จินตรา สุขพัฒน์ เปิดใจ เผยงานหดหาย บางช่วงนานถึง 8 เดือน จนต้องยืมเงินเพื่อนในวงการ แย้มเรื่องหัวใจโสดมา 15 ปีแล้ว
อยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 33 ปี เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักอดีตนางเอก แหม่ม จินตรา สุขพัฒน์ แน่นอน เพราะเธอมีผลงานการแสดงมากว่า 100 เรื่องแล้ว มาวันนี้เธอได้มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ถึงเรื่องการทำงานในวงการของเธอ ไปจนถึงข่าวเม้าท์ที่ว่าเธอตกอับถึงขั้นต้องวิ่งยืมเงินเพื่อนในวงการมาใช้หนี้
ในวงการบันเทิงอยู่มากี่ปีแล้ว ?
แหม่ม จินตรา : ประมาณ 33 ปี เข้ามาตั้งแต่ปลายปี 2527 หนังมีประมาณ 70 เรื่อง ละครประมาณ 90 กว่าเรื่อง ก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักแสดงก็ถ่ายโฆษณา ตอนที่เราเรียนพาณิชย์ช่วงที่ปิดเทอมก็ไปรับพาร์ทไทม์ที่โตโยต้า แถวสุริยวงศ์ แล้วทีนี้คนของบริษัทเดนสึเค้าก็เดินเข้า ๆ ออก ๆ โตโยต้า เค้าก็เห็นเราหน้าตาน่ารักดี ก็ให้เราไปเทสหน้ากล้องทิ้งไว้ ถ่ายรูปทิ้งไว้ พอมีงานก็ไปตามเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ผ้าอนามัยลอรีเอะคนแรกนะ แล้วทางไฟว์สตาร์ก็เห็นโฆษณาเราก็เลยติดต่อไปเล่นหนัง
วันหนึ่งรับงานหนังละครพร้อมกันกี่เรื่องในยุคนั้น ?
แหม่ม จินตรา : ตอนเซ็นสัญญาเล่นหนัง ปีหนึ่งจะรับ 7-8 เรื่องต่อปี รับแบบเรื่องต่อเรื่อง พอหมดเรื่องนี้ทางไฟว์สตาร์ก็จะให้ไปเล่นกับผู้กำกับอีกคนหนึ่ง จะมีพระเอกคู่ขวัญคือพี่หนุ่ม สันติสุข พอมาเล่นละคร เราไม่มีทางรับได้เยอะเลย อาทิตย์หนึ่งเราก็จะได้แค่ 2 เรื่อง
หลาย ๆ คนบอกว่าพี่แหม่มเป็นคนดุ ?
แหม่ม จินตรา : ถ้าเกิดเป็นคนไม่สนิทกันพี่ก็จะนิ่ง ๆ พอเราไม่ยิ้มไม่อะไรเราก็จะหน้าดุ
อะไรที่ทำให้พี่หงุดหงิด ?
แหม่ม จินตรา : บางทีก็คุยกันไม่รู้เรื่อง อย่างในกองถ่ายให้เรามารอนาน พอเราขอคิวก็ไม่ให้ แต่พอนัดมานัดเรามาแต่เช้า แต่ให้เรามารอนาน เราก็ไม่เป็นไร แต่บางทีมันบ่อยไปมันก็เบื่อเหมือนกัน เราก็ไม่เคยไปวีนเค้านะ แต่มันก็ทำให้เราหงุดหงิดในใจ อย่างบางครั้งเราบอกว่าเราเป็นคนแขนใหญ่นะ ไม่ใส่แขนกุด แต่สุดท้ายเค้าก็เอาชุดแขนกุดมาให้ เราถามว่ามีตัวอื่นมั้ย เค้าก็บอกไม่มี เราก็จะทำไม บางอย่างพี่บอกแล้ว อย่างเอากางเกงพี่มั้ย เป็นไซส์ของพี่ พี่ก็จะพูดตรง ๆ พอเราพูดทีหนึ่งเค้าก็จะกลัวกัน เพราะเราเป็นคนหน้าดุ
เราเคยมีช่วงว่างที่เราไม่ได้ทำงานมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : มี พอเราว่างเราก็ต้องหาอะไรทำ บางทีว่าง 7-8 เดือนก็มีนะ ช่วงที่เป็นรอยต่อว่าเราจะไปเป็นนางเอก พี่นางเอก หรือแม่ดีนะ
ถ้าว่างเยอะขนาดนี้ เอาเงินที่ไหนมาใช้ ?
