Home »
Uncategories »
เพชฌฆาต 6 แมลงอันตรายที่ต้องระวัง ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
เพชฌฆาต 6 แมลงอันตรายที่ต้องระวัง ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
เรียกได้ว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตบนโลกอยู่แค่กับมนุษย์ด้วยกัน แต่จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมายทีอาศัยอยู่ร่วมกับเราด้วย สิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิดมีพิษที่เอาไว้ใช้ป้องกันภัยจากศัตรู แต่พิษจะร้ายแรงเป็นอันตรายหรือไม่นั่นขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ และความรุนแรงของอาการแพ้ในร่างกายแต่ละคน
การแพ้พิษของสัตว์
การแพ้แมลงที่ต่อยได้ (เรียกว่า sting insects)
อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ตายได้ แมลงในกลุ่มนี้ได้แก่ ผึ้ง ต่อ และแตน
แต่ที่พบเป็นข่าวมักเกิดจากต่อหรือผึ้ง ซึ่งเกิดจากพิษของมัน
ทำให้การไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เกิดภาวะ ช็อกและไตวายตามมา
แต่บางรายก็อาจเกิดจากการบวมบริเวณหน้าและลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก ตายได้
เช่นกัน ผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อการถูกแมลงเหล่านี้ต่อย
ซึ่งเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ทั่วร่างกายที่รุนแรง แม้รักษาหายแล้ว
หากถูกต่อยอีกก็อาจเกิดปฏิกิริยารุนแรงได้อีก
จึงถือเป็นข้อบ่งชี้ว่าคนเหล่านี้ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันปฏิกิริยาจากพิษของแมลงที่แพ้
เรียกว่า venom immunotherapy วันนี้เราจึงมี 6 แมลงอันตรายที่ต้องระวัง
ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ มาฝากทุกคนกัน
1.มดตะนอย
ส่วนปลายสุดของท้องมีเหล็กในไว้สำหรับต่อยศัตรูเช่นเดียวกับต่อ
,แตนและผึ้ง หลาย
ๆคนอาจจะคิดว่ามดเหล่านี้ใช้วิธีการกัดในการต่อสู้กับศัตรู
แต่ในความเป็นจริงก็คือ
มันจะใช้ปากในการจับ/ยึดตัวศัตรูเอาไว้แล้วจึงต่อยโดยใช้เหล็กในที่ส่วนปลายของท้องพร้อม
ๆกับปล่อยน้ำพิษเข้าไปในปากแผล แตกต่างกับมดทั่ว
ๆไปที่จะใช้วิธีการต่อสู้กับศัตรูโดยการกัด
มดตะนอยและมดคันไฟสามารถต่อยศัตรูได้หลายครั้งเช่นเดียวกับต่อและแตน
พิษอาจร้ายแรงไปจนถึงชีวิต ถ้าร่างกายเราแพ้
2.ด้วงก้นกระดก
ด้วงก้นกระดกนั้นจะพบเห็นได้ทั่วประเทศไทย และพบได้บ่อยในช่วงหน้าฝน
ตัวของมันมีขนาดเล็กมาก แค่ 4-7 มม. จึงทำให้มองเห็นได้ลำบาก
ซึ่งความอันตรายของมันก็คือ พิษร้ายแรงที่จะก่อให้เกิดแผลพุพอง บวมแดง
ใครที่แพ้ก็จะมีอาการเป็นไข้ ยิ่งถ้าพิษเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้
ถึงแม้ปกติแล้วด้วงก้นกระดกจะไม่ชอบกัดคน
แต่เพราะความที่มันชอบไต่ขึ้นมาตามร่างกาย
ทำให้อาจเผลอทำร้ายจนลำตัวของมันแตกและพิษซึมเข้าสู่ผิวหนังนั่นเอง
3.ตัวเรือด
ตัวเรือดนั้นมีปากแบบแทงดูด คล้ายกับมวนเพชฌฆาต
ซึ่งจะดูดเลือดของมนุษย์เป็นอาหาร โดยปกติแล้วตัวเรือดจะมีสีแดง
แต่หลังจากดูดเลือดเข้าไป สีตัวจะคล้ำลง
ตัวเรือดชอบหลบซ่อนตัวและอาศัยอยู่ตามที่นอน ซอกเตียง เก้าอี้
