ลุง รปภ. “โดนคนดูถูก” รถหรูที่ขับตามมา รีบลงจากรถแล้วพูดประโยคหนึ่ง ทำชายที่ดูถูกลุง รปภ. ถึงกับสำนึกผิดแทบไม่ทัน

วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ จากสำนักข่าวต่างประเทศมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โดยเรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงหวังอายุ 65 ปี ลูกชายของแกแต่งงานเมื่อสิบปีก่อน แกต้องขายบ้านเก่าถึงจะมีเงินพอซื้อบ้านในเมือง จากชนบทสู่เมืองไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องใช้เงิน เห็นถึงลูกชายที่ต้องแบกรับภาระหนักก็ทำให้แกเดือดร้อนใจ จึงตัดสินใจแบ่งเบาภาระของลูกชาย

คุณลุงหวังที่เห็นว่าร่างกายตนเองยังไหวก็ได้ออกไปหางาน รปภ. ดูแลลานจอดรถ หน้าที่คือการโบกรถเข้าออกเวลางาน งานจะยุ่งหน่อยก็ตอนเข้างานกับเลิกงาน เวลาที่เหลือก็แค่คอยดูแลความปลอดภัยของรถ คุณลุงหวังเห็นว่างานนี้ได้เงินเดือนถึง 2,000 หยวนต่อเดือน (ราว 10,000 บาท) ด้วยงานที่หามาไม่ง่าย จึงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

เพราะเมื่อไปหางานก็ติดตรงที่อายุเยอะ จึงไม่ค่อยมีใครรับเข้าทำงาน งานที่ได้มานี้ก็เพราะไปขอความเห็นใจจากหัวหน้า รปภ. ลูกชายของคุณลุงหวังเป็นเด็กที่กตัญญู ไม่ได้อยากให้พ่อไปทำงาน แต่พ่อยืนยันจะไป ลูกชายเป็นห่วงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงคอยแวะไปเยี่ยมและไปส่งข้าว

วันนี้ตอนเก้าโมง ลานจอดรถเต็มไม่มีที่ว่าง มีรถคันหนึ่งได้บีบแตรเพื่อแสดงว่าต้องการจะจอดรถ คุณลุงหวังจึงรีบวิ่งถึงรถคันนั้นพร้อมพูดว่า “ขออภัยด้วยเพื่อนร่วมงาน ไม่มีที่ว่างให้จอดรถแล้ว ลองไปหาที่อื่นดูนะ”

คนขับรถได้พูดว่า “เพื่อนร่วมงานอะไรล่ะ รีบหาที่จอดรถให้ฉัน”

คุณลุงรีบตอบกลับไปว่า “ไม่มีที่ว่างแล้วจริงๆ ถ้ามีที่ว่างจะไม่ให้จอดเหรอ?”

คนขับรถ “เป็นไปไม่ได้ พวกแกนั่นแหละที่ขี้เกียจ ไม่งั้นคงไม่มาทำงาน เพื่อเงินเดือนอันน้อยนิดแค่นี้หรอก บอกให้ไปหาก็ไปหาสิ พูดมากอยู่ได้”

คุณลุงก็ยังคงอธิบายให้ฝ่ายตรงข้าม “ไม่มีที่จอดแล้วจริงๆ ผมจะโกหกคุณทำไมล่ะ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองขับวนมาหาดูไหม?”

คนขับรถพูด “รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร มีตาหามีแววไม่ ฉันเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายการตลาด!”

คนขับรถยิ่งพูดยิ่งเมามัน ด่าคุณลุงด้วยคำหยาบคาย คุณลุงจึงตอบกลับด้วยความโมโห “คุณมีสิทธิอะไรมาด่าผม ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ผิด”

ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าเป็นแค่ รปภ. ยังกล้าเถียงกับตน จึงลงจากรถเพื่อจะต่อยคุณลุง ในขณะนั้น มีรถหรูที่ขับตามมาข้างหลังก็ได้บีบแตร ผู้จัดการหวังด่ากลับ “กดหาพระแสงอะไร ไม่เห็นเหรอว่ากรู…” หันกลับไปเห็นว่าเป็นรถของท่านประธานก็พูดอะไรไม่ออก

คุณลุงหวังเห็นชายวัยกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายลงจากรถเดินมุ่งมาหาตน ผู้จัดการที่ทำตัวดุเมื่อกี้ก็สงบเสงี่ยมลงทันที พร้อมกับพูดว่า “ท่านประธานมาแล้ว” ท่านประธานเดินผ่านไปหาชายแก่โดยไม่สนใจคำทักทาย พร้อมเปิดปากเรียก “พ่อ” ได้ยินท่านประธานเรียก รปภ.ว่าพ่อ คนขับรถคนนั้นถึงกับอึ้ง!!

ไม่อยากเชื่อว่าชายแก่ รปภ. จะเป็นถึงพ่อของท่านประธาน เข่าทรุดฉี่เกือบราด แล้วมองชายแก่ รปภ.ด้วยสายตารู้สึกผิด ท่านประธานยังพูดอีกว่า “ผมบอกพ่อแล้วว่าไม่ต้องออกมาโบกรถข้างนอก พ่อก็ไม่ยอมฟัง ยังไงก็ต้องระวังสุขภาพด้วยนะครับ”

คุณลุงหวังเจอเรื่องแบบนี้ถึงกับช็อค ตกใจจนทำตัวไม่ถูก ท่านประธานพูดจบก็หันกลับมาว่าผู้ชายคนนั้น “คุณไม่มีสิทธิดูถูกคนอื่น เพราะทุกคนก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี” ผู้จัดการหวังรีบตอบกลับ “ใช่แล้วครับๆ ท่านประธานพูดถูก”

ท่านประธาน “เดี๋ยวเชิญมาพบผมที่ห้อง” ชายคนนั้นรู้ผิดก็สายไปซะแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ได้แต่มองตามท่านประธานและรีบวิ่งไปพูดกับชายแก่ “ผมขอโทษครับเจ้าสัว (พ่อของท่านประธาน) ผมผิดเองที่มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าท่านเป็นพ่อของท่านประธาน อย่าถือสาคนอย่างผมเลยนะ”

ท่านประธานเดินเข้าออฟฟิศ ผู้ช่วยจึงถามขึ้นว่า “ท่านประธานครับ นั่นไม่ใช่เจ้าสัวนี่? เจ้าสัวยังอยู่ที่บ้านไม่ใช่เหรอครับ” ท่านประธานมองไปที่ผู้ช่วยแล้วหัวเราะ “คุณคิดว่าจะมีวิธีไหนอีกล่ะที่จะทำให้ผู้จัดการหวังกลัว?” ผมแค่เรียกคุณลุงรปภว่าพ่อเอง ผมว่าผู้จัดการหวังคงไม่กล้าไปดูถูกใครอีก ผู้ช่วยที่เห็นท่านประธานหัวเราะชอบใจ ลึกๆ ในใจก็ปลื้มในความรักและแผนการ

แท้จริงแล้วรถของท่านประธานตั้งใจตามรถผู้จัดการถึงลานจอดรถ แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นรถที่ตามหลังมา ท่านประธานเห็นถึงเหตุการ์ณทั้งหมด จึงรีบรถจากรถมาแสดงฉากนี้!!

“ผมอยากให้เขารับรู้ว่างานทุกอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการที่มีตำแหน่งใหญ่ ใช่ว่าจะทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล หรือใช้อำนาจข่มขู่คนอื่นไปเรื่อยได้!”

 

แหล่งที่มา: LIEKR