เผยวิธีรักษาแผล “น้ำมันลวก” เป็นแผลพุพองจากของใช้ใกล้ตัว
คงไม่มีใครอยากให้ตัวเองเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองและคนใกล้ตัวใช่มั้ยค่ะ
แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที
และอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นในห้องครัว เช่น น้ำมันกระเด็น น้ำมันลวก
หรือโดนน้ำร้อนๆ และวันนี้เรามีวิธีมาแนะนำ 5
วิธีการปฐมพยาบาลและวิธีการรักษาแผลพุพอง เพื่อลดอาการแสบร้อนและรอยแผล
อย่ารอช้ากันเลย ไปดูพร้อมๆกันเลย
1.ล้างแผลกับน้ำเย็น เมื่อโดนน้ำมันลวกให้รีบล้างแผลด้วยน้ำเย็น
(ที่ไม่ใส่น้ำแข็ง) ภายใน 5 นาที
น้ำเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวและช่วยป้องกันอาการผิวหนังพุพองได้
2. แช่แผลกับนมสดเย็น กับแผลน้ำมันลวกที่แสบร้อนมากๆ
อาจใช้นมสดเย็นบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวก็ได้ โดยแช่แผลกับนมสดเย็นประมาณ
15 นาที หรือจนกว่าอาการจะทุเลาลง นมนั้นมีโปรตีนและไขมันสูง
ซึ่งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้โดยทันที
จึงลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ในระดับหนึ่ง
3. โยเกิร์ตก็ช่วยได้ ไม่ได้มีดีแค่พอกหน้าให้สวยเท่านั้น
เพราะโยเกิร์ตแช่เย็นสามารถนำมาพอกผิวลดความแสบร้อนจากการโดนน้ำมันลวกแขนหรือมือได้
เนื่องจากโยเกิร์ตก็มีโปรตีนและแร่ธาตุหลากชนิด
ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันทีไม่ต่างจากนมสดเลย
ดังนั้นหลังจากล้างแผลกับน้ำเย็นจนสะอาดแล้ว จัดการโบกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
(แช่เย็นยิ่งดี) ลงไปบนแผลได้เลย
4. พอกว่านหางจระเข้ ให้ใช้ว่านหางจระเข้
สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิว และรักษาแผลน้ำมันลวก
น้ำร้อนลวก แผลพุพองจากไฟไหม้
โดยเริ่มแรกให้ล้างแผลน้ำมันลวกกับน้ำเย็นจนสะอาด
จากนั้นนำวุ้นสดจากใบว่านหางจระเข้ไปล้าง ก่อนนำมาพอกแผลที่ถูกน้ำมันลวก
ประคบแผลในช่วง 2 วันแรก อาการแสบร้อนเพราะน้ำมันลวกจะบรรเทาลง
และแผลจะสมานกันเร็วขึ้น ที่สำคัญแผลอาจไม่ทิ้งรอยแผลเป็นอีกด้วย
แต่หากหาว่านหางจระเข้สด ๆ ไม่ได้ อาจใช้เจลว่านหางจระเข้แทนก็ได้เช่นกัน
5. ลดอาการแสบร้อนด้วยถุงชาดำ นำถุงชาไปแช่น้ำเย็นสักพัก
จากนั้นนำถุงชามาวางโปะลงไปบนแผลที่ถูกน้ำมันลวก
สารแทนนินจากชาดำจะช่วยลดความร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้
เมื่อประคบถุงชาสักพักแล้วจึงจะรู้สึกได้ว่าอาการแสบร้อนทุเลาลง
แต่ก่อนจะใช้สูตรนี้ แนะนำให้ล้างแผลกับน้ำเย็นทันทีที่โดนน้ำมันลวกก่อน