Home »
Uncategories »
“กระทรวงพลังงาน” เปิดรับประชาชน จดทะเบียนยื่นใช้โซล่าเซลล์ พ.ค 62 และรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน หน่วยละ.!
“กระทรวงพลังงาน” เปิดรับประชาชน จดทะเบียนยื่นใช้โซล่าเซลล์ พ.ค 62 และรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน หน่วยละ.!
รมว.พลังงาน ร่วมกับ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
เปิดตัวโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน”
ให้เจ้าของบ้านและอาคารที่อยู่อาศัยที่ต้องการติดตั้งแผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง
สามารถเชื่อมกับระบบไฟฟ้าของประเทศ
และขายผลผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้เข้าสู่ระบบได้ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวเปิดการแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ
“โซลาร์ภาคประชาชน” ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่า
ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 24
มกราคม 2562 ได้มีมติเห็นชอบแผนการพัฒนาระบบไฟฟ้าฉบับใหม่ PDP2018
ในการเสริมสร้างระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศที่มั่นคง
ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ในราคาที่ส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศสามารถแข่งขันได้
และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ด้วยการใช้วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีตามแนวพัฒนาประเทศสู่ Thailand 4.0
ให้เป็นระบบไฟฟ้าทันสมัยให้สามารถรองรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและมาตรการอนุรักษ์พลังงานได้สูงถึง
35% ในปี 2580 ซึ่งการใช้ แผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Photo
Voltaic Solar Cell) ถือเป็นส่วนสำคัญของแ
ผนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว ในสัดส่วนมากกว่า 50%
ด้วยกำลังผลิตติดตั้งรวม 12,725 MW
และจากนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง
ให้สามารถเชื่อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบไฟฟ้าของประเทศ
และขายผลผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้ในบางเวลาเข้าสู่ระบบได้
ซึ่งนอกจากจะประหยัดค่าไฟฟ้าแล้ว
ยังมีรายได้เสริมจากการขายไฟฟ้าส่วนที่เหลืออีกด้วย
โครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ที่ กกพ. เปิดตัวในวันนี้
เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)
ที่ได้กำหนดหลักการโครงการนำร่องการรับจดทะเบียนเจ้าของบ้านและอาคาร
ที่เป็นเจ้าของมิเตอร์ ประเภทบ้านอยู่อาศัย
ที่ต้องการติดตั้งแผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง
สามารถเชื่อมกับระบบไฟฟ้าของประเทศ
และขายผลผลิตไฟฟ้าส่วนเกินความต้องการใช้ เข้าสู่ระบบได้
ในขนาดการติดตั้งประมาณ 100 MW ต่อปี เป็นระยะเวลา 10 ปี
โดยคาดว่าจะเริ่มรับจดทะเบียนได้ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
และในขณะเดียวกัน
รัฐบาลก็จะได้ออกมาตรการสนับสนุนให้ผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์และผู้ประกอบการติดตั้งระบบในประเทศ
และสถาบันอาชีวะศึกษา ให้มีส่วนร่วมในธุรกิจการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบ
ที่ในแต่ละปีคาดว่าจะมีการติดตั้งประมาณ 10,000 20,000 ระบบ
เป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท
ตลอดระยะเวลาโครงการ 10 ปี ทั้งนี้หลักการของโครงการจะได้มีการนำเสนอ โดย
กกพ. ในลำดับต่อไป
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า
ภายใต้นโยบายของ กกพ. ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูล การสร้างความเข้าใจ
และการสร้างความโปร่งใส ในกระบวนการพิจารณาทุกขั้นตอน
ให้กับประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน
จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการฯประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดเป็นไปตามเป้าหมาย
และนโยบายของรัฐบาล
“การประกาศรับซื้อไฟฟ้าภายใต้โครงการโซลาร์ภาคประชาชนครั้งนี้
จะเป็นมิติใหม่ในการกำกับดูแลภาคพลังงานของ กกพ. เพราะนอกเหนือจากการที่
กกพ. ออกระเบียบและหลักเกณฑ์ในการจัดหาไฟฟ้า
และออกประกาศเชิญชวนตามปกติแล้ว กกพ. ยังจะอำนวยความสะดวกด้านการให้ข้อมูล
และการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจ
และยืนยันทุกคนจะได้รับการพิจารณาอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม” นายเสมอใจ
สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการ ประกอบด้วย
1. สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
จะเริ่มกระบวนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562
โดยประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลได้ที่
02-207-3599 หรือติดตามจากเว็บไซต์ สำนักงาน กกพ. ที่ www.erc.or.th
และเว็บไซต์ของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทั้ง 2 แห่ง
2.
เปิดรับลงทะเบียนสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ของการไฟฟ้านครหลวงและเว็บไซต์
ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
และหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี 2562
3. ทยอยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาโดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562
4. กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายในปี 2562
นายเสมอใจ กล่าวว่า
อยากให้ประชาชนได้มีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย
โดยเฉพาะการพิจารณาผลประโยชน์ที่จะได้รับ ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวประชาชน
จะต้องมีการลงทุนเพื่อติดตั้งระบบ ดังนั้น
ควรต้องคำนึงถึงความคุ้มทุนที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุนด้วย
ซึ่งความคุ้มค่าการลงทุนจะขึ้นกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นหลัก
และอยากให้มีการเปรียบเทียบ กับปริมาณความต้องการ และช่วงเวลา
ในการใช้ไฟฟ้า เช่น หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมากอยู่แล้ว
ระยะเวลาในการคุ้มทุนย่อมเร็วกว่า เป็นต้น
นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงาน กกพ. เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์การประกาศรับซื้อไฟฟ้าภายใต้โครงการฯ ประกอบด้วย
1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ :
1.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า
1.2 เป็นผู้ที่มีเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าประเภทที่ 1 ตามประกาศอัตราค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย
ไม่เกิน 10 KW ต่อครัวเรือน
2. เป้าหมาย และปริมาณการรับซื้อรวม 100 เมกะวัตต์ :
2.1. พื้นที่การไฟฟ้านครหลวงรวม 30 เมกะวัตต์
2.2. พื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครวม 70 เมกะวัตต์
3. เงื่อนไขในการพิจารณา และข้อยกเว้น :
การพิจารณาแบบเรียงลำดับก่อนหลังตามความพร้อม (First come First served)
โดยจะยึดถือวันและเวลาที่ได้รับแบบคำขอที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารหลักฐานที่กำหนดเป็นสำคัญ
4. ราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินในอัตราไม่เกิน 1.68 บาท/หน่วย ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี