ถนอมสุขภาพ โดย ”ไม่กินข้าวมื้อเย็น” เรื่องดีมากๆที่อยากบอกต่อ

ถ้าพูดถึงการอยากมีสุขภาพและหุ่นที่ดีแล้ว สาวๆหลายๆคนอาจจะอยากเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆ ขอบอกเลยว่าไม่ยากจ้า เพราะเราสามารถทำได้ด้วยการงดมื้อเย็น โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันและแป้งสูง บางคนบอกว่า “งดมื้อเย็นไม่ได้” เพราะอาหารมื้อเย็นมีประโยชน์มากมาย แต่คุณลองคิดดูนะว่า หากเรากินอาหารมื้อเย็นมากๆ แล้วนอนหลับสารอาหารเหล่านี้จะย่อยยาก ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่ เป็นสาเหตุการเกิดไขมันต่างๆ ที่อาจค้างอยู่ในหลอดเลือด และถ้าค้างสะสมมากเท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ไม่เต็มที่ กระทั่งอวัยวะภายในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็วขึ้นนั่นเอง

หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่เราไม่ทานข้าวเย็นนั้นมัน มันคือเรื่องดีนะจร๊ะ อั้นเเหนะ งง กันอยู่เเน่มันดียังไงต้องไปดูกันเลย…

ทำอย่างไรจึงจะ “ไม่แก่ ไม่อ้วนและอายุยืน”

คำตอบคือ. “กินสายกลาง ”

กินสายกลาง คือ กินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง งดมื้อเย็น

เปรียบตัวเราเป็นรถยนต์ ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมันก่อน หรือกินมื้อเช้า

รถจึงจะวิ่งได้ ถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่หมด เติมอีกครั้ง

ถึงเย็นก่อนนอนก็ยังไม่หมดพิสูจน์ได้ดังนี้

สมมุติกินไข่ลวก 1 ฟองโตๆ มีไข่แดงหนัก 50 กรัม

ในไข่แดงมีคลอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่

ฉะนั้น 50 กรัม ให้พลังงาน 450 แคลอรี่

จะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานนี้

โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก . ก .

ความเร็วที่ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที

ขี่อยู่นาน 60 นาที จะเหนื่อยหอบ

เหงื่อไหลท่วมตัว แต่ใช้พลังงานไปเพียง 300 แคลอรี่

ไข่ใบเดียวยังใช้ไม่หมด!!

ฉะนั้น…

ถ้า กินมื้อเช้า มื้อเที่ยง จนถึงเย็น พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปเติมอีก

เพราะเวลานอนร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ

โดยตับเป็นผู้ทำงานนี้ ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆก็มาก

ทำให้อ้วน และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ

จะต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด ถ้าค้างสะสมมากเท่าใด

รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง

อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็วขึ้น

ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก

ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต

ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง

ถ้าตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร

การกินมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อมของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย

ร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการเผาผลาญอาหาร

ยิ่งกินมื้อเย็นในปริมาณที่เยอะ ก็ยิ่งเร่งการเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก

“มื้อเย็น” จึงเป็นมื้ออันตราย เป็นมื้อตายผ่อนส่ง

ฉะนั้น จึงหมายความว่าการกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก ตายเร็ว

ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า อายุยืนการไม่กินอาหารมื้อเย็น

เป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก

ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี

ความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

แต่ท่าน ต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชิน

วิธีฝึกมี 4 วิธี

1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ทีละน้อยๆเช่นลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ 1 1/2 จาน สัก 3-4 เดือน โดยมีข้อแม้ว่า หลังอาหารเย็นแล้วห้ามกินอาหารใดๆทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า พอกระเพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหารเย็น

2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นจาก 2 ทุ่มมากิน 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ

3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะใส่ในถ้วยน้ำแกงหรือน้ำเปล่าคนแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตามอีก 4-5 แก้ว

4. กินมังสะวิรัตมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ ร่างกายจะได้พักไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์ พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัดหมดไปเองได้ ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อเช้า มื้อเที่ยงได้ทัน ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็นจึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้าและเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน