เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ คณะสงฆ์จีนนิกาย จัดพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็ก น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
เวลา
20.44 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร
พระสงฆ์จีน 21 รูปสวดพระพุทธมนต์ เชิญเสด็จดวงพระวิญญาณ ข้ามสะพาน
พระสงฆ์จีน 21 รูปนำเสด็จดวงพระวิญญาณลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
มจ.มงคลเฉลิม ยุคล เชิญเครื่องทองน้อย และพล.ท.มจ.เฉลิมศึก ยุคล
เชิญธงพุ่มดวงพระวิญญาณ ลงทางบันไดหน้าพระที่นั่งด้านตะวันตกไปยังมณฑลพิธี
ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จฯ ตามธงพุ่มดวงพระวิญญาณลงมายังมณฑลพิธี
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยเพื่อบูชาเทพรักษาสะพานที่หัวสะพาน
ทรงรับกระดาษเงิน กระดาษทอง แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานนำไปเผา พระสงฆ์จีน
21 รูป ตั้งขบวนสวดพระพุทธมนต์นำดวงพระวิญญาณ เสด็จฯข้ามสะพานโอฆสงสาร
เที่ยวไปจนครบ 3 รอบ ระหว่างนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ
ตามเครื่องทองน้อย และธงพุ่มเชิญดวงพระวิญญาณ
ทรงโปรยเหรียญลงในขันสาครที่หัวสะพานและท้ายสะพาน
เมื่อเสด็จฯ
ลงท้ายสะพานรอบที่ 3 แล้ว พระสงฆ์จีนหยุดยืนสวดด้านข้างมณฑลพิธี
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยเพื่อบูชาเทพรักษาสะพานที่ท้ายสะพาน ทรงรับกระดาษเงินกระดาษทอง
แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานนำไปเผา พระสงฆ์จีน 21
รูปตั้งขบวนสวดพระพุทธมนต์นำดวงพระวิญญาณเสด็จฯ
ข้ามสะพานโอฆสงสารเที่ยวกลับจนครบ 3 รอบ
ขณะนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จตามเครื่องทองน้อย และธงพุ่มเชิญดวงพระวิญญาณ
ทรงโปรยเหรียญลงในขันสาครที่หัวสะพานและท้ายสะพาน จากนั้นประทับพระราชอาสน์
พระสงฆ์จีนยืนสวดหน้ามณฑลพิธี พระสงฆ์จีน 21
รูปเชิญดวงพระวิญญาณเสด็จขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททางบันไดหน้าพระที่นั่งด้านตะวันตก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯตามเครื่องทองน้อย และธงพุ่มดวงพระวิญญาณ
ประทับพระราชอาสน์
พระสงฆ์จีนยืนสวดพุทธมนต์แล้วเดินออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
จากนั้น
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธรูปที่หน้าเครื่องนมัสการ
ทรงกราบหน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
เสด็จพระราชดำเนินกลับ
สำหรับ ในพิธีกงเต็กหลวงครั้งนี้ นายเศรษฐพงษ์ จงสงวน ประชาสัมพันธ์คณะสงฆ์จีนนิกาย เปิดเผยถึงความหมายของพิธีกงเต็กว่า เป็นพิธีกรรมตามคติพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ในการประกอบปัตติทานกุศล คือการอุทิศบุญกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณ เพื่อเพิ่มพูนทิพยสุขในแดนสุขาวดีพุทธเกษตร ซึ่งในภาษาไทยก็คือการบำเพ็ญกุศลแด่บุพการี ผู้มีพระคุณ อันเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตอบแทนแด่บุคคลผู้มีพระคุณ อาทิ พระมหากษัตริย์ บิดามารดา ครู อาจารย์ เป็นต้น ซึ่งคนทั่วไป จะใช้พระสงฆ์ในพิธีมากที่สุดเพียง 9 รูป แต่ในพระราชพิธีครั้งนี้มีพระสงฆ์จีนเข้าร่วม 90 รูป ตามพระชนมพรรษา ซึ่งชาวจีนจะนับอายุเพิ่ม 1 ปี จากอายุสากล ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยครั้งนี้มี พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม เป็นประธาน
สำหรับ ในพิธีกงเต็กหลวงครั้งนี้ นายเศรษฐพงษ์ จงสงวน ประชาสัมพันธ์คณะสงฆ์จีนนิกาย เปิดเผยถึงความหมายของพิธีกงเต็กว่า เป็นพิธีกรรมตามคติพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ในการประกอบปัตติทานกุศล คือการอุทิศบุญกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณ เพื่อเพิ่มพูนทิพยสุขในแดนสุขาวดีพุทธเกษตร ซึ่งในภาษาไทยก็คือการบำเพ็ญกุศลแด่บุพการี ผู้มีพระคุณ อันเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตอบแทนแด่บุคคลผู้มีพระคุณ อาทิ พระมหากษัตริย์ บิดามารดา ครู อาจารย์ เป็นต้น ซึ่งคนทั่วไป จะใช้พระสงฆ์ในพิธีมากที่สุดเพียง 9 รูป แต่ในพระราชพิธีครั้งนี้มีพระสงฆ์จีนเข้าร่วม 90 รูป ตามพระชนมพรรษา ซึ่งชาวจีนจะนับอายุเพิ่ม 1 ปี จากอายุสากล ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยครั้งนี้มี พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม เป็นประธาน
นายเศรษฐพงษ์ กล่าว
ถึงเครื่องกระดาษที่นำมาใช้ ว่าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
เครื่องกระดาษสำหรับเผาอุทิศถวาย และเครื่องกระดาษสำหรับพิธีสงฆ์
โดยการทำเครื่องกระดาษในครั้งนี้ได้ระดมสรรพกำลังของลูกศิษย์คณะสงฆ์จีนนิกายทั้งหมดของประเทศไทย
มาร่วมกันทำถวาย ใช้เวลาถึง 3 เดือน
สำหรับเครื่องกระดาษที่จะเผาอุทิศถวายในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
ซึ่งพระตำหนักได้จำลองเสมือนจริงมากที่สุดโดยอ้างอิงข้อมูลจากภาพถ่าย
ภายในพระตำหนักประกอบไปด้วย สวน ข้าราชบริพารประจำประตูต่างๆ
รถยนต์โรลสรอยซ์พระที่นั่งสีครีม 1 คัน ทะเบียน ร.ย.ล.9 พร้อมสารถี ทั้งนี้
จัดทำข้าราชบริพาร จำนวน 25 ตน มีความสูงราว 80 เซนติเมตร
ประกอบด้วยข้าราชองครักษ์ ทหารราชองครักษ์ คนรับใช้ชายหญิง ข้าราชการ
จำลองจากชุดปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จริง นอกจากนี้ยังมีภูเขาเงิน ภูเขาทอง
ภูเขาเสริมพระบารมี มีลักษณะแบบจีน จะวางไว้ด้านข้างของพระตำหนัก
และคลังเงินคลังทองสำหรับเก็บพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อใช้ในการพระราชกุศลต่างๆ
รวมถึงมีหีบเงิน หีบทอง หีบเครื่องราชูปโภคกว่า 10 หีบ
โดยออกแบบเน้นสีทองอันเป็นสีทิพย์ และมีลวดลายมังกร 5 เล็บ
อันหมายถึงพระเจ้าแผ่นดิน ฮ่องเต้ แต่ละชิ้นทำจากโครงไม้ไผ่เป็นหลัก
ใช้กระดาษสา กระดาษผิวเรียบ กระดาษเงินกระดาษทอง
นายเศรษฐพงษ์กล่าวอีกว่า ภายในหีบเครื่องราชูปโภคนั้น ประกอบไปด้วยฉลองพระองค์หลากหลายรูปแบบ เช่น ฉลองพระองค์เชิ้ต ฉลองพระองค์สูท ซึ่งเครื่องกระดาษทั้งหมดนั้นเน้นถูกต้องตามประเพณี ไม่หวือหวาตามสมัยนิยม รวมถึงมีรถยนต์พระที่นั่ง และสุนัขทรงเลี้ยง 6 สุนัข
นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องกระดาษที่ใช้ประกอบพิธีสงฆ์ จะประกอบไปด้วย ธงพุ่ม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารบกสีเขียวคลุมธงพุ่ม , ม้าเทวทูต และนกเทวทูต รวมทั้งภูเขาผัก ภูเขาอาหาร ซึ่งจะใช้ในพิธีเป็นของถวายพระโพธิสัตว์
นอกจากนี้ นายเศรษฐพงษ์ กล่าวว่า ในพิธีของสามัญชนทั่วไป จะจบพิธีกงเต็กที่การข้ามสะพานโอฆสงสาร แต่สำหรับพิธีพระบรมศพเจ้านาย จะเพิ่มลำดับพิธีโยคะตันตระ หรือพิธีทิ้งกระจาด เป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลให้ครบถ้วนและเป็นการเจริญเมตตาจิต สร้างทานบารมีให้ครบทั้ง 6 ภูมิ ได้แก่ เทวดา มนุษย์ เปรต อสูร สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ประกอบด้วยข้าวสาร 3,000 ถุง, น้ำตาล 1,000 กิโลกรัม ,เกลือ 300 ถุง, น้ำดื่ม 1,000 ขวด , บะหมี่สำเร็จรูป 200 ลัง , เส้นหมี่ขาว 200 ลัง และขนมขบเคี้ยว 120 ลัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลต่อไป คล้ายคลึงกับงานทิ้งกระจาดในเทศกาลสารทจีน ตรุษจีน
สำหรับพิธีปล่อยนกปล่อยปลา นายเศรษฐพงษ์ กล่าวว่า ในทางมหายานเป็นการเจริญเมตตาจิต เพราะสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิด ทำให้คนจีนไม่กินเนื้อสัตว์ ครั้งนี้เน้นพันธุ์ปลาที่สามารถปล่อยลงแม่น้ำได้ หลายชนิดนับร้อยตัว โดยเจ้าหน้าที่ไปซื้อจากตลาด ซึ่งเป็นปลามีชีวิตที่กำลังจะจำหน่าย
นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องกระดาษที่ใช้ประกอบพิธีสงฆ์ จะประกอบไปด้วย ธงพุ่ม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารบกสีเขียวคลุมธงพุ่ม , ม้าเทวทูต และนกเทวทูต รวมทั้งภูเขาผัก ภูเขาอาหาร ซึ่งจะใช้ในพิธีเป็นของถวายพระโพธิสัตว์
นอกจากนี้ นายเศรษฐพงษ์ กล่าวว่า ในพิธีของสามัญชนทั่วไป จะจบพิธีกงเต็กที่การข้ามสะพานโอฆสงสาร แต่สำหรับพิธีพระบรมศพเจ้านาย จะเพิ่มลำดับพิธีโยคะตันตระ หรือพิธีทิ้งกระจาด เป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลให้ครบถ้วนและเป็นการเจริญเมตตาจิต สร้างทานบารมีให้ครบทั้ง 6 ภูมิ ได้แก่ เทวดา มนุษย์ เปรต อสูร สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ประกอบด้วยข้าวสาร 3,000 ถุง, น้ำตาล 1,000 กิโลกรัม ,เกลือ 300 ถุง, น้ำดื่ม 1,000 ขวด , บะหมี่สำเร็จรูป 200 ลัง , เส้นหมี่ขาว 200 ลัง และขนมขบเคี้ยว 120 ลัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลต่อไป คล้ายคลึงกับงานทิ้งกระจาดในเทศกาลสารทจีน ตรุษจีน
สำหรับพิธีปล่อยนกปล่อยปลา นายเศรษฐพงษ์ กล่าวว่า ในทางมหายานเป็นการเจริญเมตตาจิต เพราะสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิด ทำให้คนจีนไม่กินเนื้อสัตว์ ครั้งนี้เน้นพันธุ์ปลาที่สามารถปล่อยลงแม่น้ำได้ หลายชนิดนับร้อยตัว โดยเจ้าหน้าที่ไปซื้อจากตลาด ซึ่งเป็นปลามีชีวิตที่กำลังจะจำหน่าย