ตามรอยแตกของผนังห้อง เพดานห้อง พื้นห้อง
โดยเฉพาะที่ที่ค่อนข้างสกปรกและมีคนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งอันตรายที่เกิดจากตัวเรือดก็คือ
เมื่อโดนดูดเลือดจะเกิดรอยผื่นแดงและมีอาการคัน
ถ้ายิ่งเกาก็จะยิ่งอักเสบจนเกิดการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นห้ามเกาเด็ดขาด
ถ้ารู้ตัวว่าโดนตัวเรือดกัดเมื่อไหร่ให้รีบล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที
4.ด้วงน้ำมัน
ด้วงน้ำมันเป็นแมลงปีกแข็งที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าด้วงโสน
มักพบอยู่ตามต้นแค ต้นโสน พืชตระกูลถั่ว มะเขือเทศ และปอ
ซึ่งปกติด้วงชนิดนี้จะไม่ค่อยทำอันตรายใครก่อน
แต่ถ้าถูกรบกวนเมื่อไหร่ก็จะปล่อยสารพิษออกมาทันที
ถ้าโดนผิวหนังขึ้นมาก็จะทำให้เกิดผื่นพอง ปวดแสบ ปวดร้อน
และถ้าเข้าตาก็จะทำให้ตาอักเสบอย่างรุนแรง หรือถ้าเผลอไปทานเข้า แม้จะแค่
2-3 ตัวก็สามารถทำให้อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด
และเสียชีวิตในที่สุด
5.แมลงตด
ที่ได้ชื่อว่าแมลงตดนั้นก็เพราะแมลงชนิดนี้จะปล่อยพิษที่ผลิตจากต่อมภายในท้องของมันออกมา
ผสมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ที่จะทำให้เกิดแรงดันพ่นสารพิษออกมาทางก้น
คล้ายๆ กับการตด
ซึ่งถ้าใครโดนเข้าไปจะเกิดอาการผิวไหม้เหมือนกับถูกน้ำกรดราด
โดยแมลงตดนี้จะพบเห็นได้ในประเทศไทยตามพื้นดิน ก้อนหิน หรือตามเปลือกไม้
ถ้ารู้ตัวว่าโดนแมลงตดปล่อยน้ำกรดใส่เมื่อไหร่ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดทันที
6. มวนเพชฌฆาต
มวนเพชฌฆาตเป็นแมลงที่จะคอยดูดกินเลือดของเราเป็นอาหาร คล้ายๆ ยุง
มีสีน้ำตาลหรือสีแดงผสมสีดำ สามารถพบได้ทั่วไปตามป่าธรรมชาติ
มักพบเกาะอยู่ตามพื้นหญ้า พุ่มไม้เตี้ย และมักพบพวกมันเกาะตามต้นแต้วในป่า
พบชุกชุมในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน และเมษายน-มิถุนายน
ซึ่งอันตรายจากแมลงชนิดนี้ก็คือ มันจะเข้ามากินเลือดเวลากลางคืน
ทิ้งรอยผื่นแดงไว้บนผิวหนัง โดยน้ำลายของมวนเพชฌฆาตจะทำให้เกิดความเจ็บปวด
ที่น่ากลัวคือ มวนเพชฌฆาตจะดูดกินเลือดของบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะดวงตา
ทำให้หนังตาบวมอักเสบ
น้ำพิษจากแมลงเหล่านี้ประกอบด้วยสารหลายอย่างแล้วแต่ชนิดของแมลง
ส่วนใหญ่จะเป็นสารประกอบจำพวกโปรตีน สารเหล่านี้ก่อให้เกิดผลได้หลายชนิด
เช่น ทำลายส่วนประกอบของผนังเซลล์ ,ทำให้เซลล์เสียหน้าที่
,ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก ,ทำให้สภาพการซึมได้ของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ภายหลังจากถูกแมลงเหล่านี้ต่อยผู้ป่วยอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย
หรืออาการรุนแรงไปจนกระทั่งเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
โดยสามารถแบ่งปฏิกิริยาหลังถูกพิษของแมลงได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.ปฏิกิริยาอะนาฟัยแลกซิส (Anaphylaxis)
เป็นปฏิกิริยาที่รุนแรงที่สุด
ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงที
ส่วนใหญ่เกิดภายใน 15 นาทีหลังถูกต่อยหรืออาจเกิดช้ากว่านั้นก็ได้
