จุ๊บจิ๊บ Let me In Thailand 3 เปิดใจครั้งแรก พร้อมตอบทุกประเด็นดราม่า !!

จุ๊บจิ๊บ Let me In Thailand 3 เปิดใจครั้งแรกกับทุกประเด็นดราม่า ยันชัดพูดความจริงทุกอย่าง แต่รายการมีเวลาจำกัดให้การออกอากาศ แจงเหตุคางเบี้ยวเพราะจัดฟันตอนเข้ามหาวิทยาลัย

          หลัง จุ๊บจิ๊บ จิราภรณ์ สาวปากเบี้ยว ที่ได้มาออกรายการ Let me In Thailand 3 พลิกชีวิตศัลยกรรมจนสวยเทียบเท่าดาราจนเป็นที่ฮือฮา แต่มิวายโดนชาวโซเชียลออกมาแฉว่าแท้จริงแล้วเจ้าตัวใช้ชีวิตสุดสบาย สมัยเรียนก็สวยเข้าขั้นเป็นไอดอลของโรงเรียน ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นดรัมเมเยอร์ แถมเพื่อนที่เรียนที่เดียวกันยังไม่เคยรู้เลยว่า จุ๊บจิ๊บ คางเบี้ยวมาก่อนด้วยซ้ำ จนกลายเป็นกระแสดราม่าร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ (อ่านเพิ่มเติม : โซเชียลจับโป๊ะ จุ๊บจิ๊บ Let Me In ชีวิตแสนสบาย เพื่อนงงใจปากเบี้ยวตอนไหน ?)

          ล่าสุด (29 พฤศจิกายน 2560) จุ๊บจิ๊บ Let me In ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงกระแสดราม่าดังกล่าวกับ กระปุกดอทคอม เป็นครั้งแรก ว่า หลังจากที่ได้ไปทำศัลยกรรมมาแล้ว ก็รู้สึกว่าเรามีโอกาสต่าง ๆ มากขึ้น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น คนรอบข้างก็ชมว่าสวยขึ้น ทั้งครอบครัว รุ่นพี่ เพื่อน ๆ ที่คณะก็ภูมิใจไปกับเราด้วย คุณแม่ก็บอกว่าน่ารักขึ้น เวลายิ้มก็ดูมีความมั่นใจมากขึ้น


อะไรทำให้เราตัดสินใจมาร่วมรายการนี้ ?

          จุ๊บจิ๊บ : เราสนใจรายการนี้ตั้งแต่ซีซั่นแรกแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเรายังอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีโอกาสที่จะได้เข้ามาสมัคร พอซีซั่นนี้ก็เลยสมัครดู ด้วยความที่เรามีปัญหาเรื่องคางเบี้ยว ฟันเอียง ไม่ตรงกัน เวลากัดฟัน ฟันจะสบกันแค่ข้างเดียว อีกข้างก็จะมีช่องว่างอยู่

คางเราเบี้ยวตั้งแต่เมื่อไร ?

          จุ๊บจิ๊บ : ช่วงเรียนปี 1 ค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้สังเกตตัวเองว่ามันมีจุดผิดปกติ เพราะตอนที่ยังไม่ได้จัดฟันก็เหมือนปกติทั่วไป แต่พอไปจัดฟันก็มีเพื่อนทักว่า ฟันมันเอียงหรือเปล่า ทำไมยิ้มแล้วดูปาก ๆ ซึ่งเท่าที่เราสันนิษฐานอาการมันก็น่าจะมาจากการจัดฟันของเราด้วย


ก่อนที่จะมารายการได้ไปพบแพทย์มาบ้างไหม ?

          จุ๊บจิ๊บ : ตอนที่ตัดสินใจจัดฟันก็คิดว่ามันน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่พอลองไปคุยกับทางคลีนิกแห่งหนึ่งเขาก็บอกว่ามันต้องผ่าขากรรไกรร่วมด้วยถ้าจัดฟันไปเฉย ๆ มันอาจจะเป็นหนักกว่าเดิมหรือมีเปอร์เซ็นน้อยที่จะรักษาหาย


วินาทีแรกที่เรารู้ว่าเราได้รับเลือกเป็นอย่างไรบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : อึ้งค่ะ ตอนนั้นสตั๊นไป 3 วิเลย คือเราใช่ไหม เพราะตั้งแต่สมัครเราไม่ได้คาดหวังเลย เราเห็นว่ารายการนี้มีคนสมัครเยอะมาก แต่ละคนมีปัญหาหนักมากจริง ๆ แต่พอได้มาอยู่จุดนี้ก็ขอบคุณค่ะ

แต่ก็มีคนบอกว่าที่จริงเราก็สวยอยู่แล้ว อีกคนควรได้มากกว่าเรา เราเห็นบ้างไหม ?

