ตำรวจอินเดียจับตัว
"สาวหล่อ" ฐานหลอกลวงแต่งงานเพื่อเอาสินสอด
หลังเชิดเงินภรรยาเก่าหายไปแต่งงานใหม่ เหลือเชื่อ
ไม่ใครสักคนจับได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิง
มีมิจฉาชีพสาวชาวอินเดียถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว หลังจากที่ถูกจับได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวมาเป็นผู้ชาย ด้วยลักษณะท่าทางที่คล้ายเป็นชายข้ามเพศ เธอก่อเหตุเป็นเจ้าบ่าวและหลอกแต่งงานหวังสินสอดมาถึง 2 ครั้งแล้ว
ตามรายงานระบุว่า นางสาวเซน อายุ 26 ปี ที่ใครๆ ก็เชื่อว่าเธอเป็นเขา ชายหนุ่มหน้ามนที่ชื่อว่า "สวีทตี้" แต่แผนการหลอกลวงของเธอถูกเปิดโปงเพราะว่า ครอบครัวของอดีตภรรยาได้ฟ้องร้องดำเนินคดีทวงคืนค่าสินสอด แต่ปรากฏว่าไร้วี่แววว่าจะได้เงินก้อนนั้นคืน
ข้อมูลการสืบสวนพบว่า นางสาวเซน สวมรอยเป็นผู้ชายและหว่านล้อมจีบหญิงสาวทำให้ตายใจ กระทั่งเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งในปี 2014 และไม่นานนักเธอก็ขอหย่าร้างแยกทางภรรยาคนแรก ก่อนที่ล่าสุดเธอได้แต่งงานกับหญิงสาวอีกคน เมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา
ขณะที่ครอบครัวอดีตภรรยาคนแรกได้ดำเนินการเรียกร้องขอเงินค่าสินสอดและเงินกู้คืนราวๆ 850,000 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 400,000 บาท หลังจากที่แต่งงานแล้วเธอได้หยิบยืมนำไปทำธุรกิจแต่ก็ไม่เคยใช้คืนเลยสักรูปีเดียว
กระทั่งล่าสุด นางสาวเซน ถูกจับกุมได้รัฐอุตตราขัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับผลการตรวจร่างกายยืนยันจากแพทย์ว่า เธอคือผู้หญิงไม่ผู้ชายแบบที่ทุกคนเข้าใจ จากการสอบสวน นางสาวเซน ยอมรับว่า ตลอดทั้งชีวิตเธอต้องการเป็นผู้ชาย จึงใช้ชีวิตแบบผู้ชายแทบจะทุกอย่าง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอเริ่มมีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ขณะที่เจ้าสาวทั้ง 2 คนที่เคยเข้าพิธีแต่งงานกับเธอ ไม่มีใครสงสัยแคลงใจแม้แต่น้อย เพราะเชื่อว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ แม้ว่าตลอดระยะเวลาการใช้ชีวิตสมรสนั้น เธอกับภรรยาจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเลยสักครั้งเดียว
มีมิจฉาชีพสาวชาวอินเดียถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว หลังจากที่ถูกจับได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวมาเป็นผู้ชาย ด้วยลักษณะท่าทางที่คล้ายเป็นชายข้ามเพศ เธอก่อเหตุเป็นเจ้าบ่าวและหลอกแต่งงานหวังสินสอดมาถึง 2 ครั้งแล้ว
ตามรายงานระบุว่า นางสาวเซน อายุ 26 ปี ที่ใครๆ ก็เชื่อว่าเธอเป็นเขา ชายหนุ่มหน้ามนที่ชื่อว่า "สวีทตี้" แต่แผนการหลอกลวงของเธอถูกเปิดโปงเพราะว่า ครอบครัวของอดีตภรรยาได้ฟ้องร้องดำเนินคดีทวงคืนค่าสินสอด แต่ปรากฏว่าไร้วี่แววว่าจะได้เงินก้อนนั้นคืน
ข้อมูลการสืบสวนพบว่า นางสาวเซน สวมรอยเป็นผู้ชายและหว่านล้อมจีบหญิงสาวทำให้ตายใจ กระทั่งเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งในปี 2014 และไม่นานนักเธอก็ขอหย่าร้างแยกทางภรรยาคนแรก ก่อนที่ล่าสุดเธอได้แต่งงานกับหญิงสาวอีกคน เมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา
ขณะที่ครอบครัวอดีตภรรยาคนแรกได้ดำเนินการเรียกร้องขอเงินค่าสินสอดและเงินกู้คืนราวๆ 850,000 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 400,000 บาท หลังจากที่แต่งงานแล้วเธอได้หยิบยืมนำไปทำธุรกิจแต่ก็ไม่เคยใช้คืนเลยสักรูปีเดียว
กระทั่งล่าสุด นางสาวเซน ถูกจับกุมได้รัฐอุตตราขัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับผลการตรวจร่างกายยืนยันจากแพทย์ว่า เธอคือผู้หญิงไม่ผู้ชายแบบที่ทุกคนเข้าใจ จากการสอบสวน นางสาวเซน ยอมรับว่า ตลอดทั้งชีวิตเธอต้องการเป็นผู้ชาย จึงใช้ชีวิตแบบผู้ชายแทบจะทุกอย่าง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอเริ่มมีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ขณะที่เจ้าสาวทั้ง 2 คนที่เคยเข้าพิธีแต่งงานกับเธอ ไม่มีใครสงสัยแคลงใจแม้แต่น้อย เพราะเชื่อว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ แม้ว่าตลอดระยะเวลาการใช้ชีวิตสมรสนั้น เธอกับภรรยาจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันเลยสักครั้งเดียว