Home »
Uncategories »
น้ำต้มเมล็ดมะรุม ‘แก้ปวดหลัง ปวดเอว’ กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ หายเป็นปลิดทิ้ง
น้ำต้มเมล็ดมะรุม ‘แก้ปวดหลัง ปวดเอว’ กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ หายเป็นปลิดทิ้ง
สำหรับใครที่กำลังปวดหลังอยู่
บอกเลยว่าวันนี้เรามีสิ่งดีดีมากฝาก ซึ่งสิ่งดีดีที่ว่านั้น
ก็เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทย ที่ทุกคนนั้นอาจจะไม่เคยรู้จักหรือคุ้นเคย
นั้นก็คือมะรุมนั้นเอง โดยมะรุมนั้น
บอกเลยว่ามีประโยชน์มากมายที่ใครหลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
โดยมะรุมนั้นเป็นไม้โตง่าย และ ปลูกกง่าย และมารับประทานเป็นอาหารได้
ซึ่งสามารถทานได้ทั้งฝัก ใบ ดอก
และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ยังมีสรรพคุณทางยาอีดหลากหลายชนิด ทั้งช่วยในเรื่องของ ขับปัสสาวะ
ลดอาการปวดศีรษะ ลดความดันโลหิต ช่วยลดคอเลสเตอรอล แก้ไข้
ปรับสมดุลปริมาณน้ำตาล กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งสามารถเอาทำเป็น
ยาได้ทั้งใบ ดอก ฝัก เมล็ด ราก และ เปลือก
โดยในวันนี้ ทางทีมงานก็ขอยกหยิบ
น้ำต้มเมล็ดมะรุมซึ่งสามารถช่วยเรื่องอาหารแก้ปวดต่างได้เป็นอย่างดี
ทั้งช่วยในเรื่อง ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้นอี
โดยสูตรน้ำส้มมะรุมนั้นมีอะไรบ้างแล้วก็มาดูกันดีกว่า
ขั้นตอนการทำน้ำต้มมะรุม
ขั้นตอนที่ 1 ทำการต้มน้ำเดือน 1 ล. จากนั้นต้มไปประมาณ 5 นาที และรับประทาน ครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร เช้า-ก่อนนอน
หลังจากที่ดื่ม คยอสังเกตุธาตุตัวของเรา ในเรื่องการขับถ่าย
หากมีอาการขับถ่ายมากเกินไปก็ลดปริมาณลง เพราะธาตุของแต่ละคน
ธาตุไม่เหมือนกัน ซึ่งในการรับประทานแบบต้ม ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง
ที่ได้รับการรักษาแบบรังสี โดยการดื่มน้ำมะรุมนี้
จะช่วยในเรื่องของการเพิ่มภูมิต้านทางในร่างกาย และ
ทำงานลดอาการแพ้รังสีได้ดี และสามารถฟิ้นตัวได้เร็วมากขึ้น และนอกจากนี้
มันก็ยังมีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อน แก้ปวดหลัง และอาการ กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ
ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งเมล็ดมะรุ่มนั้นสามารถทานได้อีกวีธีหนึ่งก็คือ
แบบเคี้ยวทั้งเม็ดโดยตรง ให้กระเทาะเปลือกออก
โดยด้านในของมันมีเมล็ดสีขาวโดยเอาเมล็ดนั้นมาอมให้ชุ่มคอได้
แบะถ้าหากคุณได้ขบให้เมล็ดแตก และเคี้ยว กลิ่นคล้ายโสม ขม เฝื่อน
แต่ไม่นานก็ชุ่มคอ เมื่ออมต่อไปจะรู้สึกหวานที่ลิ้น
และก็จะรู้สึกหวานไปทั้งปาก
สำหรับการรับประทาน เพื่อในการขับสารพิษให้กินละ 5 เม็ด / วัน ไม่เกิน
10เม็ด ต่อ เป็นเวลา 20 วัน จะช่วยในเรื่องของการขับสารพิษ ออกจากร่างกาย
เว้นประมาณ 5 – 6 ก็ค่อยกินกันอีกครั้งนึง โดยในเวลากิน จะต้อง
เคี้ยวเม็ดให้แตก ไว้ทานเพื่อทำความลำไส้ ขับของเสียตกค้าง ขับพยาธิ
และสามารถลดแกํสพิษ ในร่างกายซึ่งก็ทำการดูดซึมวิตามีนได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของใบมะรุมปริมาณ 100 g. ซึ่งสำรวจโดยอินเดียในปีพ.ศ.๒๕๓๗ มีดังนี้
– พลังงาน(Energy) 26 cal.
– โปรตีน(Protein) 6.7 g.
– ใยอาหาร(Dietary Fiber) 0.1 g.
– ไขมัน(Lipids) 4.8 g.
– คาร์โบไฮเดรต(Carbohydrate) 3.7 g.
– วิตามินเอ(Vitamin A) 6,780 μg.
– วิตามินซี(Vitamin C) 220 mg
– แคโรทีน(Carotene) 110 μg.
– แคลเซียม(Calcium) 400 mg
– ฟอสฟอรัส(Phosphorus) 110 mg.
– เหล็ก(Ferrum) 0.18 mg
– แมกนีเซียม(Magnesium) 28 mg.
– โพแทสเซียม(Potassium) 259 mg.
โดยประโยชน์ของมะรุมนั้นมีมากมาย
ทั้งช่วยเรื่อง ฆ่าเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ เชื้อแบคทีเรียตามผิวหนัง
รักษาโรคเบาหวาน เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต้านการเกิดโรคมะเร็ง
มะรุมรักษาอาการหวัด เป็นไข้ แก้ไอ บรรเทาอาการของโรคไขข้อ ไขข้ออักเสบ
บำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ อาการคันมาจากเชื้อรา แก้ปัญหาเส้นผมหลุดร่วง
รักษา โรคของดวงตา โรคต้อในตา โรคตามืดมัว
แก้โรคลำไส้อักเสบและโรคพยาธิในลำไส้ ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี
รักษาโลหิตจาง ปรับสมดุลของฮอร์โมน