บอกได้เลยว่าหลายคนชื่นชอบพวกเธอเป็นอย่างมาก
สำหรับนางเอกเบอร์ 1 ในอดีต!! จาก 3 ช่องดัง ที่พูดเลยว่าในช่วงกว่า 10
ปีก่อนนั้นพวกเธอโด่งดังเป็นพลุแตกจริงๆ
ไม่เพียงแต่หน้าตาที่สวยเป็นทุนเดิม เรื่องแอคติ้งของทั้ง 3
ท่านนี่ก็บอกเลยว่ากินกันไม่ลง ล่ารางวัลมานอนกอดกันแล้วเพียบ
แต่ละเรื่องที่ได้ชมกันผ่านหน้าจอนั้นบอกเลยว่างานคุณภาพ
เรตติ้งกระจายแทบจะทุกเรื่อง จนมาถึงวันนี้พวกเธอก็ยังคงเป็น "นางเอกในดวงใจ"
เข้าวงการมาตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ สำหรับนางเอกสาว จอย ศิริลักษณ์ จนมาเป็นที่รู้จักจากบทบาท
"เจ้าจ้อย" ในละครเรื่อง "โสมส่องแสง" ทางช่อง 3
และด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาของเธอทำให้ผู้จัดป้อนละครอย่างต่อเนื่องจนมาพีคสุดๆ
ในละครเรื่อง "เสน่ห์นางงิ้ว" ในปี พ.ศ.2542 และในปีเดียวกันกับละครเรื่อง
"สามี" และละครเรื่อง "สาวน้อยคาเฟ่" ในปี พ.ศ.2543 ขึ้นแท่นนางเอกเบอร์ 1
อย่างไม่ต้องสงสัย
กระทั่งสาวจอยได้เฟดตัวเองออกจากวงการบันเทิงชั่วคราวในปี พ.ศ.2550
โดยแจงว่าต้องการไปเรียนต่อ
เจ้าของฉายา "นางเอกตลอดกาล"
เธอคือคุณแม่ลูกสอง กบ สุวนันท์ เริ่มเข้าวงการจากละครพื้นบ้าน
หรือที่เรียกกันติดปากว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ ของวิก 7 แต่ที่มาแจ้งเกิดจริงๆ
เห็นจะเป็นละครหลังข่าวเรื่อง "ผยอง" ในปี พ.ศ.2536
จากนั้นสาวกบก็สามารถขึ้นแท่นเป็นนางเอกเบอร์ 1
ได้อย่างไร้ที่ติด้วยงานละครเรื่อง "ดาวพระศุกร์" ในปี พ.ศ.2537
ทำให้เรื่องต่อๆ มาที่เธอเล่นต่างเป็นที่ติดตามของแฟนๆ มาโดยตลอด
ก่อนที่สาวกบจะตัดสินใจวางมือ โดยแต่งงานมีครอบครัวไปกับทาง บรู๊ค ดนุพร
อดีตเจ้าของตำแหน่ง "เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง" เธอคือ แหม่ม คัทลียา
โด่งดังจากละครเรื่อง "เพื่อเธอ" ปี พ.ศ.2537 จากค่าย เอ็กแซ็กท์
และทำให้มีงานละครออกมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นสาวแหม่มยังมีผลงานโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในช่วงนั้นคืองานพิธีกรรายการ
"สมาคมชมดาว" จนได้รับรางวัลมานอนกอดถึง 3 ปีซ้อน กระทั่งต่อมาในปี
พ.ศ.2548 สาวแหม่มถูกตั้งฉายาให้ใหม่ว่า "เจ้าหญิงเบนโล" เนื่องจากเธอปิดบังเรื่องการตั้งท้องทายาทคนแรกของเธอ ก่อนจะเฟดตัวเองออกจากวงการชั่วคราวเพื่อไปคลอดลูกที่ต่างประเทศ