Home »
Uncategories »
12 วิธีฝึกจิตใจ ให้เป็นคนคิดบวกเป็น
12 วิธีฝึกจิตใจ ให้เป็นคนคิดบวกเป็น
12 วิธีฝึกจิตใจ ให้เป็นคนคิดบวกเป็น
มนุษย์เราสามารถสร้างนิสัยคิดบวกได้พอๆ กับนิสัยคิดลบ
แต่นิสัยคิดลบเกิดได้ง่ายกว่า เพราะต่างทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว
ฉะนั้น ลองทำตามวิธีต่อไปนี้ดูนะคะ เพื่อสร้างนิสัยคิดในด้านดี
และขจัดความคิดด้าน ร้ า ย ให้หมดไป
วิธีการฝึกคิดบวกนั้นไม่ ย า ก ลองดู 12 ขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ค่ะ
1. ให้มองไปข้างหน้า อย่ามองย้อนหลัง
ทุกคนเคยทำผิดมาแล้วทั้งนั้น แต่ต้องไม่จมอยู่กับอดีตที่ผิดพลาด
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป จงวางเป้าหมายเล็กๆ
ที่เป็นไปได้ และพ ย า ย า มทำให้สำเร็จ
2. รู้จักให้อภัยตัวเองและผู้อื่น
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
เป็นผลพวงมาจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น
ในบางครั้งบางคราว เราต่างตัดสินใจผิดพลาด
แต่เมื่อรู้สำนึกแล้ว ก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไป
เรียกว่าเป็นการให้อภัย และต้องให้อภัยตัวเองเมื่อทำผิดพลาด
เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป รวมทั้งใช้ความผิดพลาด
จากอดีตเป็นบทเรียน เพื่อก้าวย่างที่ดีกว่าในอนาคต
3. ถ้าแก้วมีน้ำแค่ครึ่งเดียว จงเติมให้เต็มแก้ว
การมองว่า มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว หรือน้ำหายไปครึ่งแก้วนั้น
ถูกทั้ง 2 อย่าง อยู่ที่ว่าผู้มองเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือ ร้ า ย
และไม่ผิดอะไรที่คุณจะเติมน้ำให้เต็มแก้ว
4. มองหาบุคคลต้นแบบ
ทุกคนควรมีบุคคลต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจ
คนคนนั้นอาจเป็นผู้ที่เอาชนะอุปสรรคใหญ่ๆ ได้สำเร็จ
และประสบความสำเร็จอย่างงดงามในที่สุด
หรือเป็นผู้ที่ทำงานหนักและสัมฤทธิ์ผล
จงเอาคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต
5. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดวงของคนที่ประสบความสำเร็จและมอง โลกในแง่ดี
มันเป็นเรื่องมหัศจรรยู์ที่พลังอำนาจของคนอื่น
สามารถส่งผลกระทบต่อพลังในตัวเราได้
คนที่คิดในด้านบวกจะช่วยกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจให้เรา
เชื่อมั่นในตัวเองว่า เราสามารถทำสิ่งที่มุ่งมั่นไว้ให้สำเร็จได้
จำไว้ว่า..จงอยู่ให้ห่างคนที่คิดแต่แง่ ร้ า ย ซึ่งจะขัดขวาง
การเดินหน้าของคุณ ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
6. เห็นคุณค่าสิ่งดีๆ ในชีวิต
เมื่อเราพอใจกับทุกเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
มันจะช่วยให้เราขจัดความคิดในด้านลบออกไป
การโฟกัสแต่สิ่งดีๆ เหล่านี้ จะทำให้อุปสรรค
ที่เราเผชิญอยู่ กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราจัดการได้ง่ายขึ้น
7. รู้จักบริหารเวลาอย่างชาญฉลาด
อย่าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้ในชีวิต
ข้อสำคัญคือ มุ่งทำในเรื่องที่ทำให้ชีวิตของคุณ
เป็นไปดังที่หวังไว้ ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีทัศนคติที่ดี
8. จินตนาการว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น
แปลกแต่จริงที่ว่า คนส่วนมากมักชอบวาดภาพ
เรื่อง เ ล ว ร้ า ย กำลังเกิดขึ้น โดยมักจะพูดว่า
ถ้ามันเกิดขึ้น จงฝึกนึกถึงเรื่องดีๆ กำลังเกิดขึ้น
มองเห็นภาพงานที่กำลังทำเดินไปด้วยดี
ไม่ว่าจะเป็นงานที่บ้านหรือที่ทำงาน
และได้รับคำชมจากคนรอบข้างว่าเยี่ยมมาก
เพราะนั่นจะเป็นกำลังใจให้คุณคิดบวกต่อไป
9. ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ มิใช่แส้ที่เอาไว้เฆี่ยนตี
ทุกคนล้วนเคยทำผิดทั้งนั้น และถึงแม้ว่า
ได้พ ย า ย า มอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังทำพลาด
ขอให้จำไว้ว่า ยังมีโอกาสให้เริ่มต้นใหม่
ความผิดพลาดต่างๆ ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียน
เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต
10. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
ถ้ารอบๆ ตัวเต็มไปด้วยข้าวของวางระเกะระกะ
กระจัดกระจายไปทั่วห้อง ลองหาเวลาจัดเก็บ
ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจะช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมอง
ความคิดได้มาก ใครจะมองโลกในแง่ดีได้
ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางสภาพสกปรกรกรุงรังตลอดเวลา
เพราะสภาพแวดล้อมที่ดี จะช่วยสร้าง
และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดทัศนคติด้านบวก
11. รับข้อมูลข่าวสารที่ดี
หมั่นอ่านบทความที่สร้างแรงจูงใจ หรือฟังธรรมะ
ที่กระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัว และเกิดปัญญา
ซึ่งจะช่วยให้มองโลกและชีวิตได้อย่างเข้าใจ
มีความหวัง และความสุข
12. ให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง และบอกตัวเองซ้ำๆ
เพราะคำมั่นสัญญาดีๆ มีผลต่อกระบวนการคิดของตัวเอง
เช่น ถ้าคุณมีอาการซึมเศร้าเป็นประจำ
คำมั่นสัญญาของคุณก็คือ ฉันมีความสุข
ฉันควบคุมตัวเองได้ บอกตัวเองเช่นนี้หลายๆ ครั้งในแต่ละวัน
แล้วคุณจะรู้สึกถึงพลังความคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น
ที่มา khaonaroo.com