ระบบภายในรถยนต์ มีความสำคัญที่เราควรดูแลอย่างใกล้ชิดมากคือ แอร์รถ
และมีสิ่งที่ห้ามทำกับแอร์รถเลย
ที่หลายคนยังคิดไม่ถึงว่ามันส่งผลเสียต่อรถเราหนักมาก และกลิ่มตามมา
อาจจะทำให้รถของคุณเกิดผลเสียอื่นๆ
ต่างมาหรือทำให้ระบบแอร์ในรถของคุณไม่เย็น อาจจะทำให้หลายคนหงุดหงิดได้
ไปดู 5 สิ่งที่คุณยังเผลอทำอยู่กันเถอะค่ะ
1. นำการบูรมาใส่ไว้ในรถ หลายๆ คนใส่ หรือแขวนการบูรไว้ในรถ เพื่อให้ภายในรถมีกลิ่นหอม มีความสดชื่น ซึ่งในความจริงแล้วมันก็มีความหอม ความสดชื่นอยู่จริงๆ แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า การบูรมีการระเหย-ระเหิดตลอดเวลา และเพราะแบบนี้มันจึงส่งผลให้ แผงคอยล์เย็นคอยสะสมไอจากการบูรตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อรวมเข้ากับสิ่งสกปรก ฝุ่น และความชื้น ก็จะทำให้ระบบแอร์เกิดการอุดตันเร็วขึ้น
2. ปรับแต่ระดับความแรงของพัดลม ไม่เคยปรับระดับน้ำยาแอร์ จริงๆ แล้วการปรับระดับความเย็นน้อย หรือมาก ทางที่ดีควรปรับน้ำยาแอร์ให้สัมพันธ์กันด้วย เช่น หากคุณเพิ่งขึ้นรถมาแล้วอากาศร้อนมากๆ จะปรับพัดลมเบอร์แรงสุดไปเลยก็ได้ แต่ก็อย่าลืมปรับน้ำยาแอร์ให้เหมาะสมด้วย และเมื่อความเย็นได้ที่แล้ว จึงค่อยปรับความเย็นลดลงมาเป็นปกติ และก็อย่าลืมปรับลดน้ำยาแอร์ลงมาให้พอดีด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นหากปรับลดไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดความชื้นขึ้นในระบบ ทำให้แอร์พังไวกว่าปกติ
3. ไม่เปิดแอร์ก่อนสตาร์ท-ไม่ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ แม้จะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับระบบแอร์โดยตรง แต่การกระทำแบบนี้ ส่งผลต่อไดชาร์จรถยนต์อย่างมาก เนื่องจากกระแสไฟจะกระชากอย่างรุนแรง ทำให้ไดชาร์จเสื่อม หรือชำรุดเร็วขึ้น เก็บไฟไม่อยู่ สุดท้ายไดชาร์จพัง กลับบ้านเก่าก่อนเวลาอันควร
4. ปิดหน้ากากแอร์ ในส่วนของข้อนี้ อาจเป็นเพราะปรับระดับแอร์จนเย็นเกินไป ทำให้การปิดหน้ากาก หรือช่องแอร์เป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วคุณควรที่จะปรับลดระดับพัดลม และปรับลดระดับน้ำยาแอร์มากกว่า เพื่อที่ระบบแอร์จะได้ไม่เกิดความชื้นสะสม
5. เปิดช่องรับอากาศจากภายนอกเข้ามาภายในห้องโดยสาร การกระทำแบบนี้ เหมือนกับเป็นการปล่อยให้สิ่งสกปรก มลพิษ และฝุ่นละอองที่อยู่ภายนอกเข้ามาสะสมภายในรถ และเมื่อเวลาเปิดแอร์ ก็จะทำให้สิ่งเหล่านี้ฟุ้งกระจายอยู่ภายใน และถูกดูดเข้าไปในระบบ ทำให้แผงแอร์สกปรก นอกจากนี้มันยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย
ถ้ารู้แล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรมนั้นซะ ถ้ายังทำอยู่รถคุณก็จะแย่อยู่ สุดท้ายนี้อัพยิ้มฝากเพื่อๆแชร์ต่อๆให้กับคนที่ยังไม่รู้ได้เข้าใจกันด้วยจ้า
1. นำการบูรมาใส่ไว้ในรถ หลายๆ คนใส่ หรือแขวนการบูรไว้ในรถ เพื่อให้ภายในรถมีกลิ่นหอม มีความสดชื่น ซึ่งในความจริงแล้วมันก็มีความหอม ความสดชื่นอยู่จริงๆ แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า การบูรมีการระเหย-ระเหิดตลอดเวลา และเพราะแบบนี้มันจึงส่งผลให้ แผงคอยล์เย็นคอยสะสมไอจากการบูรตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อรวมเข้ากับสิ่งสกปรก ฝุ่น และความชื้น ก็จะทำให้ระบบแอร์เกิดการอุดตันเร็วขึ้น
2. ปรับแต่ระดับความแรงของพัดลม ไม่เคยปรับระดับน้ำยาแอร์ จริงๆ แล้วการปรับระดับความเย็นน้อย หรือมาก ทางที่ดีควรปรับน้ำยาแอร์ให้สัมพันธ์กันด้วย เช่น หากคุณเพิ่งขึ้นรถมาแล้วอากาศร้อนมากๆ จะปรับพัดลมเบอร์แรงสุดไปเลยก็ได้ แต่ก็อย่าลืมปรับน้ำยาแอร์ให้เหมาะสมด้วย และเมื่อความเย็นได้ที่แล้ว จึงค่อยปรับความเย็นลดลงมาเป็นปกติ และก็อย่าลืมปรับลดน้ำยาแอร์ลงมาให้พอดีด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นหากปรับลดไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดความชื้นขึ้นในระบบ ทำให้แอร์พังไวกว่าปกติ
3. ไม่เปิดแอร์ก่อนสตาร์ท-ไม่ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ แม้จะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับระบบแอร์โดยตรง แต่การกระทำแบบนี้ ส่งผลต่อไดชาร์จรถยนต์อย่างมาก เนื่องจากกระแสไฟจะกระชากอย่างรุนแรง ทำให้ไดชาร์จเสื่อม หรือชำรุดเร็วขึ้น เก็บไฟไม่อยู่ สุดท้ายไดชาร์จพัง กลับบ้านเก่าก่อนเวลาอันควร
4. ปิดหน้ากากแอร์ ในส่วนของข้อนี้ อาจเป็นเพราะปรับระดับแอร์จนเย็นเกินไป ทำให้การปิดหน้ากาก หรือช่องแอร์เป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วคุณควรที่จะปรับลดระดับพัดลม และปรับลดระดับน้ำยาแอร์มากกว่า เพื่อที่ระบบแอร์จะได้ไม่เกิดความชื้นสะสม
5. เปิดช่องรับอากาศจากภายนอกเข้ามาภายในห้องโดยสาร การกระทำแบบนี้ เหมือนกับเป็นการปล่อยให้สิ่งสกปรก มลพิษ และฝุ่นละอองที่อยู่ภายนอกเข้ามาสะสมภายในรถ และเมื่อเวลาเปิดแอร์ ก็จะทำให้สิ่งเหล่านี้ฟุ้งกระจายอยู่ภายใน และถูกดูดเข้าไปในระบบ ทำให้แผงแอร์สกปรก นอกจากนี้มันยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย
ถ้ารู้แล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรมนั้นซะ ถ้ายังทำอยู่รถคุณก็จะแย่อยู่ สุดท้ายนี้อัพยิ้มฝากเพื่อๆแชร์ต่อๆให้กับคนที่ยังไม่รู้ได้เข้าใจกันด้วยจ้า