          จุ๊บจิ๊บ : ก็เห็นแล้วค่ะ เห็นทุกคอมเมนต์ทุกอย่าง แต่ด้วยความที่เราอยู่ในหัวข้อ ใกล้ดาว และเราก็เป็นคนชอบทำกิจกรรม แต่ติดอีกนิดหนึ่งเราก็จะสวยแล้ว เราจะไปถึงฝันแล้ว ส่วนตัวก็ไม่รู้นะ เพราะคุณหมอเขาก็เป็นคนเลือก

หัวข้อ ใกล้ดาว คืออะไร ?

          จุ๊บจิ๊บ : คือด้วยความที่เราเป็นเด็กกิจกรรม อย่างที่บอกในรายการว่าอยากเข้าวงการบันเทิง ซึ่งหัวข้อ ใกล้ดาว ก็คือ เราอยากทำงานแบบนี้แต่หน้าตาเรายังไปไม่ถึง อีกนิดหนึ่งจะถึงแล้ว แต่มันก็ยังไม่ถึง

กับกระแสที่บอกว่าเราไม่ได้เรียนโรงเรียนวัด ?

          จุ๊บจิ๊บ : ต้องบอกก่อนว่าเราย้ายโรงเรียน 3 ที่ ที่แรกเป็นที่สุพรรณบุรี เป็นโรงเรียนวัดที่พูดในรายการ จน ป.5 ก็ย้ายมาอยู่ที่ จ.น่าน เป็นโรงเรียนเทศบาลแถวบ้าน จากนั้นค่อยสอบเข้า ม.1 ที่โรงเรียนประจำจังหวัด


มีคนแฉด้วยว่าที่จริงแล้วฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้ลำบาก ใช้ของหรู ใช้ของแบรนด์เนม อยู่คอนโด ?

          จุ๊บจิ๊บ : คือที่บ้านอะลำบาก แม่ขายแค่กับข้าวแล้วเขาก็ส่งเราเรียนแค่คนเดียว แต่เราเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม แต่แม่ก็เคยสอนไว้ว่าอยากได้อะไรก็เก็บเงินซื้อเอง อย่างการไปจัดฟันก็เคยขอแม่ แต่เขาก็บอกว่าไม่มีเงินก้อนให้ขนาดนั้น เราเลยตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดเทอมแล้วผ่อนเอา แล้วเราก็เก็บเงิน คือเราก็มีทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างตามที่เราว่าง ส่วนไอโฟนหรือของที่อยากได้ก็ทำงานเก็บเงินไปซื้อเอง ไม่ได้ขอแม่ แต่ก็มีไม่พอใช้บ้าง ตรงนี้แม่ก็ช่วยดูแลให้ แต่ส่วนใหญ่ของที่เป็นชิ้นใหญ่ ๆ เราก็จะเก็บเงินซื้อเอง

มีคนมองว่าเราเป็นคนสวยในโรงเรียน เป็นลีด เป็นดรัมเมเยอร์ ทำไมถึงยังมาออกรายการ ?

          จุ๊บจิ๊บ : อย่างที่บอกว่าเราชอบทำกิจกรรม อยากเข้าวงการ แล้วช่วงนั้นเราก็ยังไม่มีความผิดปกติบนใบหน้าชัดเจนเท่าตอนที่มาออกรายการ ตอนที่เป็นลีดเราก็ยังยิ้มได้ ยังกล้าแสดงออก ยังร่าเริง เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้เห็นความผิดปกติ

มีคนแฉว่าที่จริงเราเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน ?

          จุ๊บจิ๊บ : จริง ๆ ตอนนี้เรียนที่ ม.เกษตรศาสตร์ ค่ะ แต่ตอนเข้าปี 1 เราได้ทุนเรียนที่ ม.รังสิต ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงรอแอดมิชชั่นก็เลยลงไปก่อน พอผลแอดมิชชั่นออก เราติด ม.เกษตรศาสตร์ ค่ะ



เห็นกระแสดราม่าที่เกี่ยวกับเราบ้างไหม รู้สึกอย่างไรบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : เห็นค่ะ เราเข้าไปอ่านทุกสำนัก ทั้งโซเชียล เฟซบุ๊ก ไอจี เราเข้าไปอ่านหมด ก็รู้สึกเสียใจค่ะ ถามว่าเครียดไหมก็เครียดมาก แต่น้อมรับทุกคำติชม คุณแม่ก็พอทราบข่าวบ้าง เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่มีใครรู้จักเราเท่าตัวเราเอง ได้กำลังใจจากคนรอบข้างและครอบครัว มันไม่ใช่ทุกคนที่เกลียดเรา ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ชอบเรา ก็ยังมีคนมาให้กำลังใจเรา อยู่เคียงข้างเรา

อยากให้พูดถึงตอนที่ไปศัลยกรรมที่เกาหลีบ้าง บรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : ตอนนั้นก็กังวลมากว่าเราจะเข้ากับคนอื่นได้ไหม เพราะต้องไปกับพี่ ๆ อีก 12 คน ไม่รู้จักกันมาก่อน จะปรับตัวยังไง จะอยู่กันยังไง มันต่างบ้านต่างเมือง แต่พอไปอยู่จริง ๆ มันก็ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ให้อะไรเราหลาย ๆ อย่าง จนมารู้สึกว่าทุกคนเป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่งของเรา ก็สบายใจ มีความสุข

เห็นว่าตอนเราไปเรามีปัญหาเกี่ยวกับร่างกายของเราไม่พร้อมด้วย ?

          จุ๊บจิ๊บ : ไม่ใช่ร่างกายไม่พร้อมค่ะ แต่เหมือนเรามีผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ทำให้อาเจียนไปหลายรอบมาก ประมาณ 6 ชั่วโมงหลังผ่าตัดแล้วค่ะ



เราทำศัลยกรรมส่วนไหนบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : ก็ทำ ตา จมูก หลัก ๆ เลยผ่าขยับขากรรไกร แล้วก็ทำหน้าอกเพิ่มค่ะ

เห็นตัวเองครั้งแรกหลังศัลยกรรมแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : ภูมิใจค่ะ เรารู้สึกดีขึ้น ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะออกมาได้ขนาดนี้ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้การตอบรับถึงขนาดนี้มาก่อน เราก็ดีใจค่ะ

ชีวิตเปลี่ยนไหมก่อนและหลังศัลยกรรม ?

          จุ๊บจิ๊บ : เปลี่ยนไปเลยค่ะ เรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ กล้าใช้ชีวิตเปิดเผย กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าเข้าสังคมมากขึ้น


มีอะไรในร่างกายที่อยากศัลยกรรมเพิ่มอีกไหม ?

          จุ๊บจิ๊บ : ไม่มีแล้วค่ะ พอใจกับสิ่งที่มีแล้ว

กลับมาสวยแบบนี้มีหนุ่ม ๆ เข้ามาจีบบ้างไหม มีแฟนแล้วหรือยัง ?

          จุ๊บจิ๊บ : ก็มีบ้างค่ะ แต่ตอนนี้โสดค่ะ ยังไม่มีแฟนค่ะ

หลังจากนี้เราวางแผนชีวิตให้ตัวเองอย่างไรบ้าง ?

          จุ๊บจิ๊บ : ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 ก็จะตั้งใจเรียนให้จบอีกแค่ 2 ปี เพราะเรียนศึกษาศาสตร์ ต้องเรียน 5 ปี แล้วก็จะคว้าเกียรตินิยมมาให้แม่ให้ได้ค่ะ ส่วนเรื่องงานในวงการบันเทิงก็อยากเข้าค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไขว่คว้าไว้ ส่วนอีกความฝันคือเราอยากเป็นครู ถ้าเกิดว่าได้เป็นก็น่าจะโอเค และมันก็เป็นอาชีพที่มั่นคงด้วย

อยากให้ฝากถึงคนที่กำลังดูเราหน่อย ?

          จุ๊บจิ๊บ : ก็ขอบคุณกระแสตอบรับ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกคำติ คำชม จะพยายามนำสิ่งที่ได้รับไปทำให้เกิดประโยชน์ที่สุดและจะนำไปทำตามฝันของตัวเองให้ถึงที่สุดด้วย...ขอบคุณค่ะ