เผยข่าวดีทะเลไทย หลังเกาะยูง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่
ที่ถูกปิดกว่า 2 ปี หลังปะการังมีสภาพเสียหายแทบไร้หนทางฟื้นฟู
กลับมาฟื้นตัวและมีความสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้งแล้ว
จากกรณีที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศ ปิดเกาะยูง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2559 เพื่อเสริมความแข็งแรงปะการัง หวังรักษาปะการังเขากวาง แหล่งสุดท้ายในอันดามันนั้น
ล่าสุด
วันที่ 19 มีนาคม 2560 ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ซึ่งผลักดันให้เกิดเรื่องดังกล่าว
เปิดเผยข่าวดีผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat
ใจความว่า จาก 2 ปีก่อนที่แนวปะการัง ทะเลเกาะยูง ในหมู่เกาะพีพี
นั้นอยู่ในสภาพที่ย่อยยับ และแทบหมดหนทางในการฟื้นฟู จากพฤติกรรม ทิ้งสมอ
เหยียบ ให้อาหารปลา ของผู้ที่ไปเที่ยว
จนทำให้ตนคิดเรื่องการปิดเกาะเพื่อเก็บลมหายใจสุดท้ายของพีพีไว้
ทั้งที่ตอนนั้นตนมีเพียงความเชื่อที่มาจากประสบการณ์
ซึ่งแม้จะมีความหวังริบหรี่
แต่ตอนนี้ก็ได้คำตอบที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
ผศ. ดร.ธรณ์ เผยอีกว่า การปิดเกาะยูงทำให้แนวปะการังที่แทบไม่เหลือเศษซากเมื่อ 2 ปีก่อน กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รวมถึงยังมีปะการังเขากวางที่แทบไม่เหลือกลับมาที่หมู่เกาะพีพีอีกครั้ง และคำตอบที่ได้คือ หากปิดเกาะแบบเข้มงวดจริงจัง ปะการังสามารถฟื้นฟูเองและกลับมาได้ในระยะเวลาไม่นานนัก ซึ่งจากนี้ก็จะนำประสบการณ์ที่ได้มาปรับใช้ โดยเฉพาะการเก็บรักษาและปล่อยให้ทะเลฟื้นฟูตัวเองควบคู่กับการปลูกปะการังนั่นเอง
สุดท้ายนี้ ผศ. ดร.ธรณ์ เปิดใจว่า 2 ปีที่เฝ้ารอนั้น ตนใช้แรงใจไปมากมาย รวมถึงยังเจอแรงเสียดทานที่เข้ามา จนตอนนี้ได้พูดกับตัวเองแล้วว่าทำสำเร็จเสียที ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลจากการสำรวจของทีมงานกรมอุทยาน เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 พบว่าแนวปะการังมีการฟื้นตัว และมีสภาพสมบูรณ์ขึ้น มีปะการังวัยอ่อนขึ้นเป็นจำนวนมาก พบปะการังโคโลนีเก่าที่เจริญเติบโตเพิ่มขึ้น และยังพบปะการังเขากวางเกิดใหม่ที่มีสภาพสมบูรณ์อีกเป็นจำนวนมากเป็นดงกว้างระยะทางหลายสิบเมตร และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมตนจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat
จากกรณีที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศ ปิดเกาะยูง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2559 เพื่อเสริมความแข็งแรงปะการัง หวังรักษาปะการังเขากวาง แหล่งสุดท้ายในอันดามันนั้น
ผศ. ดร.ธรณ์ เผยอีกว่า การปิดเกาะยูงทำให้แนวปะการังที่แทบไม่เหลือเศษซากเมื่อ 2 ปีก่อน กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รวมถึงยังมีปะการังเขากวางที่แทบไม่เหลือกลับมาที่หมู่เกาะพีพีอีกครั้ง และคำตอบที่ได้คือ หากปิดเกาะแบบเข้มงวดจริงจัง ปะการังสามารถฟื้นฟูเองและกลับมาได้ในระยะเวลาไม่นานนัก ซึ่งจากนี้ก็จะนำประสบการณ์ที่ได้มาปรับใช้ โดยเฉพาะการเก็บรักษาและปล่อยให้ทะเลฟื้นฟูตัวเองควบคู่กับการปลูกปะการังนั่นเอง
สุดท้ายนี้ ผศ. ดร.ธรณ์ เปิดใจว่า 2 ปีที่เฝ้ารอนั้น ตนใช้แรงใจไปมากมาย รวมถึงยังเจอแรงเสียดทานที่เข้ามา จนตอนนี้ได้พูดกับตัวเองแล้วว่าทำสำเร็จเสียที ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลจากการสำรวจของทีมงานกรมอุทยาน เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 พบว่าแนวปะการังมีการฟื้นตัว และมีสภาพสมบูรณ์ขึ้น มีปะการังวัยอ่อนขึ้นเป็นจำนวนมาก พบปะการังโคโลนีเก่าที่เจริญเติบโตเพิ่มขึ้น และยังพบปะการังเขากวางเกิดใหม่ที่มีสภาพสมบูรณ์อีกเป็นจำนวนมากเป็นดงกว้างระยะทางหลายสิบเมตร และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมตนจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat