สืบเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์วัดธรรมกายและลูกศิษย์ฆราวาส
ในการปลุกระดมทั้งทางตรงผ่านการแถลงต่อสื่อมวลชนและการใช้สื่อโซเชียลบิดเบือนการทำหน้าที่ของผู้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอาญาในการเข้าค้นภายในวัดธรรมกาย
เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา
สืบเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์วัดธรรมกายและลูกศิษย์ฆราวาส ในการปลุกระดมทั้งทางตรงผ่านการแถลงต่อสื่อมวลชนและการใช้สื่อโซเชียลบิดเบือนการทำหน้าที่ของผู้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอาญาในการเข้าค้นภายในวัดธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา
"# ช่วยกันแชร์เพื่อบอกต่อให้รับรู้ทั่วกันทั้งประเทศและเพื่อเป็นข้อมูลเตือนสติสังคมไทย ที่มักใจอ่อนและอารมณ์อ่อนไหว เมื่อเสพข่าว. จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณประกอบข้อมูลที่ถูกต้อง กรณีนายกลุงตู่ใช้มาตรา 44 และหมายศาลระดมกำลังตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ เพื่อขอค้นหาตัวผู้ต้องหาคนสำคัญ พระธรรมชโย ที่วัดธรรมกายเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความถูกผิดในเวลานี้นั้น
แต่ที่สังคมต้องมีสติ ตระหนักชัดเจนว่า คดีนี้คือการนำตัวคนที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหลายหมื่นล้านบาท ในคดีที่เกี่ยวโยงเป็นเครือข่ายกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น และอดีตประธานสหดรณ์มงคลเศรษฐีของวัดธรรมกายและนายวัฒนาอดีตพระลูกวัดธรรมกาย นอมินีใครบางคนที่ไม่เคยมีทรัพย์สมบัติของตระกูลและครอบครัวเลยแต่บวชมา20ปีจู่ๆโผล่มารวยเป็นหมื่นล้าน คดีเหล่านี้ต่างหากที่เห็นความโยงใยของการฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์สินเงินทองของประชาชนผู้บริสุทธิ์จากการฝากเงินสหกรณ์ต่างๆและประชาชนบางส่วนที่หลงผิดบริจาคทรัพย์ผ่านขบวนการขายตรงบุญไปเป็นทรัพย์สินมหาศาลของนอมินีใครบางคน
ผมจึงขอนำบางส่วนของข่าวหลายสำนักมาทบทวนดูและย้อนให้ทุกท่านอ่านและช่วยกันแชร์เพื่อให้ข้อมูลข่าว บางส่วนนี้ถึงคนไทยทั้งประเทศ ในยามที่เรากำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์กัน การทุจริตหลอกลวงคดโกงฉ้อโกง ก็เป็นเรื่องที่ต้องสะสางจัดการให้ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนบรรดาท่านๆที่หลงผิดตามมืดมัวด้วยสำคัญผิดในข้อมูลหรือเข้าใจผิดเพราะถูกหลอกลวงถูกสอนให้เชื่อผิดๆแบบหน้ามืดตามัวมาตลอด อ่านเพียงเเค่เสี้ยวเดียวของข่าวและข้อมูลที่ผมประมวลมาเล็กน้อย แค่นี้ก็น่าจะตาสว่างกันได้แล้วครับ ที่เหลือท่านหาอ่านได้เองจากทุกสำนักข่าวครับ !!! "
สืบเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์วัดธรรมกายและลูกศิษย์ฆราวาส ในการปลุกระดมทั้งทางตรงผ่านการแถลงต่อสื่อมวลชนและการใช้สื่อโซเชียลบิดเบือนการทำหน้าที่ของผู้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอาญาในการเข้าค้นภายในวัดธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา
"# ช่วยกันแชร์เพื่อบอกต่อให้รับรู้ทั่วกันทั้งประเทศและเพื่อเป็นข้อมูลเตือนสติสังคมไทย ที่มักใจอ่อนและอารมณ์อ่อนไหว เมื่อเสพข่าว. จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณประกอบข้อมูลที่ถูกต้อง กรณีนายกลุงตู่ใช้มาตรา 44 และหมายศาลระดมกำลังตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ เพื่อขอค้นหาตัวผู้ต้องหาคนสำคัญ พระธรรมชโย ที่วัดธรรมกายเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความถูกผิดในเวลานี้นั้น
แต่ที่สังคมต้องมีสติ ตระหนักชัดเจนว่า คดีนี้คือการนำตัวคนที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหลายหมื่นล้านบาท ในคดีที่เกี่ยวโยงเป็นเครือข่ายกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น และอดีตประธานสหดรณ์มงคลเศรษฐีของวัดธรรมกายและนายวัฒนาอดีตพระลูกวัดธรรมกาย นอมินีใครบางคนที่ไม่เคยมีทรัพย์สมบัติของตระกูลและครอบครัวเลยแต่บวชมา20ปีจู่ๆโผล่มารวยเป็นหมื่นล้าน คดีเหล่านี้ต่างหากที่เห็นความโยงใยของการฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์สินเงินทองของประชาชนผู้บริสุทธิ์จากการฝากเงินสหกรณ์ต่างๆและประชาชนบางส่วนที่หลงผิดบริจาคทรัพย์ผ่านขบวนการขายตรงบุญไปเป็นทรัพย์สินมหาศาลของนอมินีใครบางคน
ผมจึงขอนำบางส่วนของข่าวหลายสำนักมาทบทวนดูและย้อนให้ทุกท่านอ่านและช่วยกันแชร์เพื่อให้ข้อมูลข่าว บางส่วนนี้ถึงคนไทยทั้งประเทศ ในยามที่เรากำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์กัน การทุจริตหลอกลวงคดโกงฉ้อโกง ก็เป็นเรื่องที่ต้องสะสางจัดการให้ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนบรรดาท่านๆที่หลงผิดตามมืดมัวด้วยสำคัญผิดในข้อมูลหรือเข้าใจผิดเพราะถูกหลอกลวงถูกสอนให้เชื่อผิดๆแบบหน้ามืดตามัวมาตลอด อ่านเพียงเเค่เสี้ยวเดียวของข่าวและข้อมูลที่ผมประมวลมาเล็กน้อย แค่นี้ก็น่าจะตาสว่างกันได้แล้วครับ ที่เหลือท่านหาอ่านได้เองจากทุกสำนักข่าวครับ !!! "