ทั้งนี้ นางงามคนดังที่ถูกกล่าวถึง ชาวบ้านต่างสงสัยว่าน่าจะเป็น "น้ำตาล"ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ซึ่งเคยมาร่วมงานบุญที่วัดอิติสุคโตหลายครั้ง และ"น้ำตาล"ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปว่า เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปรีชาจริง แต่แสงสีทองที่ถูกกล่าวถึงไม่ใช่เครื่องรางของขลัง แต่เป็นพรที่หลวงพ่อให้ไว้ก่อนไปประกวด โดยเคยสัญญาว่าถ้าได้มงกุฎจะกลับไปทำบุญ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเวลาว่างที่จะกลับไปทำบุญที่วัดแต่อย่างใด
ขณะที่บรรยากาศที่วัดอิติสุคโตนั้นพบว่า ยังคงเป็นไปตามปกติ พระภิกษุสงฆ์กว่า 40 รูป และอุบาสถอุบาสิกา ที่มาถือศิลที่วัดอีกกว่า 40 คน ยังคงทำงานตามหน้าที่ของตนเอง แต่ไร้เงาของอดีตเจ้าอาวาสวัดดัง
จากการสอบถามพระลูกวัดและอุบาสถอุบาสิกาภายในวัดต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ทราบว่าอดีตเจ้าอาวาสไปอยู่ที่ไหน ซึ่งทุกคนในวัดทราบเรื่องการลาลิกขาพร้อมๆกับญาติโยมหรือลูกศิษย์ของหลวงพ่อผ่านทางแฟนเพจของวัดเช่นเดียวกัน ซึ่งหลวงพ่อปรีชาไม่เคยบอกมาก่อนว่าจะลาลิกขา แต่เคยพูดเปรยๆมานานแล้วกับทุกคนในวัดว่า หากหลวงพ่อไม่อยู่ขอให้ทุกคนทำกิจตามปกติ แล้วบุญกุศลจะตกกับทุกคน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 มกราคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อที่ผ่านมา ทางวัดยังจัดงานทำบุญร่วมกับลูกศิษย์ของหลวงอยู่เลย จากนั้นราว 2 สัปดาห์ก็ไม่มีใครพบหลวงพ่อ ไม่มีใครทราบว่าท่านไปที่ใด และมาทราบข้อมูลว่าท่านลาลิกขาแล้วผ่านทางแฟนเพจดังกล่าว ซึ่งไม่มีใครในวัดทราบสาเหตุของการลาสิกขาที่แท้จริงของหลวงพ่อปรีชา
ส่วนแสงสีทองที่มีการกล่าวถึงนั้น ทางวัดก็ไม่ทราบว่าคืออะไร เพราะวัตถุมงคลที่ทางวัดมีให้ญาติโยมได้เช่าบูชานั้นก็เหมือนกับวัตถุมงคลทั่วไป คือมีพระรูปเหมือนหลวงพ่อ,ผ้ายันต์,ช้าง ฯลฯ แต่ไม่มีชิ้นไหนเรียกว่าแสงสีทองอย่างที่มีการกล่าวถึง
ทั้งนี้มีรายงานว่า พระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก ซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 ได้แต่งตั้งพระอธิการชรัตน์ ฐิตคุโณ หรือหลวงพ่อนก เจ้าอาวาสวัดหนองซอ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้รักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอิติสุคโตเป็นการชั่วคราว เนื่องจากหลวงพ่อนกเคยบวชเรียนอยู่ที่วัดอิติสุคโต
