อดีตพนักงานบริษัทเอกชน
ทำหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำ ที่ประเทศเวียดนาม เงินเดือนเกือบแสน
ผันตัวเลี้ยงไก่ ขายไข่ปลอดสารพิษที่จังหวัดราชบุรี บนพื้นที่ 1 ไร่
ปัจจุบันเก็บไข่ขายได้วันละ 100 ฟอง มีรายได้วันละ 500 - 600 บาท
ชีวิตแฮปปี้มีความสุข สูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
ได้อยู่กับครอบครัว อนาคตขยายตลาด และเลี้ยงไก่เพิ่ม
คุณชวัลวิทย์ สุทธิวรวรรณ์ หรือโดม ชายหนุ่มวัย 31 ปี เป็นตัวแทนให้ข้อมูลของกลุ่มเพื่อนซี้ 3 คน ที่ล้วนเรียนจบสาขาประมงคือ จิ๊ป - ศุภกร ชินบุตร และอ๊อบ - ธีรพงศ์ บรรเลงโดม เล่าว่า หลังเรียนจบ เราทั้ง 3 คน (จิ๊ป และ อ็อบ) ไปทำงานที่ประเทศอินเดีย และเวียดนาม ทำหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำ อยู่ต่างประเทศก็สนุกและมีความสุขดี แต่พออายุมากขึ้น เริ่มคิดว่าปั้นปลายชีวิตจะอาศัยอยู่ที่ไหน จะอยู่อย่างไร จะทำงานเป็นลูกจ้างไปถึงเมื่อไหร่ หนที่สุดตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่เมืองไทย ไปเป็นเกษตรกรปลูกผัก เลี้ยงไก่ แม้จะยังไม่รวย แต่เชื่อว่าอนาคตต้องดีแน่
"ผมและเพื่อน 3 คนรวมกันเงินเดือนกันก็หลายแสน ถึงแม้เงินเดือนจะดี แต่สุขภาพนับวันแย่ลง เพราะต้องคลุกคลีกับสารเคมี และยังห่างไกลจากครอบครัว ในที่สุดเราตัดสินใจลาออก กลับมาเมืองไทย และเริ่มทำเกษตรเมื่อปี 57 เบื้องต้นเลี้ยงปลาน้ำจืด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ หันไปปลูกพริกปลอดสารเคมี ก็ประสบปัญหาภัยแล้ง หนที่สุดหันมาเลี้ยงไก่ เก็บไข่ขาย มีจุดเด่น คือ ปลอดสารพิษ ไข่ขาวเนื้อข้น ไข่แดดนูน ไม่มีกลิ่นคาว ธรรมชาติ100%"
ตอนกลับมาเมืองไทย โดม บอกว่า ใช้ความรู้ด้านประมงที่มีอยู่ด้วยการเลี้ยงปลาน้ำจืดในกระชัง เช่น ปลานิล ปลาทับทิม แต่ขายยาก เพราะในตลาดมีนายทุนใหญ่ เลยหันมาปลูกพริกซูเปอร์ฮอต ปลูกแบบปลอดสารเคมี มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งให้สัญญาว่าจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมด แต่เมื่อพริกออกมาแล้ว เกิดเหตุไม่คาดฝัน บริษัทตัวแทนไม่ยอมรับซื้อตามที่ตกลงกันไว้ เกิดเป็นปัญหา ต้องนำพริกไปขายเอง ถูกกดราคาจนไม่คุ้มค่าต่อต้นทุน ที่สุดกลายเป็นขาดทุน
เรียกว่า 3 หนุ่ม เจ๊งจากการปลูกพริกซูเปอร์ฮอต คราวนั้นเจ็บตัวพอสมควร แต่โชคยังดี "ไก่ไข่" ที่เคยเลี้ยงไว้ 20 ตัว ออกไข่ นำไปขาย ได้เงินสัปดาห์ละ 100-200บาท"ระหว่างที่มืดแปดด้าน ไก่ไข่ ที่เคยเลี้ยงไว้ประมาณ 20 ตัว ออกไข่ ผมเลยนำไปขาย ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี ช่วยรับซื้อและให้เข้าร่วมกลุ่ม เลยลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง"
สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่ของบ้านสวนสานสุข จุดเด่น คือ เลี้ยงแบบปล่อยอิสระตามธรรมชาติ อาหารที่ใช้เลี้ยงผสมขึ้นเองจากพืช และสมุนไพร โดยเป็นออแกนิก ปราศจากสารเร่งฮอร์โมน การเลี้ยงด้วยวิธีนี้ จะทำให้ไก่สุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี ไม่เครียด ช่วยออกไข่คุณภาพดีตามไปด้วย ลักษณะเด่นของไข่ เนื้อไข่ขาวจะข้น ไข่แดงจะนูน ไม่มีกลิ่นคาว นำไปประกอบอาหารจะสัมผัสได้ถึงความสดใหม่จากธรรมชาติ น้ำหนักต่อฟอง 55 - 80 กรัม
สายพันธุ์ของไก่ ที่ 3 หนุ่มเลี้ยง มี 3 สายพันธุ์" ประกอบด้วย สายพันธุ์โรดไอส์แลนด์ บาร์พลีมัทร็อค และเลกฮอร์น อายุการเลี้ยงประมาณ 5 เดือนสามารถให้ไข่ได้
ด้านการทำตลาด เกษตรกรหนุ่ม จะนำไปขายตามกลุ่มผู้ค้าส่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ ใน จ.ราชบุรี ราคาขายประมาณ 4.5 บาทต่อฟอง โดยไข่จากบ้านสวนสานสุขได้ผลตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมาก ทำให้มีออเดอร์เพิ่มต่อเนื่อง จึงขยายปริมาณการเลี้ยงแม่ไก่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 200 ตัว สามารถให้ไข่ได้วันละประมาณ 100 ฟอง รวมถึง เลี้ยงลูกเจี๊ยบเพิ่มอีก 200 ตัว ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้ จะเพิ่มปริมาณเลี้ยงแม่ไก่อย่างน้อยเป็น 400-500 ตัว
คุณชวัลวิทย์ สุทธิวรวรรณ์ หรือโดม ชายหนุ่มวัย 31 ปี เป็นตัวแทนให้ข้อมูลของกลุ่มเพื่อนซี้ 3 คน ที่ล้วนเรียนจบสาขาประมงคือ จิ๊ป - ศุภกร ชินบุตร และอ๊อบ - ธีรพงศ์ บรรเลงโดม เล่าว่า หลังเรียนจบ เราทั้ง 3 คน (จิ๊ป และ อ็อบ) ไปทำงานที่ประเทศอินเดีย และเวียดนาม ทำหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำ อยู่ต่างประเทศก็สนุกและมีความสุขดี แต่พออายุมากขึ้น เริ่มคิดว่าปั้นปลายชีวิตจะอาศัยอยู่ที่ไหน จะอยู่อย่างไร จะทำงานเป็นลูกจ้างไปถึงเมื่อไหร่ หนที่สุดตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่เมืองไทย ไปเป็นเกษตรกรปลูกผัก เลี้ยงไก่ แม้จะยังไม่รวย แต่เชื่อว่าอนาคตต้องดีแน่
"ผมและเพื่อน 3 คนรวมกันเงินเดือนกันก็หลายแสน ถึงแม้เงินเดือนจะดี แต่สุขภาพนับวันแย่ลง เพราะต้องคลุกคลีกับสารเคมี และยังห่างไกลจากครอบครัว ในที่สุดเราตัดสินใจลาออก กลับมาเมืองไทย และเริ่มทำเกษตรเมื่อปี 57 เบื้องต้นเลี้ยงปลาน้ำจืด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ หันไปปลูกพริกปลอดสารเคมี ก็ประสบปัญหาภัยแล้ง หนที่สุดหันมาเลี้ยงไก่ เก็บไข่ขาย มีจุดเด่น คือ ปลอดสารพิษ ไข่ขาวเนื้อข้น ไข่แดดนูน ไม่มีกลิ่นคาว ธรรมชาติ100%"
