ป้าน้องคิว
เตรียมปรึกษาผู้รู้กฎหมายฟ้องเอาผิดคนโพสต์เฟสกล่าวหา
หลานชายหลอกลวงให้คนช่วยเหลือ หลังสอบติด ม.เกษตรฯ
ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรก จนมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือจำนวนมาก
ยันทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้
ไม่รู้ผู้โพส์ตมีเจตนาอะไรวอนสังคมอย่าเข้าใจผิด
เผยหลานเครียดจัดนอนไม่หลับ
(13 มี.ค.60) กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียลอีกจนได้ หลังจากมีผู้โพส์ตเฟสบุ๊กแฉ กรณีที่ นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือน้องคิว อายุ 18 ปี ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน 36,000 บาท เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นเสาหลักเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนพ่อแท้ๆ ก็ทิ้งไปตั้งแต่น้องคิว 4 ขวบ ขณะที่พ่อเลี้ยงหลังแม่เสียชีวิตแล้วก็ไม่ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย จนน้องคิว ต้องไปขออาศัยอยู่กับนางจันทร์จิรา เกียรตินอก ผู้เป็นป้า ที่มีอาชีพขายข้าวแกงดูแล โดยในเฟสได้โพส์ตข้อความกล่าวหาว่า ทั้งป้า และหลานหลอกลวงให้ผู้คนมาบริจาคเงินช่วยค่าเทอม ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ยากจนจริง ทั้งกล่าวหาว่าหลังจากได้เงินบริจาคแล้ว ก็นำไปเข้าร้านอาหาร ซื้อโทรศัพท์มือถือ และนาฬิกา ราคาแพง
จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริง กับนางจันทร์จิรา ป้าของน้องคิว ก็ได้ให้ข้อมูลว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังด้วยว่า พ่อแท้ๆ ของน้องคิว ได้ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก ก็ไม่เคยติดต่อกับแม่น้องคิวอีกเลย กระทั่งแม่น้องคิว ซึ่งก็เป็นน้องสาวของตนเอง ได้มีสามีใหม่คือพ่อเลี้ยงของน้องคิว คนปัจจุบัน ซึ่งสามีใหม่คนดังกล่าวมีลูกติด 3 คน ส่วนน้องคิวเป็นลูกติดน้องสาว และมีลูกด้วยกันเพิ่มอีก 1 คนรวมเป็น 5 คน ช่วงที่น้องสาว ยังมีเสียชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร เพราะน้องสาว มีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดไนท์มีรายได้เพียงพอ ที่จะเลี้ยงดูน้องคิว และคนในครอบครัวถือเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา น้องสาวได้นอนเสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไร และจู่ๆ ร้านขายอาหาตามสั่งที่น้องสาวเคยขายและน้องคิว ก็ไปช่วยขายนั้น พ่อเลี้ยงก็สั่งห้ามเข้าไปยุ่งเขาจะดูแลจัดการเอง ทั้งห้ามเข้าบ้านที่เคยอาศัยอยู่กับแม่โดยบอกให้ต่างคนต่างอยู่
ทำให้น้องคิว ขาดที่พึ่งต้องมาอาศัยอยู่กับตนซึ่งเป็นป้า ต้องคอยอุปการะดูแลมาจนทุกวันนี้ ส่วนกรณีที่ผู้โพสกล่าวหาว่าไม่ได้ยากจนจริงแต่ไปโพสต์โซเชียลขอความช่วยเหลือนั้น ก็ชี้แจงว่าไม่เคยบอกว่า
ตนเองยากจนหรือร่ำรวยแต่ก็มีอาชีพพอเลี้ยงตัวเองและลูกได้ เพียงแค่ช่วงนั้นน้องคิว ซึ่งเป็นหลานที่มาขอที่พึ่งอาศัยหลังแม่เสียชีวิต มาบอกว่าสอบติด ม.เกษตรฯ แล้วทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่าให้จ่ายค่าเทอมงวดแรกเพื่อยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา
