สวัสดีค่ะชาวโซเชียลทุกท่าน มาพบกับเจ๊โบ(ราณ)แห่งอัพยิ้ม
กับเรื่องราวข่าวสารที่น่าสนใจ และเป็นสื่อกลางในการนำเสนอข้อมูลที่สำคัญๆ
ให้กับชาวโซเชียลได้อัพเดทข่าวสารต่างๆด้วยนะคะ
และสำหรับเรื่องราวที่เจ๊โบ(ราณ) ได้นำมาฝากกันในวันนี้
เป็นข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นค่าแรง
ของพนักงานหรือมนุษย์เงินเดือนด้วยนะคะ
คือทางกระทรวงแรงงานได้มีการประชุมกันถึงเรื่องการเพิ่มค่าแรง ค่าจ้าง
เพื่อพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำภายในวันที่ 15 ม.ค.ที่จะถึงนี้
ภายหลังคณะกรรมการเห็นชอบให้ขึ้นค่าแรงใหม่แล้วจะให้มีผลทันทีในสิ้นเดือน
ม.ค. ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ที่ต้องการปรับเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ
ซึ่งในวันที่ 17 ม.ค.นี้ คณะกรรมการค่าจ้างจะมีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับแรงงานทั่วประเทศอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาในประเด็นสัดส่วนการขึ้นค่าแรง ซึ่งเดิมมีการเสนอตัวเลขต่ำสุดที่ 2 บาท แต่คณะกรรมการเห็นว่าน้อยเกินไป จึงอาจพิจารณาขึ้นค่าแรงต่ำสุดที่ 5 บาท และสูงสุดที่ 12 บาท ซึ่งจังหวัดที่จะได้ค่าแรงสูงสุด 12 บาท คือ จ.ภูเก็ต และพังงา
ทั้งนี้ จะปรับขึ้นเท่าใดนั้นคณะกรรมการไตรภาคีจะนำปัจจัยต่างๆ มาประกอบ เช่น ค่าครองชีพ ความเป็นอยู่ของแรงงาน สถานะของผู้ประกอบการที่ขึ้นแล้วยังมีกำไรและมีศักยภาพในการลงทุน รวมถึงนำสถานการณ์ค่าแรงของประเทศเพื่อนบ้านมาพิจารณาด้วย
ส่วนทางด้าน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยปีที่ผ่านมาอาจจะมีการปรับค่าเป็น 310 บาท ก็เป็นการปรับใน 30 จังหวัดเท่านั้น ดังนั้นจึงจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการไตรภาคีในสัปดาห์หน้า เพื่อมีมติไม่เกิน 15 มกราคม
โดยรอบนี้จะพิจารณาปรับขึ้นทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญต้องการเพิ่มสัดส่วนแรงงานไทยให้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น รวมถึงจะกำหนดอัตราค่าแรงเป็นรายชั่วโมงในลักษณะงานพิเศษที่สามารถจ้างผู้สูงอายุ คนพิการ และพนักงานทั่วไปหลังเลิกงานประจำ มาทำงานรายชั่วโมงได้อีก เปิดโอกาสคนไทยมีช่องทางหารายได้เพิ่ม และอัตราที่บอร์ดค่าจ้างไตรภาคีเคยพิจารณา คือ ปรับขึ้นระหว่าง 2-15 บาท ซึ่งอาจขึ้นมากว่า 15 บาท โดยในครั้งนี้บอร์ดค่าจ้าง จะมาทำอัตราใหม่ เพราะไม่ได้ขึ้นค่าแรง 300 บาท มาตั้งแต่ปี 57 โดยจะปรับขึ้นทีเดียวทั่วประเทศ
ส่วน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่มาก ดังนั้นกรมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมศึกษาผลกระทบว่าการปรับขึ้นค่าแรงจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าอย่างไร หากขึ้นค่าแรง 15 บาท/วัน ถือว่า ไม่มาก หากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาไม่ สมเหตุสมผล มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวและขข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการขึ้นค่าแรง ที่เจ๊โบ(ราณ) แห่งอัพยิ้ม ได้นำมาฝากกัน ก็เป็นเรื่องราวของสิทธิประโยชน์ของแต่ละคนด้วยนะคะ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานด้วยจ้า
แรงงานได้เฮ
พนักงานโรงงาน
ซึ่งในวันที่ 17 ม.ค.นี้ คณะกรรมการค่าจ้างจะมีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับแรงงานทั่วประเทศอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาในประเด็นสัดส่วนการขึ้นค่าแรง ซึ่งเดิมมีการเสนอตัวเลขต่ำสุดที่ 2 บาท แต่คณะกรรมการเห็นว่าน้อยเกินไป จึงอาจพิจารณาขึ้นค่าแรงต่ำสุดที่ 5 บาท และสูงสุดที่ 12 บาท ซึ่งจังหวัดที่จะได้ค่าแรงสูงสุด 12 บาท คือ จ.ภูเก็ต และพังงา
อุตสาหกรรมการตัดเย็บ
ทั้งนี้ จะปรับขึ้นเท่าใดนั้นคณะกรรมการไตรภาคีจะนำปัจจัยต่างๆ มาประกอบ เช่น ค่าครองชีพ ความเป็นอยู่ของแรงงาน สถานะของผู้ประกอบการที่ขึ้นแล้วยังมีกำไรและมีศักยภาพในการลงทุน รวมถึงนำสถานการณ์ค่าแรงของประเทศเพื่อนบ้านมาพิจารณาด้วย
พนักงาน
ส่วนทางด้าน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยปีที่ผ่านมาอาจจะมีการปรับค่าเป็น 310 บาท ก็เป็นการปรับใน 30 จังหวัดเท่านั้น ดังนั้นจึงจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการไตรภาคีในสัปดาห์หน้า เพื่อมีมติไม่เกิน 15 มกราคม
แรงงาน
โดยรอบนี้จะพิจารณาปรับขึ้นทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญต้องการเพิ่มสัดส่วนแรงงานไทยให้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น รวมถึงจะกำหนดอัตราค่าแรงเป็นรายชั่วโมงในลักษณะงานพิเศษที่สามารถจ้างผู้สูงอายุ คนพิการ และพนักงานทั่วไปหลังเลิกงานประจำ มาทำงานรายชั่วโมงได้อีก เปิดโอกาสคนไทยมีช่องทางหารายได้เพิ่ม และอัตราที่บอร์ดค่าจ้างไตรภาคีเคยพิจารณา คือ ปรับขึ้นระหว่าง 2-15 บาท ซึ่งอาจขึ้นมากว่า 15 บาท โดยในครั้งนี้บอร์ดค่าจ้าง จะมาทำอัตราใหม่ เพราะไม่ได้ขึ้นค่าแรง 300 บาท มาตั้งแต่ปี 57 โดยจะปรับขึ้นทีเดียวทั่วประเทศ
ปรับขึ้นระหว่าง 2-15 บาท ซึ่งอาจขึ้นมากว่า 15 บาท
ส่วน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่มาก ดังนั้นกรมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมศึกษาผลกระทบว่าการปรับขึ้นค่าแรงจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าอย่างไร หากขึ้นค่าแรง 15 บาท/วัน ถือว่า ไม่มาก หากมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาไม่ สมเหตุสมผล มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โรงงานอุตสาหกรรม
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวและขข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการขึ้นค่าแรง ที่เจ๊โบ(ราณ) แห่งอัพยิ้ม ได้นำมาฝากกัน ก็เป็นเรื่องราวของสิทธิประโยชน์ของแต่ละคนด้วยนะคะ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานด้วยจ้า