.2559
CR.สามัญการละคร