กราบสวัสดีแฟนเพจชาวอัพยิ้มทุกท่าน
กลับมาพบกันเหมือนเดิมอีกเช่นเคยกับสาวย้อ พลัดถิ่น
และวันนี้ก็มีข่าวสารบ้านเมืองมาให้ได้ติดตามกันอีกเหมือนเดิม
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีสำหรับอดีตผู้ประกาศข่าวในรายการเรื่องเล่าเช้านี้
“ต๊ะ
พิภู”ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้ลาออกจาการเป็นผู้ประกาศข่าวของทางรายการดัง
แต่ยังไม่ได้มีโอกาสเปิดใจถึงสาเหตุที่ต้องออก
ล่าสุดทางเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงสาเหตุที่ต้องออกจากรายการ
ส่วนจะเป็นยังไงนั้น เราไปอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมกันเลยค่ะ
วันที่ 19 ธ.ค. ที่อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ‘อั๋น-ภูวนาถ คุนผลิน’ เปิดตัวผู้ประกาศข่าวคนใหม่ ‘ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้ว’ ที่จะมาเสริมทัพกับจีเอ็มเอ็มนิวส์ ในรายการเช้าวันนี้ โดย อั๋น เผยว่า “ถือเป็นเรื่องใหม่แกะกล่องสำหรับเรา แต่ไม่ได้ใหม่แกะกล่องสำหรับเรา และไม่ได้ใหม่แกะกล่องสำหรับวงการข่าว เพราะว่าจริงๆก็เป็นคนข่าวอยู่แล้ว แต่เป็นการร่วมงานด้วยกันครั้งแรกในปี 2018 เริ่มวันปีใหม่เป็นวันแรกเลย ดีใจและตื่นเต้นที่ได้ร่วมงาน คือเรารู้จักอยู่แล้วว่าเป็นต๊ะ แต่ว่ายังไม่เคยร่วมงานกันจริงจัง ส่วนเรื่องของฝีมือหรือผลงาน ก็เห็นกันอยู่แล้ว ก็เกือบจะไม่มีคำถามอะไรตรงนั้น อยู่ที่เราคุยกันและก็แนวทางของข่าวและเรื่องส่วนตัว นโยบายของช่อง ทิศทางของช่อง คุยกันตรงๆ เปิดใจทุกอย่าง เราบอกจุดอ่อน เราบอกจุดด้อยก่อนซึ่งเป็นเรื่องดี การทำงานด้วยกันตอนนี้เราคิดว่าเราขาดอะไรบ้าง เราด้อยอะไรบ้าง เรามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่ออยากให้เขาสบายใจว่าเราคิดว่าเขาจะสามารถมาช่วยเราตรงจุดไหนได้บ้าง คนมองตรงนี้ เราอ่อนตรงนี้ ในส่วนที่ต๊ะจะมาเติมให้กับเราคือ หลักๆข่าวเช้าของเรามี 2 คนเป็นหลัก แต่ปีหน้านี้เราจะมีคนหลักเป็น 3 คนเลย และปีหน้าจะเพิ่มเวลาเป็น 2 ชั่วโมงเต็ม จะชัดขึ้น เต็มขึ้น แข็งแรงขึ้น รอบด้านขึ้น”
ทำไมถึงตัดสินใจมาร้วมงานกับจีเอ็มเอ็ม
ต๊ะ “ใช้หลายเหตุผม ซึ่งหลายเหตุผลอยู่เหนือความรู้สึก เริ่มจากคุณธรรม ความจริงใจ ความเหมาะสม เวลา รวมทั้งเรื่องเงินด้วย เพราะว่าเส้นทางวงการข่าวของผม ปีหน้าเป็นปีที่ 10 ผมผ่านอะไรมาพอสมควร ก็เริ่มทบทวนว่าต้องการ หรือไปต่ออะไรยังไง ชื่อเสียงมั้ย อย่างที่พี่อั๋นพูดว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด แต่ว่าคนที่จะเป็นผู้ประกาศข่าว ที่จะทำให้คนสนใจหรืออยากดูเราทุกวัน ส่วนนี้ต้องสร้างขึ้น ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือสามารถถ่าย