แหม่ม จินตรา : ก็เอาเงินเก่า ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะพี่เป็นคนเวลาที่ทำงานแล้วได้เงินมาก็จะเอาไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เลยไม่ค่อยมีเงินสด เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยจับเงิน 10 ล้านเลย เพราะพี่เอาเงินไปซื้ออสังหาฯ ช่วงเวลาที่ไม่มีเงินก็เอาสมบัติตรงนี้ไปขาย ได้ 5-6 หมื่นพี่ก็เอาแล้ว
เคยไปยืมเงินเพื่อนมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : มี พี่กอบสุขนี้พี่ยืมประจำ พอถึงเวลาเงินละครออกพี่ก็เอาไปคืนเค้า มากสุดคือ 5แสน พี่เป็นคนค่อนข้างใช้เงินมือเติบ แต่ว่าไม่ได้เอาไปเที่ยวอะไรนะ เอามาใช้กันในครอบครัวนี่แหละ คือเงินในบัญชีมันมีนะ แต่มันไม่ได้เยอะอะไร เลยทำให้เราไม่เคยจับเงินหลัก 10 ล้านไง อย่างบางทีถึงเวลาต้องเอาเงินเข้าบัญชี 5 แสน เรามีไม่ถึง ก็ไปหายืมเค้ามา พอเงินละครออกก็เอาเงินไปคืนเค้า แต่ไม่เคยถึงกับว่า ไม่มีเงินเลยไง ส่วนมากเราจะเป็นหนี้เงินเก็บมากกว่า
มีที่ทางเยอะขนาดไหน ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เยอะมาก อย่างที่ที่เชียงใหม่ก็มีประมาณ 8 ไร่ ห่างจากในเมืองประมาณ 8-9 กิโลเมตร เพชรบุรีเป็นที่ติดทะเล ในกรุงเทพฯ มีทาวน์โฮมอยู่สุขุมวิท 50 คือเราจะฟิกเงินฝากไว้ไง เริ่มทำประมาณ 6-7 ปีแล้ว ฝากปีละ 6 แสน พอถึงเวลาเราก็ต้องวิ่งหาเงินมาฝาก
เคยเป็นข่าวความรักกับ นิว อธิป ทองจินดา ?
แหม่ม จินตรา : เค้าเสียไปแล้วค่ะ ตั้งแต่เค้าอายุ 21 เค้าประสบอุบัติเหตุ นานแล้วค่ะ ตอนนั้นเล่นหนังด้วยกัน แต่ไม่มีซัมติงกันนะ เพราะเราเล่นหนังด้วยกันก็จะเป็นข่าว เหมือนข่าวคู่จิ้น
ตั้งแต่เกิดมา จนถึงตอนนี้เรามีแฟนแค่คนเดียวจริงเหรอ ?
แหม่ม จินตรา : ไม่ ที่มีส่วนมากจะเป็นคนนอกวงการ คือหลังจากพี่หนุ่ม สันติสุข พี่ก็มีแฟนเหมือนกัน แต่เป็นคนนอกวงการค่ะ
โสดมากี่ปีแล้ว ?
แหม่ม จินตรา : ตอนนี้สถานะโสดค่ะ 15 ปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 38 แล้วค่ะ คือเราก็ไม่ได้ตั้งใจโสดนะ แต่พี่ไม่มีแฟนก็อยู่ได้นะ คือเราก็มีคนคุยบ้าง แต่พอมันไม่ใช่พี่ก็ชิ่งเลย สเปคพี่เหรอ หน้าตาก็ต้องดูดีหน่อยนะ ชอบคนขาว ๆ สูง ๆ พี่หนุ่มไม่ใช่สเปคค่ะ แบบวิลลี่ได้อยู่
ถ้าโสดแล้วเป็นพ่อม่ายโอเคมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ถ้าเป็นพ่อม่ายโอเค แต่ก็ต้องดูนิสัยใจคอกันก่อนว่าเป็นยังไง คือคนเราก็ต้องมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน
ถ้าตอนนี้มีคนมาจีบ โอเคมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เอาแล้วดีกว่า พี่ไม่อยากไปยุ่งกับใคร ไม่อยากไปดูแลใคร ถ้าเป็นเด็ก ๆ มาชอบพี่ไม่เอาเลย เพราะว่าเราไม่อยากเลี้ยงเด็ก ไม่อยากดูแลใคร
อยู่มาได้ยังไง โสดมา 15 ปี ?
