สำหรับคอ
"กาแฟ"แลล้วการดื่มกาแฟนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิถีพิถันและต้องคัดสรรกันอย่างดีในทุกขึ้นตอน
ไม่ต่างไปจากเรื่องอื่นกันเลยทีเดียว เพราะการกิน "กาแฟ"ที่ดีนั้น
ย่อมส่งผลให้อารมณ์เรานัั้นดีไปด้วย สำหรับคนที่หลงรักในกลิ่นอายของ "กาแฟ"
มักจะเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับคนที่พึ่งมาทานกาแฟนั้นหรือคนที่ไม่ใช่คอกาแฟจริงๆ
ถ้าคุณได้ลิ้มลองกาแฟที่อร่อยและยิ่งดีต่อสุขภาพด้วยแล้วละก็ชีวิตก็คงดีไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมละ
และวันนี้ก็ก็มีวิธีที่ทำให้ "กาแฟ" นั้นอร่อยกัน ตามไปดูกันเลย!!!
ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนดื่มกาแฟ
มีงานวิจัยระบุว่า
แม้ว่าคาเฟอีนจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายเกิดการขับปัสสาวะ
แต่ร่างกายของเราก็สามารถปรับตัวให้สามารถรับมือกับคาเฟอีนที่เข้าไปในร่างกาย
โดยไม่ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำได้ อย่างไรก็ตามคอกาแฟหลายคนยอมรับว่า
หากเริ่มต้นตื่นเช้ามาก็ดื่มกาแฟเลย จะพบว่าตลอดทั้งวันที่เหลือ
พวกเขาจะดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พูดง่ายๆ
คือติดกาแฟเสียจนลืมดื่มน้ำเปล่านั่นเอง
ดังนั้นถ้าไม่อยากทำร้ายตัวเองด้วยการดื่มน้ำน้อย
ก็ควรดื่มน้ำเปล่าสักหนึ่งแก้วหลังตื่นนอน
ก่อนที่จะเดินไปชงกาแฟดื่มอีกครั้ง
ไม่แน่คุณอาจจะดื่มกาแฟน้อยลงเพราะอิ่มน้ำไปบ้างแล้วก็ได้
อย่าใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ช่วยทำให้กาแฟของคุณมีรสชาติอร่อย
และไม่ทำลายสุขภาพ
เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลไม่มีพลังงานเหมือนน้ำตาลปกติ
แต่มีงานวิจัยที่พบว่า
การดื่มเครื่องดื่มที่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาลบ่อยๆ
อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 โรคอ้วน และโรคหัวใจได้
ดังนั้นหากจะชงกาแฟครั้งหน้า ควรเลือกใส่น้ำตาลจริงในปริมาณน้อยๆ
เพียงปลายช้อน หรือไม่ใส่น้ำตาลจะดีกว่า
อย่าเติมน้ำตาลในกาแฟเกิน 1 ช้อนชา
สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำปริมาณน้ำตาลที่เราควรทานในแต่ละวันไม่เกิน
6 ช้อนชา เพื่อหลีกเลี่ยงโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน
หรือโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด
ดังนั้นหากเราเลือกที่จะใส่น้ำตาลลงในกาแฟ ก็ไม่ควรใส่เกิน 1 ช้อนชาต่อแก้ว
และหากใครที่ดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน
ควรเฉลี่ยปริมาณน้ำตาลให้ทุกแก้วรวมกันไม่เกิน 1 ช้อนชาด้วย
เพราะเราต้องเผื่อปริมาณน้ำตาลให้กับอาหาร และขนม รวมทั้งเครื่องดื่มอื่นๆ
ที่เราทานหรือดื่มในแต่ละวันด้วย
ใส่นมออร์แกนิก หรือนมจากพืช แทนนมปกติ
ถ้าชอบใส่นมในกาแฟ ลองเลือกนมจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์
หรือนมออร์ปกนิก นมที่มาจากวัวที่กินแต่หญ้า แทนนมปกติดูสิ
แม้ว่าความเข้มข้นหรือไขมันจะน้อยกว่า
แต่รับรองว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าเดิมอีกเยอะ
เพราะนมจากพืชมีไขมันที่ดีต่อร่างกาย และนมออร์แกนิก
หรือนมที่มาจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าอย่างเดียว จะมีกรดไขมันโอเมก้า-3
มากกว่านมปกติด้วย เราแนะนำให้เลือกแต่นมจืดเท่านั้น
แต่หากชอบนมที่มีรสชาติ สามารถเลือกนมที่มีปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 4 กรัม
หรือเท่ากับ 1 ช้อนชาจะดีที่สุด
ใส่ผงอบเชย หรือเครื่องเทศอื่นๆ ลงไปแทนน้ำตาล
หากเป็นคนติดหวาน ติดให้กาแฟมีรสชาติมากกว่ารสขม แต่ไม่อยากเติมน้ำตาล
ลองเปลี่ยนเป็นการใส่เครื่องเทศอื่นๆ อย่างอบเชย ขิง จันทน์เทศ
หรือกานพลูลงไปในกาแฟดูสิ
นอกจากจะช่วยให้กาแฟแก้วโปรดของคุณมีกลิ่นหอมรัญจวนใจ
น่าดื่มกว่าที่เคยแล้ว
ยังทำให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากเครื่องเทศเหล่านี้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
โดยเฉพาะอบเชย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
และการทำงานของอินซูลินได้ดีเลยทีเดียว
หรือหากเครื่องเทศเหล่านี้ไม่ใช่ทางของคุณ
ลองเติมเป็นผงโกโก้ลงไปแทนก็ได้เป็นมอคค่าแสนอร่อยอีกแก้ว
“หลับ” ก่อนกาแฟ “ปลุก”
ทราบหรือไม่ว่า
ก่อนที่กาแฟจะเริ่มส่งคาเฟอีนมาปลุกให้เราตื่นจากความง่วง ต้องใช้เวลาราว
30 นาที ดังนั้นหากเราสามารถทำการ “งีบ” ก่อนที่คาเฟอีนจะเริ่มทำงาน
หลังจากเรางีบไป 30 นาที และตื่นมาพร้อมกับคาเฟอีนที่เริ่มปลุกเราให้ตื่น
เราจะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ดังนั้นใครที่สามารถงีบได้ ให้ลองใช้วิธีนี้ดู แต่อย่าเผลอดื่มกาแฟก่อนนอน 6
ชั่วโมงล่ะ ไม่งั้นคืนนั้นอาจจะนอนไม่หลับได้
ขอบคุณ Snook