เปิดบันทึกสนทนาสาวชาวรัสเซียชอบดำน้ำลึกแบบฟรีไดรวิ่ง
และมีอาการป่วยทางจิตเป็นโรคกลัวไปหมด ต้องเข้าพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่แกะรอยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด
พร้อมแจ้งข่าวการหายตัวไปของสาวชาวรัสเซียตามโรงแรม ร้านบริการดำน้ำ
เรือทัวร์ โรงเรียนสอนดำน้ำ และตามช่องทางการสื่อสารออนไลน์ในกลุ่มเกาะเต่า
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้สือข่าวรายงานความคืบหน้าการหายตัวไปของ น.ส. วาเลนติน่า โนวาจีโอโนวา อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางมาเที่ยวที่เกาะเต่าตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 2560 และได้เข้าพักที่โรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ม.3 ถนนบ้านเก่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และมีผู้พบเห็น น.ส.วาเลนติน่า ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2560 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นหรือติดต่อได้อีกเลย จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 สัปดาห์ พบแต่เพียงทรัพย์สินของ น.ส.วาเลนติน่า อยู่ภายในห้องพัก จนในขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียรายนี้
ในเรื่องนี้ พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สภ.ย่อยเกาะเต่า ได้เปิดเผยว่าหลังจากได้รับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบโรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ที่น.ส.วาเลนติน่า ได้เข้าพัก พร้อมทำการตรวจสอบภายในห้องพักซึ่งเป็นห้องพักแบบรวม และตรวจดูทรัพย์สินของผู้สูญหายในกระเป๋าสะพายสีฟ้าประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ไอแพด กล้องถ่ายรูป กระเป๋าเงินภายในมีเงินสดจำนวน 960 บาท พร้อมด้วยบัตรเครดิต ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยผิดปกติในห้องพัก และทรัพย์สินยังอยู่ครบ พนักงานสอบสวนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนน แหล่งท่องเที่ยว ท่าเทียบเรือ และของบริษัทห้างร้านเอกชน แต่ยังไม่พบเบาะแส และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดนำภาพถ่ายเดินเท้าเข้าสอบถามและแจ้งการหายตัวไปของสาวชาวรัสเซียตามบริษัททัวร์ดำน้ำ และจุดบริการนักท่องเที่ยวต่างๆเพื่อหาเบาะแสให้ได้มากที่สุด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญล่ามแปลภาษาชาวรัสเซียมาอ่านข้อความในไอแพดของ น.ส.เวเลนติน่า ชาวรัสเซีย ผู้สูญหายรายนี้ พบว่าในแอพพลิเคชั่นพุดคุยสนทนา ว็อทแอพ ของวันที่ 3 ก.พ.โดยมีใจความว่า น.ส.วาเลนติน่าได้ส่งข้อความไปสอบถามจิตแพทย์ที่ประเทศรัสเซีย เล่าให้ฟังว่าตัวเองมีอาการกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุและสงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคโฟเบีย(Phobia) โดยหลังจากแพทย์ได้อ่านข้อความแพทย์ได้แนะนำกลับมาว่าให้นักท่องเที่ยวกลับไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสองครั้งแต่ต้องมาหาระยะยาว และในวันที่ 14 ก.พ. มีการพูดคุยกับเพื่อนว่า ตนเองสามารถดำน้ำแบบฟรีไดวิ่ง (เป็นการดำน้ำแบบไม่สวมชุดและไม่ใช้อุปกรณ์ดำน้ำ) ได้ลึกกว่า 22.3 เมตรแล้ว และจะดำให้ได้ลึกกว่านี้อีก หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดในแอพพลิเคชั่นอีกเลย
พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่เกาะเต่ายังระบุอีกว่า ได้ตรวจและเช็คข้อมูลไปยังสถานที่ใกล้เคียงยังไม่พบเหตุบ่งชี้ทางด้านอาชญากรรม หรือมีเรือพบผู้ประสพเหตุแต่อย่างใด ในเบื้องต้นคาดว่าอาจจะออกไปดำน้ำตามลำพังแล้วเกิดอุบัติเหตุก็อาจเป็นไป ส่วนการสอบถามเจ้าของโรงแรมที่มาแจ้งความล่าช้าไม่มีข้อสงสัยใดๆ เนื่องจากเบื้องต้นคิดว่า น.ส. วาเลนติน่า โนวาจีโอโนวา ชาวรัสเสีย อาจไปเที่ยวที่อื่น เพราะยังมีหนังสือเดินทางและเสื้อผ้าอยู่ที่ห้องพัก