แหม่ม จินตรา : เราก็มีงานทำ มีเพื่อนฝูงในวงการ ถ้าแก่ตัวไปพี่ก็มีน้อง ๆ มีหลาน ๆ พี่ก็มีไง
จะออกจากวงการจริงเหรอ ?
แหม่ม จินตรา : มันก็ไม่ขนาดนั้น แต่เราก็ตั้งเป้าว่าสัก 60 ปี เราก็แก่แล้วนะ ถึงตอนนั้นเราก็ไม่ไหว ตอนนี้พี่ 53 แล้วไง เหลืออีก 7 ปี แต่จนถึงตอนนั้นเราต้องดูอีกทีว่ากำลังเราจะขับรถไหวมั้ย มันมีช่วงงานน้อยลงนะ ปีนี้พี่มีละครเรื่องเดียว ถามว่าเลือกมากมั้ยก็ไม่ได้มากอะไร ถ้าเล่นได้พี่เล่น แต่ถ้ามันเป็นบทร้าย ๆ กรี๊ดกร๊าด มันไม่ใช่คาแรกเตอร์เราเลย พี่ก็จะปฏิเสธ
เป็นคู่จิ้นกับพี่หนุ่ม สันติสุข มานาน เวลาเห็นพี่เค้าในทีวี เรามีนึกถึงมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เลย (หัวเราะ)
ถ้าวันนี้ย้อนกลับไป พี่จะเลิกกับเค้ามั้ย ?
แหม่ม จินตรา : เลิก (หัวเราะ) ไม่หรอก เพราะว่าเรารู้แล้วไงว่าการใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกัน จริง ๆ แล้วพี่กับพี่หนุ่ม เรานับถือกันเป็นพี่นะคะ พ่อแม่ ครอบครัวเราสนิทกัน รู้จักกัน เพราะเค้าไปเที่ยวกับครอบครัวพี่หนุ่มบ่อย ๆ ทุกวันนี้ทำงานด้วยกันเราก็สบายใจที่จะทำงานกับเค้า เรื่องอื่น ๆ เราไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ส่วนสาเหตุการเลิกกันมันเกิดจากการเบื่อหน่ายกันมากกว่า ตอนนั้นคบกันประมาณ 8 ปีค่ะ ถ้าจะมาถามว่าเพราะอะไร หรืออีกฝ่ายไม่ดี มันไม่ใช่ คนที่เปลี่ยนมันคือพี่ การใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกันค่ะ
อยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 33 ปี เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักอดีตนางเอก แหม่ม จินตรา สุขพัฒน์ แน่นอน เพราะเธอมีผลงานการแสดงมากว่า 100 เรื่องแล้ว มาวันนี้เธอได้มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ถึงเรื่องการทำงานในวงการของเธอ ไปจนถึงข่าวเม้าท์ที่ว่าเธอตกอับถึงขั้นต้องวิ่งยืมเงินเพื่อนในวงการมาใช้หนี้
ในวงการบันเทิงอยู่มากี่ปีแล้ว ?
แหม่ม จินตรา : ประมาณ 33 ปี เข้ามาตั้งแต่ปลายปี 2527 หนังมีประมาณ 70 เรื่อง ละครประมาณ 90 กว่าเรื่อง ก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักแสดงก็ถ่ายโฆษณา ตอนที่เราเรียนพาณิชย์ช่วงที่ปิดเทอมก็ไปรับพาร์ทไทม์ที่โตโยต้า แถวสุริยวงศ์ แล้วทีนี้คนของบริษัทเดนสึเค้าก็เดินเข้า ๆ ออก ๆ โตโยต้า เค้าก็เห็นเราหน้าตาน่ารักดี ก็ให้เราไปเทสหน้ากล้องทิ้งไว้ ถ่ายรูปทิ้งไว้ พอมีงานก็ไปตามเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ผ้าอนามัยลอรีเอะคนแรกนะ แล้วทางไฟว์สตาร์ก็เห็นโฆษณาเราก็เลยติดต่อไปเล่นหนัง
วันหนึ่งรับงานหนังละครพร้อมกันกี่เรื่องในยุคนั้น ?
แหม่ม จินตรา : ตอนเซ็นสัญญาเล่นหนัง ปีหนึ่งจะรับ 7-8 เรื่องต่อปี รับแบบเรื่องต่อเรื่อง พอหมดเรื่องนี้ทางไฟว์สตาร์ก็จะให้ไปเล่นกับผู้กำกับอีกคนหนึ่ง จะมีพระเอกคู่ขวัญคือพี่หนุ่ม สันติสุข พอมาเล่นละคร เราไม่มีทางรับได้เยอะเลย อาทิตย์หนึ่งเราก็จะได้แค่ 2 เรื่อง
หลาย ๆ คนบอกว่าพี่แหม่มเป็นคนดุ ?
