จากกรณีชายวัยประมาณ
65 ปี ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดเสาวิทยุ สูง 100 เมตร พร้อมมีป้าย
เขียนขอความเขียนระบุว่า กรุณายกเลิกม.44 ขีดเส้นตายก่อน 21.00 น.
ไม่งั้นเก็บศพได้เลย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ม.44 ถ้าไม่ยกเลิก
ตนจะกระโดดลงมาจากยอดเสา โดยมีพระสงฆ์ ลูกศิษย์วัด
และหน่วยกู้ภัยเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้ลงมา แต่ก็ไม่เป็นผล
ชายชราคนดังกล่าวนั้นได้ตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองแล้วห้อยลงมาจากเสาวิทยุ
ผูกคอตายหลังเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44
ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายไม่สำเร็จ
ล่าสุด พระครูสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่บริเวณประตู 5 โดยในช่วงแรกได้กล่าวเชิญชวนคณะให้สงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงลุงที่เสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา และแจ้งว่าในวันนี้จะขอชี้แจงทั้งสิ้น 4 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็น 1.วัดและคณะศิษย์ขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางวัดยืนยันว่าไม่ใช่วิธีการของทางวัด และวัดก็ได้ขอร้องให้ลุงผู้เสียชีวิตยกเลิกวิธีดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล แนวทางของวัด คือเน้น สติ สงบ อหิงสา โดยทางวัดและคณะลูกศิษย์จะไปสวดพระอภิธรรมศพให้แก่คุนลุง แม้ว่าการกระทำของลุงอยู่นอกเขตวัด ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้น่าจะเป็นการพิจารณาของตัวลุงเอง ที่อยากให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ซึ่งทางวัดได้พยายามเกลี่ยกล่อมลุง และหวังว่าจะเป็นรายสุดท้าย ม.44 ตั้งขึ้นมาไม่ได้เป็นผลประโยชน์ใดๆ เลย และลุงคนดังกล่าวไม่ได้เป็นลูกศิษย์ที่วัดพระธรรมกาย
ประเด็นที่ 2.กรณีที่ดีเอสไอมีการแถลงข่าวและระบุว่า การตรวจค้นวัดพระธรรมกาย 2 วันแรกเหมือนไปทัวร์มากกว่าการตรวจค้น ซึ่งทางวัดจริงจังตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจค้น ทางวัดรู้สึกว่าทำไมดีเอสไอไม่จริงจัง ซึ่งงบประมานการปฎิบัติ อยุ่ที่ 3-4ล้านบาท กำลังพล 3 พันราย ทำไมถึงเอางบประมาณมาใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย เกือบ 50 ล้านบาท
ประเด็นที่ 3 กรณี ดีเอสไออ้างหวั่นมือที่ 3 มาสร้างความไม่สงบใน 10 กว่าวันนี้ทำให้ญาติโยมกลัว ซึ่ง ทางวัดไม่ไว้วางใจดีเอสไอ ประตู 7-8 ที่ดีเอสไอคุมอยู่ของไม่รู้หายไปเท่าไหร่ ซึ่งเป็นของที่ทางวัดบริจาคมาด้วยความยากลำบาก การที่ดีเอสไอข่มขู่ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ทำให้คนในวัดกลัวดีเอสไอยิ่งกว่ามือที่ 3 ถ้าดีเอสไอหยุดข่มขู่ ญาติโยมจะไว้ใจมากกว่านี้
