สวัสดีครับเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน วันนี้ก็มาพบกับซาลาเปาแอดมินอัพยิ้ม
อีกเช่นเคย
และวันนี้ซาลาเปาแอดมินอัพยิ้มจะมีเรื่องราวสาระน่ารู้อะไรมาฝากกัน
ต้องติดตามครับ
และวันนี้เรื่องราวที่ซาลาเปาแอดมินอัพยิ้มได้นำมาฝากในวันนี้ต้องบอกเลยครับว่า
สำคัญเป็นอย่างมาก กับชีวิตประจำวัน นั้นก็คือเรื่องราวที่เกี่ยวกับไข่
ที่เราทานกันอยู่ในทุกๆวันและแน่นอนครับ
ว่าไข่ทำได้หลากหลายเมนูแต่รู้หรือไม่
ว่าเป็นเรื่องที่ผิดหรือถูกที่ทานไข่พวกนี้อยู่เป็นประจำ
วันนี้ซาลาเปาก็เลย ได้เอา 25 ประโยชน์ของการทานไข่
มาฝากกันครับไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร
1. อุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ และแร่ธาตุมากมายหลากหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค
2. ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่า เปปไทด์ในไข่สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตในเลือดสูงได้
3. เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโปรตีนอยู่ถึง 6 กรัม ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้
4. มีไขมันโอเมก้า 3 ไข่เป็นอาหารที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
5. อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ ไข่ถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหารที่ดีกับสุขภาพ เหตุหนึ่งก็เพราะไข่เป็นแหล่งสะสมของกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกายถึง 9 ชนิดเลยทีเดียว
6. บำรุงสมองและระบบประสาท ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโคลีน (Choline) มากถึง 20% ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง
7. อุดมด้วย ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีความสำคัญกับสุขภาพดวงตา ทั้งนี้ยังช่วยปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความเสี่ยงโรคจอประสาทเสื่อมได้อีกด้วย
8. มีทริปโตเฟน (Tryptophan) และ ไทโรซีน (Tyrosine) ไข่มีกรดอะมิโนที่สำคัญอยู่มากมาย โดยเฉพาะ 2 ชนิดนี้ ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ทริปโตเฟนยังเป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปช่วยสร้างสารเซโรโทนิน ช่วยทำให้อารมณ์ดี และยังเปลี่ยนเป็นสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับอีกด้วย
9. มีวิตามินบี 12 สูง นอกจากจะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว วิตามินบี 12 ในไข่ยังเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในกระบวนการแปลงโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ตัวร้าย ให้กลายเป็นโมเลกุลที่ปลอดภัยต่อร่างกาย อย่างเช่น กลูต้าไธโอน เป็นต้น
10. แหล่งอุดมแคลเซียม ไข่มีแคลเซียมสูงถึง 50 มิลลิกรัม หรือ 5% ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้การรับประทานไข่ทุกวันยังช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและการเกิดติ่งเนื้อเมือกในลำไส้ใหญ่อีกด้วย
11. ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ สารโคลีนที่อยู่ในไข่เป็นสารอาหารสำคัญในการช่วยลดการอักเสบอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
12. ลดความพิการตั้งแต่กำเนิด หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ต้องการโฟเลตในปริมาณที่มากกว่าปกติเพื่อสร้างเสริมให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ และในไข่นั้นมีปริมาณโฟเลตอยู่ถึง 44 ไมโครกรัม คิดเป็น 11% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
13. แหล่งวิตามินเอที่สำคัญ วิตามินอีกชนิดที่มีมากในไข่ที่เรารับประทานนั้นก็คือวิตามินเอ ซึ่งมีถึง 19% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินเอทำหน้าที่สำคัญในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
14. บำรุงผมและเล็บ สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะซัลเฟอร์สามารถช่วยบำรุงดูแลสุขภาพผมและเล็บได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องเล็กเปราะหักได้ง่ายควรจะรับประทานไข่อ
15. ป้องกันสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ สารเซเรเนียมในไข่เป็นแร่ธาตุสำคัญซึ่งทำหน้าที่ลดการถูกทำลายของเซลล์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งและเนื้องอก โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
16. ช่วยในการมองเห็นและลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ไข่ไม่ได้เพียงแต่ช่วยลดการเกิดจอประสาทตาเสื่อมเท่านั้น แต่สารต้านอนุมูลอิสระในไข่ยังช่วยป้องกันดวงตาจากการทำลายของรังสียูวี และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกเมื่อแก่ตัวลงได้อีกด้วย
17. สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากวิตามินหลากหลายชนิดแล้วไข่ยังมีธาตุเหล็กที่ทำหน้าที่สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เป็นไปอย่างปกติอีกด้วย
18. ช่วยลดน้ำหนัก จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยลุยเซียนาพบว่าคนที่รับประทานไข่ในมื้้อเช้าสามารถลดน้ำหนัก และมีแรงมากกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นขนมปัง
