วันนี้น้องตะมุตะมิแห่งเพจอัพยิ้มจะพาแฟนคลับทุกคนมาดูดวงกันจ้า
ว่าด้วยเรื่องดวงชะตาของแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
และช่วงนี้ก็มีคำทำนายออกมาแล้วว่า 4ราศีต่อไปนี้ ดวงจะดีขึ้นมาก
หลังผ่านสิ้นปีนี้ หลังที่ดวงตกมานานนับปีเอาเป็นว่าเราไปดูกันดีกว่า
(ราศีเมษ 13 เม.ย.-13พ.ค.) (ราศีพฤษภ 14พ.ค.-13มิ.ย.) (ราศีเมถุน
14มิ.ย.-14ก.ค.) (ราศีพิจิก 16พ.ย.-15ธ.ค.) ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
สำหรับคนที่เกิดในราศีนี้ อย่าลืมหมั่นเข้าวัดทำบุญเสริมบารมีกันด้วยนะคะ…
ความเชื่อ…
1. โชคชะตา กับ พรหมลิขิต เป็นคนละเรื่องกัน ขอตอบเพียงเรื่องโชคชะตา ซึ่งจะจำกัดความลงเพียง ดวงชะตาของบุคคล ตามทัศนะของผู้ตอบ ดวงชะตานั้นคือแผนที่ของกรรม วันเดือนปีเวลาเกิดเป็นปัจจัยในการหาแผนที่ดังกล่าว เมื่อหาพบก็สามารถจะพยากรณ์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ได้ (ซึ่งขออธิบายให้ละเอียดว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต นั้นนับจากเกิดจนถึงหมดอายุขัย มิได้หมายถึงภพชาติอื่นๆนะครับ)
2. คำทำนายอนาคตนั้นหากทำนายถูกต้อง จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะกระทำอย่างไรก็ตาม เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงได้ คำทำนายนั้นก็ผิด เพราะทำนายไว้วว่าจะเป็นอย่างหนึ่ง แล้วเจ้าชะตาไปทำอะไรก็ตาม ทำให้ผลไม่เป็นไปตามคำพยากรณ์นั้น มันไม่มีทางแปลไปได้อย่างอื่นนอกจาก พยากรณ์ผิดเท่านั้นเอง
3. เปลี่ยนนิสัยได้ หรือไม่ได้ ดวงชะตานั้นบอกได้ ในโลกนี้คนที่เปลี่ยนนิสัยได้มีมากมาย และที่เปลี่ยนไม่ได้เลยก็มีมากมาย เราไม่สามารถใช้ตรรกะมาคาดเดาได้ว่า เปลี่ยนนิสัยแล้ว คำพยากรณ์ดวงชะตาหรือคำทำนายลายมือจะเปลี่ยนได้หรือไม่ มันเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้
โหราศาสตร์นั้นไม่มีคำตอบที่สอง มีเพียงคำตอบเดียว เมื่อพยากรณ์ไปแล้วก็มีแต่ถูกกับผิด และเมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้วก็ไม่มีใครสามารถย้อนอดีตกลับมาลองได้อีกครั้ง ขอยกตัวอย่างเป็นเรืองที่เล่ากันมาในวงการโหราศาสตร์ว่า
บิดามารดาได้รับคำพยากรณ์ว่า ลูกของตนนั้นจะจมน้ำตาย ทั้งคู่จึงไม่ยอมให้ลูกเข้าใกล้น้ำโดยเด็ดขาด วันหนึ่งงานค้าขายที่บ้านยุ่งมาก ทั้งสองจึงขังลูกไว้ในห้อง พอเสร็จการงาน ก็รีบกลับมาดูลูกที่อยู่ในห้อง ปรากฏว่าลูกนั้นเอาหน้าจิ้มลงไปในชามข้าวต้มซึ่งเป็นชามอาหารที่เตรียมไว้ให้รับประทาน จมน้ำข้าวต้มเสียชีวิต
เรื่องนี้จะจริงเท็จประการใดก็ไม่ทราบ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า หากในวันนั้น บิดามารดาไม่ขังลูกไว้ในห้องพร้อมชามข้าวต้ม ลูกจะเสียชีวิตหรือไม่ มันไม่มีคำตอบที่สอง เพราะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปลองใหม่ได้อีกครั้ง
การทดสอบความถูกต้องในวิชาโหราศาสตร์ จึงต้องทดสอบว่าพยากรณ์ถูกหรือไม่ โดยไม่มีข้อแม้ จะมามีข้ออ้างว่า ที่พยากรณ์ไปว่าจะเกิดเหตุร้าย แล้วไม่เกิด เป็นเพราะผู้พยากรณ์ได้แนะนำให้เจ้าชะตาไปสะเดาะเคราะห์ เปลี่ยนนิสัย หรือกระทำการใดๆ เพื่อแก้ไขดวงชะตา นั้นไม่ได้ เพราะสิ่งที่จริงแท้แน่นอน หากพยากรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายแล้วไม่เกิด นั่นคือพยากรณ์ผิด
ความเชื่อเรื่องโชคชะตาและการทำนายดวงชะตาของคนไทย
จากผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ (2550 อ้างถึงใน ข่าวสด, 2550) ในเรื่องหมอดูกับอนาคตประเทศไทยในสายตาประชาชน ศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนทั้งสิ้น 1,456 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2550 พบว่า ร้อยละ 53.8 เคยหาหมอดู อ่านคำทำนาย หรือตรวจดวงชะตาของตนเองในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 46.2 ไม่เคย