ประเด็นที่ 4 จากกรณีคำแถลงของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าถ้าหลวงพ่อธัมมชโยเข้ามอบตัว ก็จะเข้ามาบัญชาการวัดให้โปร่งใส และม.44 ก็จะยกเลิกในทันที ขอเรียนว่าหน้าที่การบริหารวัดเป็นของพระ ของเจ้าอาวาส ของสมภาร ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาส ขอให้นายกกลับไปบริหารประเทศของท่านเถิด ซึ่งเราเห็นการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลชุดนี้แล้วมีความเห็นว่าอย่าบริหารวัดเลย และย้ำว่า สร้างวัดเพื่อถวายพุทธบูชา ไม่ใช่ถวายพล.อ.ปาะยุทธ์ จันทร์โอชา และขอให้ยกเลิกความรุนแรงทั้งหลาย
ล่าสุด พระครูสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่บริเวณประตู 5 โดยในช่วงแรกได้กล่าวเชิญชวนคณะให้สงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงลุงที่เสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา และแจ้งว่าในวันนี้จะขอชี้แจงทั้งสิ้น 4 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็น 1.วัดและคณะศิษย์ขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางวัดยืนยันว่าไม่ใช่วิธีการของทางวัด และวัดก็ได้ขอร้องให้ลุงผู้เสียชีวิตยกเลิกวิธีดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล แนวทางของวัด คือเน้น สติ สงบ อหิงสา โดยทางวัดและคณะลูกศิษย์จะไปสวดพระอภิธรรมศพให้แก่คุนลุง แม้ว่าการกระทำของลุงอยู่นอกเขตวัด ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้น่าจะเป็นการพิจารณาของตัวลุงเอง ที่อยากให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ซึ่งทางวัดได้พยายามเกลี่ยกล่อมลุง และหวังว่าจะเป็นรายสุดท้าย ม.44 ตั้งขึ้นมาไม่ได้เป็นผลประโยชน์ใดๆ เลย และลุงคนดังกล่าวไม่ได้เป็นลูกศิษย์ที่วัดพระธรรมกาย
ประเด็นที่ 2.กรณีที่ดีเอสไอมีการแถลงข่าวและระบุว่า การตรวจค้นวัดพระธรรมกาย 2 วันแรกเหมือนไปทัวร์มากกว่าการตรวจค้น ซึ่งทางวัดจริงจังตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจค้น ทางวัดรู้สึกว่าทำไมดีเอสไอไม่จริงจัง ซึ่งงบประมานการปฎิบัติ อยุ่ที่ 3-4ล้านบาท กำลังพล 3 พันราย ทำไมถึงเอางบประมาณมาใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย เกือบ 50 ล้านบาท
ประเด็นที่ 3 กรณี ดีเอสไออ้างหวั่นมือที่ 3 มาสร้างความไม่สงบใน 10 กว่าวันนี้ทำให้ญาติโยมกลัว ซึ่ง ทางวัดไม่ไว้วางใจดีเอสไอ ประตู 7-8 ที่ดีเอสไอคุมอยู่ของไม่รู้หายไปเท่าไหร่ ซึ่งเป็นของที่ทางวัดบริจาคมาด้วยความยากลำบาก การที่ดีเอสไอข่มขู่ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ทำให้คนในวัดกลัวดีเอสไอยิ่งกว่ามือที่ 3 ถ้าดีเอสไอหยุดข่มขู่ ญาติโยมจะไว้ใจมากกว่านี้
ประเด็นที่ 4 จากกรณีคำแถลงของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าถ้าหลวงพ่อธัมมชโยเข้ามอบตัว ก็จะเข้ามาบัญชาการวัดให้โปร่งใส และม.44 ก็จะยกเลิกในทันที ขอเรียนว่าหน้าที่การบริหารวัดเป็นของพระ ของเจ้าอาวาส ของสมภาร ไม่ใช่หน้าที่ของฆราวาส ขอให้นายกกลับไปบริหารประเทศของท่านเถิด ซึ่งเราเห็นการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลชุดนี้แล้วมีความเห็นว่าอย่าบริหารวัดเลย และย้ำว่า สร้างวัดเพื่อถวายพุทธบูชา ไม่ใช่ถวายพล.อ.ปาะยุทธ์ จันทร์โอชา และขอให้ยกเลิกความรุนแรงทั้งหลาย