โพสต์ได้เพราะว่ามีโทรศัพท์มือถือ แต่ว่าคนที่สามารถคิดวิเคราะห์ ใช้ประสบการณ์ชีวิต หรือว่ามีจรรยาบรรณพอที่จะกลั่นกรองก่อนที่จะนำเสนอข่าวนั้นๆ แล้วทำให้คนเชื่อหรือสนใจ ก็จะต้องเป็นคนที่ทำงานในสายข่าวนี้จริงๆ ผมคิดว่าหลังจากที่คิดทบทวนตนเองอยู่สักพักหนึ่ง ซึ่งจริงๆมีข้อเสนออยู่หลายที่ แต่ว่าดูแล้วด้วยเหตุผลหลายๆข้อครับ พี่อั๋นเป็นคนแรกๆที่เขาติดต่อ อาจจะเป็นเขารู้ก่อน แต่ผมเองก็เริ่มตัดสินใจว่าจะมาที่จีเอ็มเอ็มได้ไม่ถึง 10 วันโดยประมาณ อย่างที่บอกผมใช้ความจริงใจ พี่อั๋นเปิดอกคุยกับผมตั้งแต่แรก อะไรไม่ดีพูดกันก่อน อย่างนี้เท่ดี ทางด้านมุมของผมเรียกว่าคุณธรรม เส้นทางสายงานของผมทุกครั้งที่ผมไปลงที่ไหนก็ตามแต่ ต้องมีคนที่มีผลกระทบเกิดขึ้น คือมันไม่ได้ผิดที่ผม แต่มันก็ทำให้เขาต้องไปตรงจุดอื่นอย่างนี้ ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดแบบนั้น ซึ่ง ณ ตอนนี้วงการนี้อยู่ยากพอสมควร ก็ไม่อยากให้กระทบกับใคร ส่วนเรื่องความเหมาะสมก็เป็นเรื่องของเวลาในการทำงาน มีข้อเสนอจากที่อื่นจริง แต่ว่าบางที่ผมไม่อยากอยู่ในช่วงเวลานั้น ผมอยากอยู่เช้า เพราะผมตื่นเช้า และได้อยู่กับพี่อั๋นด้วย”
มีกระแสออกมาว่า ที่ต้องออกมาเพราะเรตติ้งรายการก่อนหน้านี้ไม่ดี
ต๊ะ “ผมก็ยอมรับครับว่าเป็นอย่างนั้นจริง แต่ว่าผมไม่ได้โทษตัวเองทั้งหมด แต่ก็ต้องมีส่วนที่ผมเองต้องรับผิดชอบด้วย การทำงานทุกอย่างเป็นทีม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าผู้ใหญ่คนที่วางแผนทั้งหมดมองว่าต้องมีคนรับผิดชอบ ผมก็พร้อมจะเป็นคนรับผิดชอบในจุดนั้น แต่ผมอยากจะบอกว่าที่เก่าก่อนที่ผมจะก้าวเข้าไป สถานการณ์ก็ไม่ดีอยู่แล้ว ผมไม่มีความสามารถที่จะฉุดหรือดึงขึ้นมาให้ดีกว่าเดิมได้ ผมยอมรับส่วนนี้อย่างลูกผู้ชาย ซึ่งทุกอย่างอยู่ในการเจรจาตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าผมทำไม่ได้ก็พร้อมที่จะเดินออกมาเอง”
เสียใจไหม คนมองในแง่ไม่ดี
ต๊ะ “แล้วแต่เลยครับ ผมไม่เสียใจเพราะรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น ผมรู้ว่าผมทำได้แค่ไหน ผมรู้ว่าหน้าที่หรือกรอบถูกว่าไว้แค่ไหน ผมทำเต็มที่แล้ว ผมห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่คนที่รู้ความจริงมีอยู่ไม่กี่คน แต่ระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าสุดท้ายเป็นเพราะผมหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมพร้อมรับผิดชอบเสมอ”
ที่ออกมานี้ สบายใจหรือแบกความกดดันออกมาด้วย
ต๊ะ “พูดตามตรง ออกมาสบายใจกว่าตอนอยู่ ตอนที่อยู่กดดันกว่า แต่มาที่นี่ก็พร้อมจะแบกรับความกดดันเหมือนกัน เราก็บอกกับพี่อั๋นว่าเราก็ดูกันปีต่อปี ถ้ามาแล้วไม่เวิร์คผมก็พร้อมที่จะไปเหมือนกัน”