ทั้งนี้อาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง อย่างมงายจนเกินไปฟังเพื่อเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวันนะคะ… โปรดใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทก็พอเเล้ว
ไปทำบุญ
มี4ราศี
ความเชื่อ…
1. โชคชะตา กับ พรหมลิขิต เป็นคนละเรื่องกัน ขอตอบเพียงเรื่องโชคชะตา ซึ่งจะจำกัดความลงเพียง ดวงชะตาของบุคคล ตามทัศนะของผู้ตอบ ดวงชะตานั้นคือแผนที่ของกรรม วันเดือนปีเวลาเกิดเป็นปัจจัยในการหาแผนที่ดังกล่าว เมื่อหาพบก็สามารถจะพยากรณ์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ได้ (ซึ่งขออธิบายให้ละเอียดว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต นั้นนับจากเกิดจนถึงหมดอายุขัย มิได้หมายถึงภพชาติอื่นๆนะครับ)
2. คำทำนายอนาคตนั้นหากทำนายถูกต้อง จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะกระทำอย่างไรก็ตาม เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงได้ คำทำนายนั้นก็ผิด เพราะทำนายไว้วว่าจะเป็นอย่างหนึ่ง แล้วเจ้าชะตาไปทำอะไรก็ตาม ทำให้ผลไม่เป็นไปตามคำพยากรณ์นั้น มันไม่มีทางแปลไปได้อย่างอื่นนอกจาก พยากรณ์ผิดเท่านั้นเอง
3. เปลี่ยนนิสัยได้ หรือไม่ได้ ดวงชะตานั้นบอกได้ ในโลกนี้คนที่เปลี่ยนนิสัยได้มีมากมาย และที่เปลี่ยนไม่ได้เลยก็มีมากมาย เราไม่สามารถใช้ตรรกะมาคาดเดาได้ว่า เปลี่ยนนิสัยแล้ว คำพยากรณ์ดวงชะตาหรือคำทำนายลายมือจะเปลี่ยนได้หรือไม่ มันเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้
โหราศาสตร์นั้นไม่มีคำตอบที่สอง มีเพียงคำตอบเดียว เมื่อพยากรณ์ไปแล้วก็มีแต่ถูกกับผิด และเมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้วก็ไม่มีใครสามารถย้อนอดีตกลับมาลองได้อีกครั้ง ขอยกตัวอย่างเป็นเรืองที่เล่ากันมาในวงการโหราศาสตร์ว่า
บิดามารดาได้รับคำพยากรณ์ว่า ลูกของตนนั้นจะจมน้ำตาย ทั้งคู่จึงไม่ยอมให้ลูกเข้าใกล้น้ำโดยเด็ดขาด วันหนึ่งงานค้าขายที่บ้านยุ่งมาก ทั้งสองจึงขังลูกไว้ในห้อง พอเสร็จการงาน ก็รีบกลับมาดูลูกที่อยู่ในห้อง ปรากฏว่าลูกนั้นเอาหน้าจิ้มลงไปในชามข้าวต้มซึ่งเป็นชามอาหารที่เตรียมไว้ให้รับประทาน จมน้ำข้าวต้มเสียชีวิต
เรื่องนี้จะจริงเท็จประการใดก็ไม่ทราบ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า หากในวันนั้น บิดามารดาไม่ขังลูกไว้ในห้องพร้อมชามข้าวต้ม ลูกจะเสียชีวิตหรือไม่ มันไม่มีคำตอบที่สอง เพราะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปลองใหม่ได้อีกครั้ง
การทดสอบความถูกต้องในวิชาโหราศาสตร์ จึงต้องทดสอบว่าพยากรณ์ถูกหรือไม่ โดยไม่มีข้อแม้ จะมามีข้ออ้างว่า ที่พยากรณ์ไปว่าจะเกิดเหตุร้าย แล้วไม่เกิด เป็นเพราะผู้พยากรณ์ได้แนะนำให้เจ้าชะตาไปสะเดาะเคราะห์ เปลี่ยนนิสัย หรือกระทำการใดๆ เพื่อแก้ไขดวงชะตา นั้นไม่ได้ เพราะสิ่งที่จริงแท้แน่นอน หากพยากรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายแล้วไม่เกิด นั่นคือพยากรณ์ผิด
ความเชื่อเรื่องโชคชะตาและการทำนายดวงชะตาของคนไทย
จากผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ (2550 อ้างถึงใน ข่าวสด, 2550) ในเรื่องหมอดูกับอนาคตประเทศไทยในสายตาประชาชน ศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนทั้งสิ้น 1,456 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2550 พบว่า ร้อยละ 53.8 เคยหาหมอดู อ่านคำทำนาย หรือตรวจดวงชะตาของตนเองในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 46.2 ไม่เคย
สาธุ
ทำบุญ
ทำบุญนะคะ
หาเวลาว่างไปทำบุญนะ
อนุโมทนาสาธุ
ทั้งนี้อาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง อย่างมงายจนเกินไปฟังเพื่อเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวันนะคะ… โปรดใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทก็พอเเล้ว