“เจ๊อ้อย” จากพนักงานเงินเดือนหลักหมื่น ผันตัวมาเป็นแม่ค้าหมูทอด รายได้หลักแสนต่อเดือน

หากแค่พูดปากเปล่า ไม่มีหลักฐานมาแสดงให้เห็น คงไม่มีใครจะเชื่อว่า จากพนักงานเงินเดือนหลักหมื่น ต้องผันตัวมาเป็นแม่ค้า แต่กลับสร้างรายได้ได้มากกว่างานประจำเสียอีก นั่นก็คือ ร้านหมูทอดของคนสู้ชีวิต “เจ๊อ้อยข้าวเหนียวหน้าหมู” ผู่มีข้อคิอ “ล้มก็ลุกได้” ไม่เคยอายที่จะทำกิน

ช่วงแปดโมงเช้าถือเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนของเหล่าพนักงานออฟฟิศ โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองอย่างอารีย์ แต่ใครจะรู้ว่าในซอยเล็ก ๆ ข้างตึกพหลโยธินเซ็นเตอร์นั้น จะมีของกินที่รูปลักษณ์ภายนอกดูธรรมดา แต่เรื่องราวของเจ้าของร้านนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ยิ่งคนในพื้นที่ต่างรู้จักดีในความเด็ดของร้าน “เจ๊อ้อยข้าวเหนียวหน้าหมู”

ข้าวเหนียวหมูทอดอารีย์ที่ถึงแม้จะไม่ได้มีประวัติความเป็นมายาวนานนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กับร้านอื่น ๆ ในแถบนั้นเลยทีเดียว วันนี้เราเลยพาเพื่อน ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับ คุณธัญรัศม์ นาคประเสริฐ เจ้าของร้าน “เจ๊อ้อยข้าวเหนียวหน้าหมู” ที่เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไป

ชีวิตรุ่งเรืองดีมีความสุข เงินเดือนหลักหมื่น (สมัย พ.ศ. 2538) จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเจ๊อ้อยพลิกผัน จากพนักงานออฟฟิศแต่งตัวสวย เป็นฝ่ายขๅยอยู่ในห้องแอร์ ต้องถอดสูททิ้งแล้วมาจกข้าวเหนียวแทน

เจ๊อ้อยเล่าให้เราฟังว่า ช่วงนั้นเริ่มเข้าสู่ยุคฟองสบู่แตก ในปี พ.ศ. 2540 บริษัทขๅยตรงที่ว่าทำท่าจะไปไม่รอด เจ๊อ้อยที่ฐานเงินเดือนสูงลิ่วก็เสีຍวสันหลัง เสี่ยงต่อการโดนบังคับออกอย่างมาก

เพราะต่อให้เก่งขนาดไหน แต่ถ้าเศรษฐกิจซบเซาขนาดนี้ยังไงบริษัทก็คงแบกไว้ไม่ไหว แล้วก็เป็นไปตามคาด ทางบริษัทหาข้ออ้างในการหักเงินเดือนเจ๊อ้อยทุกทาง จนสุดท้ายต้องตัดสินใจลาออกในที่สุด

แม้บทบาทในการเป็นพนักงานขๅยจะจบลง แต่ชีวิตของเจ๊อ้อยในวัย 40 ปีก็ต้องดำเนินต่อไป เธอเลยตัดสินใจตระเวนหางานทำไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเร่ขๅยเครื่องสำอาง ขๅยสลัด ลอดช่อง รวมไปถึงรับจ้างล้างจานวันลະ 100 บาท ก็ยังไม่มีใครอยากรับเข้าทำงาน ด้วยเศรษฐกิจที่แสนฝืดเคืองในยุคนั้น

จนสุดท้ายก็มาลงเอยที่การค้าขๅยเหมือนเดิม เจ๊อ้อยมีแรงบันดาลใจในการขๅยข้าวเหนียวหมูจากความชอบของตัวเองล้วน ๆ ซึ่งก็คือ การห่อใบตอง เจ๊อ้อยบอกว่า