ตั้งเป้าไว้อย่างไหน จะมาเติมเต็มในส่วนของจีเอ็มเอ็มนิวส์
ต๊ะ “ผมจะพยายามยังไม่ก้าวก่ายอะไร จะทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน แต่เมื่อเริ่มเป็นส่วนผสมหนึ่งที่อยู่กันไปเรื่อยๆก็อยากจะช่วยเพิ่มบทบาทคิด วิเคราะห์ ช่วยสร้างทีมหลายๆอย่าง ผมมาตรงนี้จุดหนึ่งคืออยากเติบโตและสร้างไปด้วยกัน จีเอ็มเอ็มมีจุดแข็งเยอะแต่ผมคิดว่ายังไม่ใช่ข่าว และถ้าผมมาแล้วช่วยสร้างตรงนี้ได้ ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมทำการบ้านมาพอสมควร ถึงขนาดไปดูตัวเลขว่าทุกเช้าที่ผมอยู่ มีคนดูประมาณกี่คน อะไรยังไง ก็มีตั้งเป้าไว้ว่าอยากเพิ่มไปเท่าไหร่ มีการทำการบ้านของผมเอง ในส่วนตัวเลขขอไม่ชี้แจง ถามว่าเตรียมอะไรมาบ้าง เอาตรงๆเตรียมตัวกับหัวใจที่เหลือมาลุยหน้างานเอาตรงนี้ครับ ประสบการณ์ที่เราเตรียมมากับความตั้งใจ แค่นั้นผมก็ว่ามากเกินพอแล้วครับ”
รายการข่าวเช้ามีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ เตรียมรับกับตรงนี้ยังไงบ้าง
ต๊ะ “ต้องยอมรับว่าเราต้องทำให้ทุกคนเปิดโอกาสให้เราก่อนครับ มันก็มีเจ้าใหญ่ๆ อยู่ในตลาดตอนข่าวเช้าอยู่แล้ว เพราะเป็นสนามแข่งที่โหดที่สุดตอนนี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเจ้าพ่อวงการสื่อท่านนึงเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นเรตติ้งก็กระจายออกไป มันเลยกลายเป็นสงครามที่ทุกคนทุ่มสัพพะกำลังเพื่อแข่งขันดึงเรตติ้งตอนเช้า ถ้าใครที่ทำการบ้านแล้วเช็กมาบ้าง ตอนนี้จะมีอยู่ 3 ที่ ที่ครองส่วนแบ่งเรตติ้งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมตั้งเป้าหมายไว้ในใจเอง แต่ยังไม่มีโอกาสคุยกับพี่อั๋นตรงๆ ว่าถ้าเราสามารถดึงและแบ่งเข้ามาได้ทีละนิดหน่อย ด้วยความเป็นเราที่ไม่ใช่แค่ผม เราก็ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้วครับ”
แสดงว่าค่อนข้างเปิดโอกาสให้ต๊ะมีส่วนร่วมในการทำรายการข่าว
อั๋น “นั่นคือความตั้งใจครับ แต่ว่ามันยังไม่ถึงขนาดว่าเปิดมาแล้ว ตอนนี้ยังครับ ตอนนี้เราก็อยู่ในระหว่างปรับกัน เราต้องเข้ากันให้ได้ก่อน ซึ่งวันนี้ตอนแรกก็คิดว่าเราจะเข้ากันยังไงนะ เพราะแน่นอนว่าเราก็เป็นเรา เขาก็เป็นเขา หมอเอิงก็อีกคนหนึ่งที่เป็นหมอเอิง เราจะหาส่วนผสมใหม่ยังไงให้เป็นส่วนผสมที่ลงตัว คือทุกคนต้องปรับเข้าหากันหมดเลย แต่มันเป็นธรรมชาตินะ เมื่อเช้าเราก็มีลองเล่าข่าวกันในแบบของเรา ลองดูสิว่าจะเป็นยังไง หารือกันว่าจะแบ่งยังไง ถนัดแบบไหน ต่างๆกัน แต่พอลองแล้วหมอเอิงพูดเลยว่ามันจะต้องดีมากเลย ผมก็บอกว่าใช่ ซึ่งตอนแรกแอบกังวลนิหน่อยว่า เขาจะมาแนวแบบรายงานอย่างจริงจังขนาดไหน เราจะปรับยังไงกัน แต่พอลองแทบจะไม่ต้องบอกอะไรกันเลย สุดท้ายก็เสร็จแล้วนึกออกเลยว่าวันที่ 1 ก็เริ่มได้เลย”
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเรื่องราวที่สาวย้อ พลัดถิ่นได้นำมาฝากกันในวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับหนุ่มต๊ะด้วยนะคะ เชื่อว่าทำดีที่สุดแล้ว และแฟนคลับก็คงจะคิดแบบนั้นเช่นกัน
วันที่ 19 ธ.ค. ที่อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ‘อั๋น-ภูวนาถ คุนผลิน’ เปิดตัวผู้ประกาศข่าวคนใหม่ ‘ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้ว’ ที่จะมาเสริมทัพกับจีเอ็มเอ็มนิวส์ ในรายการเช้าวันนี้ โดย อั๋น เผยว่า “ถือเป็นเรื่องใหม่แกะกล่องสำหรับเรา แต่ไม่ได้ใหม่แกะกล่องสำหรับเรา และไม่ได้ใหม่แกะกล่องสำหรับวงการข่าว เพราะว่าจริงๆก็เป็นคนข่าวอยู่แล้ว แต่เป็นการร่วมงานด้วยกันครั้งแรกในปี 2018 เริ่มวันปีใหม่เป็นวันแรกเลย ดีใจและตื่นเต้นที่ได้ร่วมงาน คือเรารู้จักอยู่แล้วว่าเป็นต๊ะ แต่ว่ายังไม่เคยร่วมงานกันจริงจัง ส่วนเรื่องของฝีมือหรือผลงาน ก็เห็นกันอยู่แล้ว ก็เกือบจะไม่มีคำถามอะไรตรงนั้น อยู่ที่เราคุยกันและก็แนวทางของข่าวและเรื่องส่วนตัว นโยบายของช่อง ทิศทางของช่อง คุยกันตรงๆ เปิดใจทุกอย่าง เราบอกจุดอ่อน เราบอกจุดด้อยก่อนซึ่งเป็นเรื่องดี การทำงานด้วยกันตอนนี้เราคิดว่าเราขาดอะไรบ้าง เราด้อยอะไรบ้าง เรามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่ออยากให้เขาสบายใจว่าเราคิดว่าเขาจะสามารถมาช่วยเราตรงจุดไหนได้บ้าง คนมองตรงนี้ เราอ่อนตรงนี้ ในส่วนที่ต๊ะจะมาเติมให้กับเราคือ หลักๆข่าวเช้าของเรามี 2 คนเป็นหลัก แต่ปีหน้านี้เราจะมีคนหลักเป็น 3 คนเลย และปีหน้าจะเพิ่มเวลาเป็น 2 ชั่วโมงเต็ม จะชัดขึ้น เต็มขึ้น แข็งแรงขึ้น รอบด้านขึ้น”
ทำไมถึงตัดสินใจมาร้วมงานกับจีเอ็มเอ็ม
ต๊ะ “ใช้หลายเหตุผม ซึ่งหลายเหตุผลอยู่เหนือความรู้สึก เริ่มจากคุณธรรม ความจริงใจ ความเหมาะสม เวลา รวมทั้งเรื่องเงินด้วย เพราะว่าเส้นทางวงการข่าวของผม ปีหน้าเป็นปีที่ 10 ผมผ่านอะไรมาพอสมควร ก็เริ่มทบทวนว่าต้องการ หรือไปต่ออะไรยังไง ชื่อเสียงมั้ย อย่างที่พี่อั๋นพูดว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด แต่ว่าคนที่จะเป็นผู้ประกาศข่าว ที่จะทำให้คนสนใจหรืออยากดูเราทุกวัน ส่วนนี้ต้องสร้างขึ้น ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือสามารถถ่าย โพสต์ได้เพราะว่ามีโทรศัพท์มือถือ แต่ว่าคนที่สามารถคิดวิเคราะห์ ใช้ประสบการณ์ชีวิต หรือว่ามีจรรยาบรรณพอที่จะกลั่นกรองก่อนที่จะนำเสนอข่าวนั้นๆ แล้วทำให้คนเชื่อหรือสนใจ ก็จะต้องเป็นคนที่ทำงานในสายข่าวนี้จริงๆ ผมคิดว่าหลังจากที่คิดทบทวนตนเองอยู่สักพักหนึ่ง ซึ่งจริงๆมีข้อเสนออยู่หลายที่ แต่ว่าดูแล้วด้วยเหตุผลหลายๆข้อครับ พี่อั๋นเป็นคนแรกๆที่เขาติดต่อ อาจจะเป็นเขารู้ก่อน แต่ผมเองก็เริ่มตัดสินใจว่าจะมาที่จีเอ็มเอ็มได้ไม่ถึง 10 วันโดยประมาณ อย่างที่บอกผมใช้ความจริงใจ พี่อั๋นเปิดอกคุยกับผมตั้งแต่แรก อะไรไม่ดีพูดกันก่อน อย่างนี้เท่ดี ทางด้านมุมของผมเรียกว่าคุณธรรม เส้นทางสายงานของผมทุกครั้งที่ผมไปลงที่ไหนก็ตามแต่ ต้องมีคนที่มีผลกระทบเกิดขึ้น คือมันไม่ได้ผิดที่ผม แต่มันก็ทำให้เขาต้องไปตรงจุดอื่นอย่างนี้ ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดแบบนั้น ซึ่ง ณ ตอนนี้วงการนี้อยู่ยากพอสมควร ก็ไม่อยากให้กระทบกับใคร ส่วนเรื่องความเหมาะสมก็เป็นเรื่องของเวลาในการทำงาน มีข้อเสนอจากที่อื่นจริง แต่ว่าบางที่ผมไม่อยากอยู่ในช่วงเวลานั้น ผมอยากอยู่เช้า เพราะผมตื่นเช้า และได้อยู่กับพี่อั๋นด้วย”
มีกระแสออกมาว่า ที่ต้องออกมาเพราะเรตติ้งรายการก่อนหน้านี้ไม่ดี
ต๊ะ “ผมก็ยอมรับครับว่าเป็นอย่างนั้นจริง แต่ว่าผมไม่ได้โทษตัวเองทั้งหมด แต่ก็ต้องมีส่วนที่ผมเองต้องรับผิดชอบด้วย การทำงานทุกอย่างเป็นทีม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าผู้ใหญ่คนที่วางแผนทั้งหมดมองว่าต้องมีคนรับผิดชอบ ผมก็พร้อมจะเป็นคนรับผิดชอบในจุดนั้น แต่ผมอยากจะบอกว่าที่เก่าก่อนที่ผมจะก้าวเข้าไป สถานการณ์ก็ไม่ดีอยู่แล้ว ผมไม่มีความสามารถที่จะฉุดหรือดึงขึ้นมาให้ดีกว่าเดิมได้ ผมยอมรับส่วนนี้อย่างลูกผู้ชาย ซึ่งทุกอย่างอยู่ในการเจรจาตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าผมทำไม่ได้ก็พร้อมที่จะเดินออกมาเอง”
เสียใจไหม คนมองในแง่ไม่ดี
ต๊ะ “แล้วแต่เลยครับ ผมไม่เสียใจเพราะรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น ผมรู้ว่าผมทำได้แค่ไหน ผมรู้ว่าหน้าที่หรือกรอบถูกว่าไว้แค่ไหน ผมทำเต็มที่แล้ว ผมห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่คนที่รู้ความจริงมีอยู่ไม่กี่คน แต่ระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าสุดท้ายเป็นเพราะผมหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมพร้อมรับผิดชอบเสมอ”
ที่ออกมานี้ สบายใจหรือแบกความกดดันออกมาด้วย
ต๊ะ “พูดตามตรง ออกมาสบายใจกว่าตอนอยู่ ตอนที่อยู่กดดันกว่า แต่มาที่นี่ก็พร้อมจะแบกรับความกดดันเหมือนกัน เราก็บอกกับพี่อั๋นว่าเราก็ดูกันปีต่อปี ถ้ามาแล้วไม่เวิร์คผมก็พร้อมที่จะไปเหมือนกัน”
ตั้งเป้าไว้อย่างไหน จะมาเติมเต็มในส่วนของจีเอ็มเอ็มนิวส์
ต๊ะ “ผมจะพยายามยังไม่ก้าวก่ายอะไร จะทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน แต่เมื่อเริ่มเป็นส่วนผสมหนึ่งที่อยู่กันไปเรื่อยๆก็อยากจะช่วยเพิ่มบทบาทคิด วิเคราะห์ ช่วยสร้างทีมหลายๆอย่าง ผมมาตรงนี้จุดหนึ่งคืออยากเติบโตและสร้างไปด้วยกัน จีเอ็มเอ็มมีจุดแข็งเยอะแต่ผมคิดว่ายังไม่ใช่ข่าว และถ้าผมมาแล้วช่วยสร้างตรงนี้ได้ ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมทำการบ้านมาพอสมควร ถึงขนาดไปดูตัวเลขว่าทุกเช้าที่ผมอยู่ มีคนดูประมาณกี่คน อะไรยังไง ก็มีตั้งเป้าไว้ว่าอยากเพิ่มไปเท่าไหร่ มีการทำการบ้านของผมเอง ในส่วนตัวเลขขอไม่ชี้แจง ถามว่าเตรียมอะไรมาบ้าง เอาตรงๆเตรียมตัวกับหัวใจที่เหลือมาลุยหน้างานเอาตรงนี้ครับ ประสบการณ์ที่เราเตรียมมากับความตั้งใจ แค่นั้นผมก็ว่ามากเกินพอแล้วครับ”
รายการข่าวเช้ามีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ เตรียมรับกับตรงนี้ยังไงบ้าง
ต๊ะ “ต้องยอมรับว่าเราต้องทำให้ทุกคนเปิดโอกาสให้เราก่อนครับ มันก็มีเจ้าใหญ่ๆ อยู่ในตลาดตอนข่าวเช้าอยู่แล้ว เพราะเป็นสนามแข่งที่โหดที่สุดตอนนี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเจ้าพ่อวงการสื่อท่านนึงเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นเรตติ้งก็กระจายออกไป มันเลยกลายเป็นสงครามที่ทุกคนทุ่มสัพพะกำลังเพื่อแข่งขันดึงเรตติ้งตอนเช้า ถ้าใครที่ทำการบ้านแล้วเช็กมาบ้าง ตอนนี้จะมีอยู่ 3 ที่ ที่ครองส่วนแบ่งเรตติ้งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมตั้งเป้าหมายไว้ในใจเอง แต่ยังไม่มีโอกาสคุยกับพี่อั๋นตรงๆ ว่าถ้าเราสามารถดึงและแบ่งเข้ามาได้ทีละนิดหน่อย ด้วยความเป็นเราที่ไม่ใช่แค่ผม เราก็ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้วครับ”
แสดงว่าค่อนข้างเปิดโอกาสให้ต๊ะมีส่วนร่วมในการทำรายการข่าว
อั๋น “นั่นคือความตั้งใจครับ แต่ว่ามันยังไม่ถึงขนาดว่าเปิดมาแล้ว ตอนนี้ยังครับ ตอนนี้เราก็อยู่ในระหว่างปรับกัน เราต้องเข้ากันให้ได้ก่อน ซึ่งวันนี้ตอนแรกก็คิดว่าเราจะเข้ากันยังไงนะ เพราะแน่นอนว่าเราก็เป็นเรา เขาก็เป็นเขา หมอเอิงก็อีกคนหนึ่งที่เป็นหมอเอิง เราจะหาส่วนผสมใหม่ยังไงให้เป็นส่วนผสมที่ลงตัว คือทุกคนต้องปรับเข้าหากันหมดเลย แต่มันเป็นธรรมชาตินะ เมื่อเช้าเราก็มีลองเล่าข่าวกันในแบบของเรา ลองดูสิว่าจะเป็นยังไง หารือกันว่าจะแบ่งยังไง ถนัดแบบไหน ต่างๆกัน แต่พอลองแล้วหมอเอิงพูดเลยว่ามันจะต้องดีมากเลย ผมก็บอกว่าใช่ ซึ่งตอนแรกแอบกังวลนิหน่อยว่า เขาจะมาแนวแบบรายงานอย่างจริงจังขนาดไหน เราจะปรับยังไงกัน แต่พอลองแทบจะไม่ต้องบอกอะไรกันเลย สุดท้ายก็เสร็จแล้วนึกออกเลยว่าวันที่ 1 ก็เริ่มได้เลย”
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเรื่องราวที่สาวย้อ พลัดถิ่นได้นำมาฝากกันในวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับหนุ่มต๊ะด้วยนะคะ เชื่อว่าทำดีที่สุดแล้ว และแฟนคลับก็คงจะคิดแบบนั้นเช่นกัน