แหม่ม จินตรา : ถ้าเกิดเป็นคนไม่สนิทกันพี่ก็จะนิ่ง ๆ พอเราไม่ยิ้มไม่อะไรเราก็จะหน้าดุ
อะไรที่ทำให้พี่หงุดหงิด ?
แหม่ม จินตรา : บางทีก็คุยกันไม่รู้เรื่อง อย่างในกองถ่ายให้เรามารอนาน พอเราขอคิวก็ไม่ให้ แต่พอนัดมานัดเรามาแต่เช้า แต่ให้เรามารอนาน เราก็ไม่เป็นไร แต่บางทีมันบ่อยไปมันก็เบื่อเหมือนกัน เราก็ไม่เคยไปวีนเค้านะ แต่มันก็ทำให้เราหงุดหงิดในใจ อย่างบางครั้งเราบอกว่าเราเป็นคนแขนใหญ่นะ ไม่ใส่แขนกุด แต่สุดท้ายเค้าก็เอาชุดแขนกุดมาให้ เราถามว่ามีตัวอื่นมั้ย เค้าก็บอกไม่มี เราก็จะทำไม บางอย่างพี่บอกแล้ว อย่างเอากางเกงพี่มั้ย เป็นไซส์ของพี่ พี่ก็จะพูดตรง ๆ พอเราพูดทีหนึ่งเค้าก็จะกลัวกัน เพราะเราเป็นคนหน้าดุ
เราเคยมีช่วงว่างที่เราไม่ได้ทำงานมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : มี พอเราว่างเราก็ต้องหาอะไรทำ บางทีว่าง 7-8 เดือนก็มีนะ ช่วงที่เป็นรอยต่อว่าเราจะไปเป็นนางเอก พี่นางเอก หรือแม่ดีนะ
ถ้าว่างเยอะขนาดนี้ เอาเงินที่ไหนมาใช้ ?
แหม่ม จินตรา : ก็เอาเงินเก่า ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะพี่เป็นคนเวลาที่ทำงานแล้วได้เงินมาก็จะเอาไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เลยไม่ค่อยมีเงินสด เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยจับเงิน 10 ล้านเลย เพราะพี่เอาเงินไปซื้ออสังหาฯ ช่วงเวลาที่ไม่มีเงินก็เอาสมบัติตรงนี้ไปขาย ได้ 5-6 หมื่นพี่ก็เอาแล้ว
เคยไปยืมเงินเพื่อนมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : มี พี่กอบสุขนี้พี่ยืมประจำ พอถึงเวลาเงินละครออกพี่ก็เอาไปคืนเค้า มากสุดคือ 5แสน พี่เป็นคนค่อนข้างใช้เงินมือเติบ แต่ว่าไม่ได้เอาไปเที่ยวอะไรนะ เอามาใช้กันในครอบครัวนี่แหละ คือเงินในบัญชีมันมีนะ แต่มันไม่ได้เยอะอะไร เลยทำให้เราไม่เคยจับเงินหลัก 10 ล้านไง อย่างบางทีถึงเวลาต้องเอาเงินเข้าบัญชี 5 แสน เรามีไม่ถึง ก็ไปหายืมเค้ามา พอเงินละครออกก็เอาเงินไปคืนเค้า แต่ไม่เคยถึงกับว่า ไม่มีเงินเลยไง ส่วนมากเราจะเป็นหนี้เงินเก็บมากกว่า
มีที่ทางเยอะขนาดไหน ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เยอะมาก อย่างที่ที่เชียงใหม่ก็มีประมาณ 8 ไร่ ห่างจากในเมืองประมาณ 8-9 กิโลเมตร เพชรบุรีเป็นที่ติดทะเล ในกรุงเทพฯ มีทาวน์โฮมอยู่สุขุมวิท 50 คือเราจะฟิกเงินฝากไว้ไง เริ่มทำประมาณ 6-7 ปีแล้ว ฝากปีละ 6 แสน พอถึงเวลาเราก็ต้องวิ่งหาเงินมาฝาก
เคยเป็นข่าวความรักกับ นิว อธิป ทองจินดา ?
