มันมาได้ไงเนี้ย! กินชาบูอยู่ดี ๆ คีบเจอถุงยางอนามัยในหม้อ แทบอ้วกกันทั้งโต๊ะ ! {ชมคลิป}

ลูกค้าร้านชาบูสยองหนัก คีบเจอถุงยางอนามัยในหม้อต้ม ทำเอาแทบอ้วกกันถ้วนหน้า พากันโวยลั่นร้าน ก่อนเรียกผู้จัดการมาเคลียร์

การที่ลูกค้าร้องเรียนร้านอาหารต่าง ๆ หลังจากไปรับประทานอาหารที่ร้านแล้วพบสิ่งแปลกปลอมที่แสดงถึงความขาดสุขอนามัยปะปนอยู่ในอาหารนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนพบเจอก็แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่คราบเขม่าดำ ๆ ของกระทะ เส้นผม ไปจนถึงแมลงสาบ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ดูเป็นเรื่องพอทำใจยอมรับได้ไปเลยทันที เมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกค้าหนุ่ม ๆ ชาวจีนคู่นี้พบเจอ
จากการรายงานของเว็บไซต์มิเรอร์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ระบุว่า เหตุการณ์สุดกระอักกระอ่วนชวนคลื่นไส้นี้เกิดขึ้นที่ร้านสุกี้ชาบูแห่งหนึ่งในมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศจีน ลูกค้าหนุ่มคู่นี้กำลังรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ทุกอย่างดูปกติเรียบร้อยไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทั้งคู่ก็ซดน้ำซุปกันไปตามปกติ จนกระทั่งหนึ่งในชายหนุ่มใช้ตะเกียบควานลงไปในหม้อ แล้วค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่ดูแปลกประหลาด ไม่เหมือนกับหมูเห็ดเป็ดไก่ที่สั่งมารับประทาน
เจอถุงยางในชาบู

เมื่อเขาเอาตะเกียบคีบมันขึ้นมาก็ตกตะลึงหนักมาก ช็อกกันไปทั้งโต๊ะ เพราะสิ่งที่ห้อยดุ๊กดิ๊กอยู่ที่ตะเกียบของเขามันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาอยู่ในหม้อสุกี้ สิ่งนั้นมันคือ ถุงยางอนามัย การค้นพบเจ้านี่สร้างความขยะแขยงให้ทุกคนโดยถ้วนหน้า จากในคลิปจะเห็นได้ว่า หนุ่มอีกรายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากด้วยท่าทางพะอืดพะอมสุด ๆ

เด็กเสิร์ฟสาวเดินผ่านมาที่โต๊ะของพวกเขาพอดี ชายหนุ่มจึงคีบถุงยางอนามัย ยกให้เธอดูพร้อมกับบอกให้เธอไปตามผู้จัดการร้านมาเคลียร์เรื่องนี้โดยด่วน เมื่อเด็กเสิร์ฟสาวเห็นถุงยางอนามัย เธอดูตกใจมากและรีบผละไปตามผู้จัดการมาโดยทันที

คลิปนี้กลายเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ของชาวจีน แต่เนื่องจากคลิปตัดจบลงในตอนที่เด็กเสิร์ฟสาวเดินออกไปพอดี จึงไม่สามารถทราบได้ว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นอย่างไรต่อไป ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันชวนอาเจียน แต่ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นว่า มันเป็นเรื่องแปลกเกินกว่าที่จะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง หลายรายวิเคราะห์ว่า ลูกค้าสองคนอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาเองก็เป็นได้ ใครจะรู้ว่าถุงยางอนามัยมันอยู่ในหม้อตั้งแต่แรก หรือเพิ่งใส่ลงไป แถมทางร้านก็ไม่มีกล้องวงจรปิดอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถฟันธงได้เลยว่าถุงยางอนามัยในหม้อ มีที่มาที่ไปอย่างไร