สาวนวดสปา ร้องขอความช่วยเหลือ อ้างตกเป็นจำเลยคดีชิงทรัพย์ หลังศาลชั้นต้นตรังตัดสินจำคุก 10 ปี ยันตำรวจจับแพะแน่นอน แค่ชื่อเล่นเหมือนกับผู้ก่อเหตุตัวจริง ด้าน "ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต" ตั้งทนายช่วยแล้ว
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.ปวิตรา หรือพลอย กองกำพล อายุ 32 ปี ประกอบอาชีพนวดสปาอยู่ใน ต.กะรน อ.เมือง หอบเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ น.ส.ชญาทิพย์ จิตหลัง ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ช่วยต่อสู้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์ หลังจากศาลชั้นต้นจังหวัดตรังมีคำตัดสินพิพากษาให้จำคุก 10 ปี เมื่อวันที่ 2 เม.ย.59 ในข้อหาชิงทรัพย์ โดยทรัพย์ประกอบด้วย สร้อยคอและพระเครื่องหลวงพ่อโสธร มูลค่ากว่า 7 แสนบาทและอยู่ระหว่างการประกันตัวต่อสู้คดี
น.ส.ปวิตรา ระบุว่า ตนตกเป็นแพะในคดี ขณะนี้เดือดร้อนมาก ต้องดูแลลูกที่ยังเล็กและไม่มีเงินในการว่าจ้างทนาย จึงอยากขอยุติธรรมจังหวัดช่วยตรวจสอบหลักฐานให้ใหม่ โดยเฉพาะภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง นำไปใช้เป็นหลักฐานชี้ว่าตนเป็นผู้กระทำความผิด เนื่องจากหญิงสาวที่ปรากฏนี้นั้น ไม่ใช่ตนเอง รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ที่อ้างว่าตนใช้ติดต่อกับผู้เสียหาย รวมถึงลายนิ้วมือ เพราะเคยร้องขอให้ตำรวจตรวจสอบวัตถุพยาน แต่กลับไม่มีความคืบหน้า หากเป็นไปได้ขอร้องให้ผู้เสียหายมาพบหน้ากันสักครั้ง เนื่องจากตนและผู้เสียหายไม่เคยเจอมาก่อนเลย เหตุเกิดเพราะแค่ชื่อเล่นเหมือนกับผู้ต้องหาตัวจริงเท่านั้น
สำหรับคดีนี้ ตำรวจ สภ.สำราญ จ.ตรัง ได้ขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ออกหมายจับ น.ส.ปวิตรา เมื่อปี 54 หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ชื่อ พลอย มอมยา ขณะที่ดื่มกินกันอยู่ภายในรีสอร์ท ก่อนจะชิงทรัพย์ไป กระทั่งตำรวจมาจับกุมตัว น.ส.ปวิตรา ที่ชื่อพลอยเหมือนกัน เมื่อปี 59 ที่ จ.ภูเก็ต เหตุเพราะเจ้าตัวไปติดต่อราชการเลยโดนจับ ทำให้เพิ่งรู้ว่ามีหมายจับติดตัวมา 5 ปีแล้ว ล่าสุดยุติธรรมจังหวัดภูเก็ตได้รับเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระบบเพื่อตั้งทนายความให้ความช่วยเหลือแล้ว.
ขอบคุณ dailynews.co.th/regional/554768