‘เม็ดบัว’ สมุนไพรไทยสรรพคุณเกินตัว ทานที่ถูกต้องมีประโยชน์มาก

สำหรับใครที่ไม่เคยกินเม็ดบัว บอกเลยว่าเม็ดบัวนั้นก็สามารถกินได้ อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมายไม่ว่าจะช่วยในเรื่องโลหิตต่างๆ ซึ่งถ้าหากใครนั้นมักจะมีอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืดตาลายหรือแน่นหน้าอกเป็นประจำโดยปัญหาเหล่านี้นั้นเกิดขึ้นจากการที่มีเลือดน้อยฉะนั้นจึงอยากจะขอแนะนำสมุนไพรพื้นบ้านที่สามารถหาได้ง่ายๆ และราคาไม่แพงที่สำคัญหาได้ง่ายในบ้านเรา

โดยเม็ดบัวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบอยู่ถึงประมาณ 23 เปอร์เซนต์ และมีเกลือแร่ ฟอสฟอรัส ซึ่งมีสรรพคุณมากมายทั้งบำรุงประสาทสมองไตและช่วยรักษาอาการท้องร่วงได้เป็นอย่างดีและสรรพคุณพื้นบ้านที่ใช้กันก็สามารถใช้เป็นยาบำรุงเลือดหรือเพิ่มเลือดได้เพียงแค่การทานเม็ดบัวก็สามารถช่วยได้ด้วยเช่นกันแต่มีข้อแม้ว่าเม็ดบัวที่ทานนั้นจะต้องเป็นเม็ดบัวสดเท่านั้นถ้าหากเป็นเม็ดบัวที่ผ่านการแปรรูปมาแล้วจะใช้ไม่ได้ผล

ซึ่งแน่นอนว่าเม็ดบัวนี้ก๋มรงานวิจัยออกมา เม็ดบัวมีสารแอนติออกซิแดนต์ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจะรอการเสื่อมของอวัยวะและผิวพรรณ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในเรื่องของมะเร็งตับ และสามารถช่วยขยายขยายหลอดเลือดหัวใจแก้กระหายน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงไขข้อ บำรุงกำลัง แก้อาการกระหายน้ำแก้เสมหะแก้พุพองแก้อาการอาเจียนอ่อนเพลียและเพิ่มไขมันในร่างกายแก้ท้องเดินสมานแผลในมดลูกและช่วยแก้ริดสีดวงจมูกได้

นอกจากนี้เมล็ดบัวไทยและจีนนั้นมีความเหมือนที่แตกต่างกันโดยการเลือกกินเม็ดบัวส่วนใหญ่ที่เราเห็นทั่วไปจะเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนซึ่งจะมีเมล็ดขนาดใหญ่ผ่านการกระเทาะเปลือกและอบแห้งแล้วแต่เม็ดบัวไทยนั้นจะไม่ค่อยพบว่าวางจำหน่ายในตามท้องตลาดเพราะว่ามีขนาดเล็กและไม่เป็นที่นิยมแต่ผลการวิจัยของอาจารย์ปริญดา ที่ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ในเม็ดบัวไทยและจีนพบว่า เม็ดบัวไทยนั้นมีปริมาณของสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าเม็ดบัวจีน 5-6 เท่า เลยทีเดียว!

โดยวิธีการกินนั่นก็คือ ลอกเปลือกออกจากเมล็ด โดยไม่ดึงเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวออก กินสดๆทั้งเมล็ด จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านมะเร็งซึ่งอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ด และดีบัวในปริมาณสูง ส่วนชนิดอบแห้งนั้น เรานำมาทำอาหารคาวหวานได้หลากหลาย ที่คุ้นเคยกันดี คือ น้ำอาร์ซี เม็ดบัวต้มน้ำตาลทรายแดง ผสมในเต้าฮวย หรือเต้าทึง ข้าวอบใบบัว เป็นต้น

ชนิดอบแห้ง

1. ควรเลือกเมล็ดที่มีสีเหลืองนวล ถ้ามีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าเป็นเม็ดบัวเก่าที่เก็บไว้นานแล้ว เมล็ดไม่แตกหัก และไม่มีฝุ่นละอองปนเปื้อน

2. ขั้วเมล็ดไม่ดำคล้ำ เพราะจะเป็นเมล็ดที่เก็บไว้นานแล้ว

3. ไม่มีกลิ่นสาบหรือเหม็นหื่น

ด้วยเหตุนี้จึงได้เรียกว่าเม็ดบัวที่ใครและควรมองข้ามกันนั้นมีคุณประโยชน์มากมายที่ดีต่อร่างกายซึ่งหากใครมีอาการดังกล่าวที่ระบุไว้ก็สามารถนำเม็ดบัวมากินได้ด้วยเช่นกัน