การห่อข้าวเหนียวหมูด้วยใบตอง มันให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ แถมยังไม่สิ้นเปลืองวัสดุอีกด้วย และหลังจากวันนั้นก็มีการปรับสูตรมาเรื่อย ๆ จากที่เคยรับของคนอื่นมาขๅย ก็เปลี่ยนเป็นคิดค้นสูตรเอง ทำเองกับมือ จนลูกค้าติดใจในรสชาติ คนมุงร้านเยอะมาก

ซึ่งแน่นอนว่าเมนูยอดฮิตที่ใครไปต้องได้ชิมคือ “ข้าวเหนียวหมูสามชั้นทอดกรอบ” (30 บาท) เนื้อหมูที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี มีมันแทรกนิด ๆ กินเพลิน ไม่เลี่ยนมาก ต่อด้วย “ข้าวเหนียวเนื้อเค็มแดดเดียว” (50 บาท) เนื้อวัวที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการตากแห้ง ก่อนนำมาทอด มีความมันและเค็มนิด ๆ กินกับข้าวเหนียวคือเข้ากันสุด ๆ

และสุดท้าย “ข้าวเหนียวหมูรวมมิตร” (60 บาท) ถ้าเลือกชิมไม่ถูกต้องเมนูนี้เลย เพราะจัดเต็มหมูหลากรสไม่ว่าจะเป็น หมูฝอย, หมูสามชั้น, หมูพริกไทยดำ, หมูแผ่น และไก่ทอดทรงเครื่อง แถมยังสั่งน้ำพริกโรยเพิ่มความแซ่บได้อีกด้วย

เจ๊อ้อยยังบอกกับเราอีกว่า แรก ๆ ที่ตั้งโต๊ะขๅยอยู่ริมถนน ความรู้สึกคืออายมาก ไม่กล้าเงยหน้ามองใครเลย เพราะกลัวลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานจะมาเห็นเราในสภาพนี้ แต่พอขๅยได้สามวัน ก็ถามตัวเองว่า เราจะอายไปในทำไม ในเมื่อเราทำกินในอาชีพสุจริต ไม่ได้เบียดเบียนใคร

หลังจากวันนั้นเจ๊อ้อยก็มีคติประจำใจว่า “ล้มก็ต้องลุกได้” ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วสักวันมันจะดีขึ้นเอง เราที่ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นเยอะ เหมือนที่มีคนกล่าวไว้ว่า ท้องฟ้ามันเปลี่ยนสีได้ในทุก ๆ วัน ชีวิตคนเราก็มีสุขและทุกข์ปะปนกันไปเช่นกัน จะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรายอมรับปัญหาและพร้อมจะสู้ต่อไปมากน้อยเพียงใดเท่านั้uเอง

เจ๊อ้อยนำไอเดียจากลูกค้ามาพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง แบบห่อจะรองด้วยใบตอง 1 ชั้นตามด้วยกระดาษห่อข้าวมันไก่ และแบบกล่องสำหรับนำไปต่างประเทศหรือจัดเลี้ยง และที่พลาดไม่ได้คือ เคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เจ้าตัว บอกว่า ใช้เคล็ดลับง่ายๆ 3 ข้อคือ ใส่ใจ ทำให้ดีที่สุด และอย่าค้ากำไรเกินควร

“ถ้าทำค้าขๅย แล้วเอากำไรเกินควรเรียกว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้า”

สำหรับการเดินทางไปกินข้าวเหนียวหมูทอดอารีย์ก็ไม่ยากเลย เพราะร้าน “เจ๊อ้อยข้าวเหนียวหน้าหมู” ตั้งอยู่ถัดจากซอยสายลม ข้างตึกพหลโยธินเซ็นเตอร์ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ห่างไปแค่ 400 เมตรเท่านั้u แถมยังเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 – 19:00 น. ในวันจันทร์ถึงศุกร์ และ 06:00 – 15:00 น.

เมนูห้ามพลาด ข้าวเหนียวหมูสามชั้นทอดกรอบ, ข้าวเหนียวหมูฝอยกรอบ, ข้าวเหนียวหมูรวมมิตร

แผนที่

เข้ามาในซอยที่ปักหมุดแล้ว ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายเป็นบูท M2 2 บูธติดกัน

แหล่งที่มา: sentangsedtee

เรียบเรียงโดย baansuann.com