19. เป็นของแหล่งวิตามินดี วิตามินดี เป็นแร่ธาตุสำคัญที่สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยไข่หนึ่งฟองมีวิตามินดีถึง 41 ยูนิต หรือ7 % ของปริมาณวิตามินดีที่ควรได้รับต่อวัน
20. ลดอาการอักเสบ อาการอักเสบในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน อัลไซเมอร์ หรือแม้แต่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และสารที่ช่วยในการลดการอักเสบในร่างกายก็คือโคลีน ที่สามารถหาได้ในไข่ลูกกลม ๆ นี่ล่ะ
21. มีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ โคลีนในไข่เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ สารอาหารดังกล่าวจะเข้าไปช่วยพัฒนาสมองและป้องกันการเกิดความผิดปกติในท่อประสาทอีกด้วย
22. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารอาหารในไข่สามารถช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายและโรคหลอดเลือดหัวใจได้
23. บำรุงความจำ ปริมาณแร่ธาตุและวิตามินในไข่ที่สูงสามารถช่วยสร้างเสริมการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ได้
24. ราคาไม่แพง ไข่เป็นอาหารที่มีราคาไม่แพงและสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ยิ่งถ้าหากอยากให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ควรซื้อไข่ที่สดใหม่จากฟาร์ม หรือจะเลี้ยงไก่ไข่ไว้เก็บไข่กินก็ได้เหมือนกันนะคะ
25. ทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะต้ม ตุ๋น เจียว ทอด ไข่ก็สามารถทำได้หมดเลยล่ะค่ะ และถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็ลองเติมผัก หรือสมุนไพรลงไปปรุงได้ รับรองได้ประโยชน์เพียบ
กินไข่วันละกี่ฟองถึงจะเหมาะสม?
ในไข่ไก่และไข่เป็ด 1 ฟอง จะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 250 มิลลิกรัม ซึ่งจากข้อมูลสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำว่าคนเราควรได้รับคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกายไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลจากการทานไข่มากเกินไป ก็ควรทานในปริมาณดังนี้
– เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ให้กินไข่แดงต้มสุกผสมกับข้าวบด ให้ครั้งแรกปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิด
– เด็กอายุ 7 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยรุ่น บริโภคได้วันละ 1 ฟอง
– คนทำงาน สุขภาพปกติ ควรบริโภค 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
– ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไข่ 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
เป็นยังไงกันบ้างล่ะครับ สำหรับคนชอบกินไข่ต้องบอกเลยว่าดีอย่างมากมาย มีแต่ดีกับดีนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น อาหารทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ มาพร้อมๆกัน อยู่ที่เรา จะทานอย่างไรให้ได้คุณประโยชน์ให้มากที่สุดนั่นเอง
1. อุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ และแร่ธาตุมากมายหลากหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค
2. ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่า เปปไทด์ในไข่สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตในเลือดสูงได้
3. เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโปรตีนอยู่ถึง 6 กรัม ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้
4. มีไขมันโอเมก้า 3 ไข่เป็นอาหารที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
5. อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ ไข่ถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหารที่ดีกับสุขภาพ เหตุหนึ่งก็เพราะไข่เป็นแหล่งสะสมของกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกายถึง 9 ชนิดเลยทีเดียว
6. บำรุงสมองและระบบประสาท ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโคลีน (Choline) มากถึง 20% ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง
7. อุดมด้วย ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีความสำคัญกับสุขภาพดวงตา ทั้งนี้ยังช่วยปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความเสี่ยงโรคจอประสาทเสื่อมได้อีกด้วย
8. มีทริปโตเฟน (Tryptophan) และ ไทโรซีน (Tyrosine) ไข่มีกรดอะมิโนที่สำคัญอยู่มากมาย โดยเฉพาะ 2 ชนิดนี้ ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ทริปโตเฟนยังเป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปช่วยสร้างสารเซโรโทนิน ช่วยทำให้อารมณ์ดี และยังเปลี่ยนเป็นสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับอีกด้วย
9. มีวิตามินบี 12 สูง นอกจากจะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว วิตามินบี 12 ในไข่ยังเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในกระบวนการแปลงโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ตัวร้าย ให้กลายเป็นโมเลกุลที่ปลอดภัยต่อร่างกาย อย่างเช่น กลูต้าไธโอน เป็นต้น
10. แหล่งอุดมแคลเซียม ไข่มีแคลเซียมสูงถึง 50 มิลลิกรัม หรือ 5% ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้การรับประทานไข่ทุกวันยังช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและการเกิดติ่งเนื้อเมือกในลำไส้ใหญ่อีกด้วย
11. ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ สารโคลีนที่อยู่ในไข่เป็นสารอาหารสำคัญในการช่วยลดการอักเสบอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
12. ลดความพิการตั้งแต่กำเนิด หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ต้องการโฟเลตในปริมาณที่มากกว่าปกติเพื่อสร้างเสริมให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ และในไข่นั้นมีปริมาณโฟเลตอยู่ถึง 44 ไมโครกรัม คิดเป็น 11% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
13. แหล่งวิตามินเอที่สำคัญ วิตามินอีกชนิดที่มีมากในไข่ที่เรารับประทานนั้นก็คือวิตามินเอ ซึ่งมีถึง 19% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินเอทำหน้าที่สำคัญในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
14. บำรุงผมและเล็บ สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะซัลเฟอร์สามารถช่วยบำรุงดูแลสุขภาพผมและเล็บได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องเล็กเปราะหักได้ง่ายควรจะรับประทานไข่อ
15. ป้องกันสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ สารเซเรเนียมในไข่เป็นแร่ธาตุสำคัญซึ่งทำหน้าที่ลดการถูกทำลายของเซลล์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งและเนื้องอก โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
16. ช่วยในการมองเห็นและลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ไข่ไม่ได้เพียงแต่ช่วยลดการเกิดจอประสาทตาเสื่อมเท่านั้น แต่สารต้านอนุมูลอิสระในไข่ยังช่วยป้องกันดวงตาจากการทำลายของรังสียูวี และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกเมื่อแก่ตัวลงได้อีกด้วย
17. สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากวิตามินหลากหลายชนิดแล้วไข่ยังมีธาตุเหล็กที่ทำหน้าที่สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เป็นไปอย่างปกติอีกด้วย
18. ช่วยลดน้ำหนัก จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยลุยเซียนาพบว่าคนที่รับประทานไข่ในมื้้อเช้าสามารถลดน้ำหนัก และมีแรงมากกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นขนมปัง
19. เป็นของแหล่งวิตามินดี วิตามินดี เป็นแร่ธาตุสำคัญที่สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยไข่หนึ่งฟองมีวิตามินดีถึง 41 ยูนิต หรือ7 % ของปริมาณวิตามินดีที่ควรได้รับต่อวัน
20. ลดอาการอักเสบ อาการอักเสบในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน อัลไซเมอร์ หรือแม้แต่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และสารที่ช่วยในการลดการอักเสบในร่างกายก็คือโคลีน ที่สามารถหาได้ในไข่ลูกกลม ๆ นี่ล่ะ
21. มีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ โคลีนในไข่เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ สารอาหารดังกล่าวจะเข้าไปช่วยพัฒนาสมองและป้องกันการเกิดความผิดปกติในท่อประสาทอีกด้วย
22. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารอาหารในไข่สามารถช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายและโรคหลอดเลือดหัวใจได้
23. บำรุงความจำ ปริมาณแร่ธาตุและวิตามินในไข่ที่สูงสามารถช่วยสร้างเสริมการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ได้
24. ราคาไม่แพง ไข่เป็นอาหารที่มีราคาไม่แพงและสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ยิ่งถ้าหากอยากให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ควรซื้อไข่ที่สดใหม่จากฟาร์ม หรือจะเลี้ยงไก่ไข่ไว้เก็บไข่กินก็ได้เหมือนกันนะคะ
25. ทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะต้ม ตุ๋น เจียว ทอด ไข่ก็สามารถทำได้หมดเลยล่ะค่ะ และถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็ลองเติมผัก หรือสมุนไพรลงไปปรุงได้ รับรองได้ประโยชน์เพียบ
กินไข่วันละกี่ฟองถึงจะเหมาะสม?
ในไข่ไก่และไข่เป็ด 1 ฟอง จะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 250 มิลลิกรัม ซึ่งจากข้อมูลสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำว่าคนเราควรได้รับคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกายไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลจากการทานไข่มากเกินไป ก็ควรทานในปริมาณดังนี้
– เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ให้กินไข่แดงต้มสุกผสมกับข้าวบด ให้ครั้งแรกปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิด
– เด็กอายุ 7 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยรุ่น บริโภคได้วันละ 1 ฟอง
– คนทำงาน สุขภาพปกติ ควรบริโภค 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
– ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไข่ 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
เป็นยังไงกันบ้างล่ะครับ สำหรับคนชอบกินไข่ต้องบอกเลยว่าดีอย่างมากมาย มีแต่ดีกับดีนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น อาหารทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ มาพร้อมๆกัน อยู่ที่เรา จะทานอย่างไรให้ได้คุณประโยชน์ให้มากที่สุดนั่นเอง