แหม่ม จินตรา : เค้าเสียไปแล้วค่ะ ตั้งแต่เค้าอายุ 21 เค้าประสบอุบัติเหตุ นานแล้วค่ะ ตอนนั้นเล่นหนังด้วยกัน แต่ไม่มีซัมติงกันนะ เพราะเราเล่นหนังด้วยกันก็จะเป็นข่าว เหมือนข่าวคู่จิ้น
ตั้งแต่เกิดมา จนถึงตอนนี้เรามีแฟนแค่คนเดียวจริงเหรอ ?
แหม่ม จินตรา : ไม่ ที่มีส่วนมากจะเป็นคนนอกวงการ คือหลังจากพี่หนุ่ม สันติสุข พี่ก็มีแฟนเหมือนกัน แต่เป็นคนนอกวงการค่ะ
โสดมากี่ปีแล้ว ?
แหม่ม จินตรา : ตอนนี้สถานะโสดค่ะ 15 ปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 38 แล้วค่ะ คือเราก็ไม่ได้ตั้งใจโสดนะ แต่พี่ไม่มีแฟนก็อยู่ได้นะ คือเราก็มีคนคุยบ้าง แต่พอมันไม่ใช่พี่ก็ชิ่งเลย สเปคพี่เหรอ หน้าตาก็ต้องดูดีหน่อยนะ ชอบคนขาว ๆ สูง ๆ พี่หนุ่มไม่ใช่สเปคค่ะ แบบวิลลี่ได้อยู่
ถ้าโสดแล้วเป็นพ่อม่ายโอเคมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ถ้าเป็นพ่อม่ายโอเค แต่ก็ต้องดูนิสัยใจคอกันก่อนว่าเป็นยังไง คือคนเราก็ต้องมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน
ถ้าตอนนี้มีคนมาจีบ โอเคมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เอาแล้วดีกว่า พี่ไม่อยากไปยุ่งกับใคร ไม่อยากไปดูแลใคร ถ้าเป็นเด็ก ๆ มาชอบพี่ไม่เอาเลย เพราะว่าเราไม่อยากเลี้ยงเด็ก ไม่อยากดูแลใคร
อยู่มาได้ยังไง โสดมา 15 ปี ?
แหม่ม จินตรา : เราก็มีงานทำ มีเพื่อนฝูงในวงการ ถ้าแก่ตัวไปพี่ก็มีน้อง ๆ มีหลาน ๆ พี่ก็มีไง
จะออกจากวงการจริงเหรอ ?
แหม่ม จินตรา : มันก็ไม่ขนาดนั้น แต่เราก็ตั้งเป้าว่าสัก 60 ปี เราก็แก่แล้วนะ ถึงตอนนั้นเราก็ไม่ไหว ตอนนี้พี่ 53 แล้วไง เหลืออีก 7 ปี แต่จนถึงตอนนั้นเราต้องดูอีกทีว่ากำลังเราจะขับรถไหวมั้ย มันมีช่วงงานน้อยลงนะ ปีนี้พี่มีละครเรื่องเดียว ถามว่าเลือกมากมั้ยก็ไม่ได้มากอะไร ถ้าเล่นได้พี่เล่น แต่ถ้ามันเป็นบทร้าย ๆ กรี๊ดกร๊าด มันไม่ใช่คาแรกเตอร์เราเลย พี่ก็จะปฏิเสธ
เป็นคู่จิ้นกับพี่หนุ่ม สันติสุข มานาน เวลาเห็นพี่เค้าในทีวี เรามีนึกถึงมั้ย ?
แหม่ม จินตรา : ไม่เลย (หัวเราะ)
ถ้าวันนี้ย้อนกลับไป พี่จะเลิกกับเค้ามั้ย ?
แหม่ม จินตรา : เลิก (หัวเราะ) ไม่หรอก เพราะว่าเรารู้แล้วไงว่าการใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกัน จริง ๆ แล้วพี่กับพี่หนุ่ม เรานับถือกันเป็นพี่นะคะ พ่อแม่ ครอบครัวเราสนิทกัน รู้จักกัน เพราะเค้าไปเที่ยวกับครอบครัวพี่หนุ่มบ่อย ๆ ทุกวันนี้ทำงานด้วยกันเราก็สบายใจที่จะทำงานกับเค้า เรื่องอื่น ๆ เราไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ส่วนสาเหตุการเลิกกันมันเกิดจากการเบื่อหน่ายกันมากกว่า ตอนนั้นคบกันประมาณ 8 ปีค่ะ ถ้าจะมาถามว่าเพราะอะไร หรืออีกฝ่ายไม่ดี มันไม่ใช่ คนที่เปลี่ยนมันคือพี่ การใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกันค่ะ