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้สือข่าวรายงานความคืบหน้าการหายตัวไปของ น.ส. วาเลนติน่า โนวาจีโอโนวา อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางมาเที่ยวที่เกาะเต่าตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 2560 และได้เข้าพักที่โรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ม.3 ถนนบ้านเก่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และมีผู้พบเห็น น.ส.วาเลนติน่า ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2560 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นหรือติดต่อได้อีกเลย จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 สัปดาห์ พบแต่เพียงทรัพย์สินของ น.ส.วาเลนติน่า อยู่ภายในห้องพัก จนในขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียรายนี้
ในเรื่องนี้ พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สภ.ย่อยเกาะเต่า ได้เปิดเผยว่าหลังจากได้รับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบโรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ที่น.ส.วาเลนติน่า ได้เข้าพัก พร้อมทำการตรวจสอบภายในห้องพักซึ่งเป็นห้องพักแบบรวม และตรวจดูทรัพย์สินของผู้สูญหายในกระเป๋าสะพายสีฟ้าประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ไอแพด กล้องถ่ายรูป กระเป๋าเงินภายในมีเงินสดจำนวน 960 บาท พร้อมด้วยบัตรเครดิต ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยผิดปกติในห้องพัก และทรัพย์สินยังอยู่ครบ พนักงานสอบสวนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนน แหล่งท่องเที่ยว ท่าเทียบเรือ และของบริษัทห้างร้านเอกชน แต่ยังไม่พบเบาะแส และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดนำภาพถ่ายเดินเท้าเข้าสอบถามและแจ้งการหายตัวไปของสาวชาวรัสเซียตามบริษัททัวร์ดำน้ำ และจุดบริการนักท่องเที่ยวต่างๆเพื่อหาเบาะแสให้ได้มากที่สุด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญล่ามแปลภาษาชาวรัสเซียมาอ่านข้อความในไอแพดของ น.ส.เวเลนติน่า ชาวรัสเซีย ผู้สูญหายรายนี้ พบว่าในแอพพลิเคชั่นพุดคุยสนทนา ว็อทแอพ ของวันที่ 3 ก.พ.โดยมีใจความว่า น.ส.วาเลนติน่าได้ส่งข้อความไปสอบถามจิตแพทย์ที่ประเทศรัสเซีย เล่าให้ฟังว่าตัวเองมีอาการกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุและสงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคโฟเบีย(Phobia) โดยหลังจากแพทย์ได้อ่านข้อความแพทย์ได้แนะนำกลับมาว่าให้นักท่องเที่ยวกลับไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสองครั้งแต่ต้องมาหาระยะยาว และในวันที่ 14 ก.พ. มีการพูดคุยกับเพื่อนว่า ตนเองสามารถดำน้ำแบบฟรีไดวิ่ง (เป็นการดำน้ำแบบไม่สวมชุดและไม่ใช้อุปกรณ์ดำน้ำ) ได้ลึกกว่า 22.3 เมตรแล้ว และจะดำให้ได้ลึกกว่านี้อีก หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดในแอพพลิเคชั่นอีกเลย
พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่เกาะเต่ายังระบุอีกว่า ได้ตรวจและเช็คข้อมูลไปยังสถานที่ใกล้เคียงยังไม่พบเหตุบ่งชี้ทางด้านอาชญากรรม หรือมีเรือพบผู้ประสพเหตุแต่อย่างใด ในเบื้องต้นคาดว่าอาจจะออกไปดำน้ำตามลำพังแล้วเกิดอุบัติเหตุก็อาจเป็นไป ส่วนการสอบถามเจ้าของโรงแรมที่มาแจ้งความล่าช้าไม่มีข้อสงสัยใดๆ เนื่องจากเบื้องต้นคิดว่า น.ส. วาเลนติน่า โนวาจีโอโนวา ชาวรัสเสีย อาจไปเที่ยวที่อื่น เพราะยังมีหนังสือเดินทางและเสื้อผ้าอยู่ที่ห้องพัก