ตอนกลับมาเมืองไทย โดม บอกว่า ใช้ความรู้ด้านประมงที่มีอยู่ด้วยการเลี้ยงปลาน้ำจืดในกระชัง เช่น ปลานิล ปลาทับทิม แต่ขายยาก เพราะในตลาดมีนายทุนใหญ่ เลยหันมาปลูกพริกซูเปอร์ฮอต ปลูกแบบปลอดสารเคมี มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งให้สัญญาว่าจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมด แต่เมื่อพริกออกมาแล้ว เกิดเหตุไม่คาดฝัน บริษัทตัวแทนไม่ยอมรับซื้อตามที่ตกลงกันไว้ เกิดเป็นปัญหา ต้องนำพริกไปขายเอง ถูกกดราคาจนไม่คุ้มค่าต่อต้นทุน ที่สุดกลายเป็นขาดทุน
เรียกว่า 3 หนุ่ม เจ๊งจากการปลูกพริกซูเปอร์ฮอต คราวนั้นเจ็บตัวพอสมควร แต่โชคยังดี "ไก่ไข่" ที่เคยเลี้ยงไว้ 20 ตัว ออกไข่ นำไปขาย ได้เงินสัปดาห์ละ 100-200บาท"ระหว่างที่มืดแปดด้าน ไก่ไข่ ที่เคยเลี้ยงไว้ประมาณ 20 ตัว ออกไข่ ผมเลยนำไปขาย ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี ช่วยรับซื้อและให้เข้าร่วมกลุ่ม เลยลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง"
สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่ของบ้านสวนสานสุข จุดเด่น คือ เลี้ยงแบบปล่อยอิสระตามธรรมชาติ อาหารที่ใช้เลี้ยงผสมขึ้นเองจากพืช และสมุนไพร โดยเป็นออแกนิก ปราศจากสารเร่งฮอร์โมน การเลี้ยงด้วยวิธีนี้ จะทำให้ไก่สุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี ไม่เครียด ช่วยออกไข่คุณภาพดีตามไปด้วย ลักษณะเด่นของไข่ เนื้อไข่ขาวจะข้น ไข่แดงจะนูน ไม่มีกลิ่นคาว นำไปประกอบอาหารจะสัมผัสได้ถึงความสดใหม่จากธรรมชาติ น้ำหนักต่อฟอง 55 - 80 กรัม
สายพันธุ์ของไก่ ที่ 3 หนุ่มเลี้ยง มี 3 สายพันธุ์" ประกอบด้วย สายพันธุ์โรดไอส์แลนด์ บาร์พลีมัทร็อค และเลกฮอร์น อายุการเลี้ยงประมาณ 5 เดือนสามารถให้ไข่ได้
ด้านการทำตลาด เกษตรกรหนุ่ม จะนำไปขายตามกลุ่มผู้ค้าส่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ ใน จ.ราชบุรี ราคาขายประมาณ 4.5 บาทต่อฟอง โดยไข่จากบ้านสวนสานสุขได้ผลตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมาก ทำให้มีออเดอร์เพิ่มต่อเนื่อง จึงขยายปริมาณการเลี้ยงแม่ไก่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 200 ตัว สามารถให้ไข่ได้วันละประมาณ 100 ฟอง รวมถึง เลี้ยงลูกเจี๊ยบเพิ่มอีก 200 ตัว ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้ จะเพิ่มปริมาณเลี้ยงแม่ไก่อย่างน้อยเป็น 400-500 ตัว