ยิ่งปฏิกิริยาเกิดเร็วอาการยิ่งรุนแรง ผู้ป่วยจะมีผื่นลมพิษขึ้นทั่วไป
,ผิวหนังแดง คัน ,มีการบวมที่หน้า ตา ปาก หรืออาจบวมทั้งตัว ,แน่นหน้าอก
,หายใจลำบาก ,พูดลำบาก
เนื่องจากมีการบวมของทางเดินหายใจและมีสิ่งคัดหลั่งออกมามาก
บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ,ปวดท้อง ,ท้องเสีย
แต่อาการทางระบบทางเดินอาหารนี้พบได้ไม่บ่อย ผู้ป่วยซึ่งอาการหนักมาก
ๆจะมีความดันโลหิตต่ำ ช็อกและเสียชีวิตได้
ปฏิกิริยาดังกล่าวข้างต้นอาจจะเกิดขึ้นในผู้ป่วยซึ่งเคยมีประวัติการแพ้แมลงหรือไม่เคยมีประวัติเลยก็ได้
และอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกต่อยหรือเกิดขึ้นในครั้งหลัง ๆก็ได้
2.ปฏิกิริยาชนิดผิดธรรมดา (Unusual reaction)
เป็นปฏิกิริยาซึ่งไม่ทราบการเกิดกลไกที่แน่นอน
เกิดหลังจากถูกแมลงต่อยประมาณตั้งแต่ 6 ชม.ไปจนถึง 10 – 14 วัน
อาจเกิดขึ้นร่วมกับปฏิกิริยาอะนาฟัยแลกซิสก็ได้
อาการที่พบอาจแตกต่างกันไปได้หลายแบบตามระบบต่าง ๆของร่างกายดังนี้
- ระบบเลือด มีการแตกของเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือด
,มีภาวะลิ่มเลือดแพร่กระจายในหลอดเลือด
,มีการอุดตันของหลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจ ,มีเลือดออกและเลือดคั่งทั่วไป
- ระบบกล้ามเนื้อ ทำให้เจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ ,เป็นตะคริว
,มีการตายของเซลล์กล้ามเนื้อ และก่อให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
,มีสารประกอบโปรตีนของกล้ามเนื้อรั่วออกมาในปัสสาวะ
- ระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะมีสีแดงหรือสีน้ำตาลคล้ายน้ำปลา
เนื่องจากมีสารประกอบโปรตีนในเม็ดเลือดแดง/สารประกอบโปรตีนของกล้ามเนื้อรั่วออกมาในปัสสาวะ
,เกิดภาวะไตวายหรือกลุ่มอาการ nephritic
- ระบบทางเดินหายใน เกิดก้อนลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดปอด ,มีเลือดออกในปอด ,ถุงลมปอดแฟบ ,บางรายมีถุงลมปอดโป่งพอง
- ระบบประสาท มีเส้นประสาทอักเสบ ,สมองอักเสบ ,การรู้สึกตัวเลวลงจนหมดสติ ,เนื้อสมองและไข้สันหลังตาย
- ภาวะ serum sickness มีไข้ ,ต่อมน้ำเหลืองโต ,ปวดศีรษะ ,ปวดข้อ ,มีลมพิษ
3.ปฏิกิริยาเฉพาะที่ (Local reaction)
ในผู้ป่วยที่ไม่แพ้แมลงหลังถูกต่อยจะมีอาการปวด บวม แดงบริเวณที่ถูกต่อย
รอยบวมแดงมีขนาดไม่เกิน 5 ซม.
อาการมักจะเกิดภายหลังถูกต่อยเป็นนาทีและหายไปภายในเวลา 24 ชม.
ผู้ป่วยบางรายอาจมีปฏิกิริยาเฉพาะที่เป็นบริเวณกว้างได้ เช่น
ถูกต่อยที่หน้าผากมีการบวมลามไปทั่วใบหน้า
หรือถูกต่อยที่นิ้วมือมีการบวมไปถึงข้อศอกข้างนั้น ส่วนใหญ่รอยบวม
แดงจะมีขนาดเกิน 5 ซม.และอยู่นานเกินกว่า 24 ชม.
เป็นยังไงกันบ้างหละคะน่ากลัวมากเลยใช่มั้ยคะ
เราควรสังเกตุอาการทั้งตอนโดนกัดและหลังจากโดนกัด
ถ้าเกิดอาการผิดปกติกับร่างกายมากควรรีบพบแพทย์โดนเร็ว
และแจ้งอาการอย่างละเอียดเพื่อการรักษาที่ถูกต้องหรือถ้าเป็นไปได้ถ่ายรูปหรือนำสัตว์ที่คาดว่ากัดเราและทำให้เกิดอาการแพ้ไปเพื่อประกอบการรักษาของแพทย์ด้วย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : thongteaw , play.scblife.co.th