ซึ่งขณะนั้นก็ไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายให้หลาน ส่วนตัวหลานก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตามมา จึงโทรไปปรึกษาแฟนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แฟนก็เลยโพส์ตเฟสบุ๊กโดยมีเนื้อหาว่าหากมีผู้ใจบุญให้ยืมเงิน
เพื่อนำไปเป็นค่าเทอมให้กับน้องคิว ที่สอบติดม.เกษตรฯ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หากกู้เงิน กยศ.ได้ก็จะผ่อนจ่ายคืนให้ แต่เมื่อโพสต์เรื่องราวแล้วก็มีสื่อมาทำข่าว และก็มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยค่าเทอมและค่าเล่าเรียนให้กับน้องคิวจำนวนมาก
สำหรับกรณีที่กล่าวว่าน้องคิว นำเงินที่ได้รับบริจาคไปเข้าร้านอาหาร ซื้อมือถือ และนาฬิการาคาแพงนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ปัจจุบันน้องมีเพียงรถจักรยานยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์ มือถือ และนาฬิกา
ที่แม่ของน้องเป็นคนซื้อให้ก่อนเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นน้องไม่มีอะไรติดตัวมา ไม่รู้ว่าคนที่โพส์ต กล่าวหา มีจุดประสงค์อะไร แต่การที่ทำแบบนี้ทำให้สังคมเข้าใจผิด จนตอนนี้ทั้งตนเองและน้องคิว เครียดมาก โดยเฉพาะน้องสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะนอกจากจะสูญเสียแม่แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
นางจันทร์จิรา ยังยืนยันว่า ข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ว่าผู้โพส์ตจะมีจุดประสงค์อะไรก็ถือเป็นการกล่าวหา ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเข้าใจผิด ตนก็จะปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมาย
เพื่อแจ้งความฟ้องร้องเอาผิดกับผู้โพส์ตข้อความกล่าวหาตนและหลาน และจะปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อไม่ให้เกิดกระแสกระทบจิตใจหลาน อีกทั้งเงินที่ได้รับบริจาคก็เพียงพอกับค่าเล่าเรียนแล้ว พร้อมขอบคุณผู้ใจบุญที่มีเมตตาช่วยเหลือหลาน
ขอบคุณ :: nationtv.tv/main/content/social/378538461/
(13 มี.ค.60) กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียลอีกจนได้ หลังจากมีผู้โพส์ตเฟสบุ๊กแฉ กรณีที่ นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย หรือน้องคิว อายุ 18 ปี ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน 36,000 บาท เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นเสาหลักเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนพ่อแท้ๆ ก็ทิ้งไปตั้งแต่น้องคิว 4 ขวบ ขณะที่พ่อเลี้ยงหลังแม่เสียชีวิตแล้วก็ไม่ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย จนน้องคิว ต้องไปขออาศัยอยู่กับนางจันทร์จิรา เกียรตินอก ผู้เป็นป้า ที่มีอาชีพขายข้าวแกงดูแล โดยในเฟสได้โพส์ตข้อความกล่าวหาว่า ทั้งป้า และหลานหลอกลวงให้ผู้คนมาบริจาคเงินช่วยค่าเทอม ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ยากจนจริง ทั้งกล่าวหาว่าหลังจากได้เงินบริจาคแล้ว ก็นำไปเข้าร้านอาหาร ซื้อโทรศัพท์มือถือ และนาฬิกา ราคาแพง
จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริง กับนางจันทร์จิรา ป้าของน้องคิว ก็ได้ให้ข้อมูลว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังด้วยว่า พ่อแท้ๆ ของน้องคิว ได้ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก ก็ไม่เคยติดต่อกับแม่น้องคิวอีกเลย กระทั่งแม่น้องคิว ซึ่งก็เป็นน้องสาวของตนเอง ได้มีสามีใหม่คือพ่อเลี้ยงของน้องคิว คนปัจจุบัน ซึ่งสามีใหม่คนดังกล่าวมีลูกติด 3 คน ส่วนน้องคิวเป็นลูกติดน้องสาว และมีลูกด้วยกันเพิ่มอีก 1 คนรวมเป็น 5 คน ช่วงที่น้องสาว ยังมีเสียชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร เพราะน้องสาว มีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดไนท์มีรายได้เพียงพอ ที่จะเลี้ยงดูน้องคิว และคนในครอบครัวถือเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา น้องสาวได้นอนเสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไร และจู่ๆ ร้านขายอาหาตามสั่งที่น้องสาวเคยขายและน้องคิว ก็ไปช่วยขายนั้น พ่อเลี้ยงก็สั่งห้ามเข้าไปยุ่งเขาจะดูแลจัดการเอง ทั้งห้ามเข้าบ้านที่เคยอาศัยอยู่กับแม่โดยบอกให้ต่างคนต่างอยู่
ทำให้น้องคิว ขาดที่พึ่งต้องมาอาศัยอยู่กับตนซึ่งเป็นป้า ต้องคอยอุปการะดูแลมาจนทุกวันนี้ ส่วนกรณีที่ผู้โพสกล่าวหาว่าไม่ได้ยากจนจริงแต่ไปโพสต์โซเชียลขอความช่วยเหลือนั้น ก็ชี้แจงว่าไม่เคยบอกว่า
ตนเองยากจนหรือร่ำรวยแต่ก็มีอาชีพพอเลี้ยงตัวเองและลูกได้ เพียงแค่ช่วงนั้นน้องคิว ซึ่งเป็นหลานที่มาขอที่พึ่งอาศัยหลังแม่เสียชีวิต มาบอกว่าสอบติด ม.เกษตรฯ แล้วทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่าให้จ่ายค่าเทอมงวดแรกเพื่อยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา
ซึ่งขณะนั้นก็ไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายให้หลาน ส่วนตัวหลานก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตามมา จึงโทรไปปรึกษาแฟนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แฟนก็เลยโพส์ตเฟสบุ๊กโดยมีเนื้อหาว่าหากมีผู้ใจบุญให้ยืมเงิน
เพื่อนำไปเป็นค่าเทอมให้กับน้องคิว ที่สอบติดม.เกษตรฯ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หากกู้เงิน กยศ.ได้ก็จะผ่อนจ่ายคืนให้ แต่เมื่อโพสต์เรื่องราวแล้วก็มีสื่อมาทำข่าว และก็มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยค่าเทอมและค่าเล่าเรียนให้กับน้องคิวจำนวนมาก
สำหรับกรณีที่กล่าวว่าน้องคิว นำเงินที่ได้รับบริจาคไปเข้าร้านอาหาร ซื้อมือถือ และนาฬิการาคาแพงนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ปัจจุบันน้องมีเพียงรถจักรยานยนต์ที่ยังติดไฟแนนซ์ มือถือ และนาฬิกา
ที่แม่ของน้องเป็นคนซื้อให้ก่อนเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นน้องไม่มีอะไรติดตัวมา ไม่รู้ว่าคนที่โพส์ต กล่าวหา มีจุดประสงค์อะไร แต่การที่ทำแบบนี้ทำให้สังคมเข้าใจผิด จนตอนนี้ทั้งตนเองและน้องคิว เครียดมาก โดยเฉพาะน้องสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะนอกจากจะสูญเสียแม่แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
นางจันทร์จิรา ยังยืนยันว่า ข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ว่าผู้โพส์ตจะมีจุดประสงค์อะไรก็ถือเป็นการกล่าวหา ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเข้าใจผิด ตนก็จะปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมาย
เพื่อแจ้งความฟ้องร้องเอาผิดกับผู้โพส์ตข้อความกล่าวหาตนและหลาน และจะปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อไม่ให้เกิดกระแสกระทบจิตใจหลาน อีกทั้งเงินที่ได้รับบริจาคก็เพียงพอกับค่าเล่าเรียนแล้ว พร้อมขอบคุณผู้ใจบุญที่มีเมตตาช่วยเหลือหลาน
ขอบคุณ :: nationtv.tv/main/content/social/378538461/