จากกรณีดราม่า!!ข้ามประเทศ ที่ นัท-นิสามนี เลิศวรพงศ์
เน็ตไอดอลสาวประเภทสองชื่อดังถูกโลกออนไลน์ทั้งไทยและเมียนมาร์วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
กรณีแต่งชุดไทยประยุกติ์ เกาะอก-ผ่าสูง ไปถ่ายภาพที่เจดีย์ชเวดากอง
รวมทั้งยังมีการกล่าวอ้างถึงประวัติศาสตร์ระหว่างไทย-เมียนมาร์
ในเชิงหมิ่นเหม่ต่อความสัมพันธ์
จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงในโลกออนไลน์ข้ามคืน
ล่าสุด เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วระบุว่า
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวดิชั้น นิสามนี เลิศวรพงศ์ ได้เดินทางไปสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เพื่อท่องเที่ยวและมีความสนใจในความสวยงามของประเทศ แต่ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจโดยไม่ได้ทราบถึงความแตกต่างของวัฒนธรรมแต่ละประเทศจนทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายๆฝ่าย ดิชั้นขอโทษต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมได้รับบทเรียนแล้วว่าต่อไปจะต้องระมัดระวังในการแต่งตัวให้มาก พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมว่าแต่ละที่แตกต่างกัน โดยส่วนตัวดิชั้นไม่มีความตั้งใจก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
พร้อมขอภัยต่อสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์และประชาชนชาวเมียนมาร์ทุกคนที่ได้ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนความรู้สึกดังกล่าวและจะเป็นบทเรียนของดิฉันต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอกราบอภัยอีกครั้งจากหัวใจค่ะ Please excuse my lack of knowledge and please accept my sincere apologies for the mistake."
ที่มาจาก FB Nisamanee Lertvorapong
ล่าสุด เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วระบุว่า
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวดิชั้น นิสามนี เลิศวรพงศ์ ได้เดินทางไปสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เพื่อท่องเที่ยวและมีความสนใจในความสวยงามของประเทศ แต่ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจโดยไม่ได้ทราบถึงความแตกต่างของวัฒนธรรมแต่ละประเทศจนทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายๆฝ่าย ดิชั้นขอโทษต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมได้รับบทเรียนแล้วว่าต่อไปจะต้องระมัดระวังในการแต่งตัวให้มาก พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมว่าแต่ละที่แตกต่างกัน โดยส่วนตัวดิชั้นไม่มีความตั้งใจก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
พร้อมขอภัยต่อสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์และประชาชนชาวเมียนมาร์ทุกคนที่ได้ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนความรู้สึกดังกล่าวและจะเป็นบทเรียนของดิฉันต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอกราบอภัยอีกครั้งจากหัวใจค่ะ Please excuse my lack of knowledge and please accept my sincere apologies for the mistake."