ครูสาวโพสต์เรื่องเศร้า หลังเซ็นใบหย่า พร้อมกับข้อความสุดเจ็บปวด

วันนี้เราเรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่งมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ซึ่งเรื่องราวนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความและเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวที่ต้องหย่าร้าง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า…

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาฉันกำลังเดินอยู่บนถนนเล็กๆ ที่สองข้างทางเป็นเหว ฉันเดินตามคนๆ หนึ่งด้วยความซื่อสัตย์อย่างไม่มีข้อแม้ ตลอดทางฉันเห็นแต่แผ่นหลังของเค้า ฉันก็ตามไปอย่างเชื่อใจ เขาก็หันมามองฉันเป็นพักๆ ฉันเองที่เป็นคนตัดสินใจมาเลือกมาเดินตามเขา ฉันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ได้โรยเศษแก้วทิ้งไว้บนพื้น ขณะที่เดินตาม ฉันไม่เคยระวังตัวใดๆ เพราะตามองอยู่แต่ที่หลังของเค้าด้วยความไว้ใจ ฉันรู้สึกเจ็บที่เท้าแล้ว แต่ฉันก็ยังเดินตามต่อ

การขอโทษและการให้อภัยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เค้าก็ยังทำอีก จนในที่สุด พื้นที่เราเดินก็เต็มไปด้วยเศษแก้วชิ้นเล็กๆ มากมายที่คอยทิ่มตำเท้าฉันอยู่ตลอดทุกก้าวที่เดิน แน่นอนว่ามันก็มีบางช่วงที่เป็นพื้นดินธรรมดา บางช่วงที่เป็นพื้นหญ้านุ่มๆ บ้าง

แต่เดินไปไม่นานก็กลับไปเจอเศษแก้วอีกที่ตลกคือ ฉันก็ยังคงทนเดินต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดเสียดายที่อุส่าต์เดินตามมาตั้งนานแล้ว และด้วยความหวังจากเสียงพูดของเค้า ที่ตะโกนมาเรื่อยๆว่าเค้าจะหยุดการกระทำแบบนี้แล้วนะ

ความเจ็บปวดมันเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อมีเด็กคนนึงเกิดขึ้นมา จากที่เดินด้วยน้ำหนักเราคนเดียวกลายเป็นต้องเดินโดยอุ้มเด็กคนนี้ไว้ที่แขนเพื่อไม่ให้เค้าโดนเศษแก้วไปด้วย เด็กโตขึ้นทุกวัน น้ำหนักก็มากขึ้นทุกวันตามไปด้วย

8 ปี..ในที่สุดเราก็เดินมาจนถึงทางแยก ทางแยก 2 ทาง คือทางตรงทางเดิมที่แม้จะมีเศษแก้วปะปรายให้เห็น แต่ก็ยังคงมีแผ่นหลังที่คุ้นเคยกับรอยยิ้มจริงใจของเค้าที่เหมือนคอยให้ความหวังว่าเค้ากำลังจะเลิกโรยเศษแก้วแล้ว
หรือจะเลี้ยวออกไปอีกทาง ที่มันโคตรมืดและไม่รู้จะมีอะไรอยู่ข้างหน้า

ในใจคิดว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหนเราจะเอาเด็กคนนี้ไปด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่ปล่อยเด็กแน่นอน ที่ทางแยก…ฉันมองลงไปที่เท้าตัวเอง ตอนนี้มันดูไม่เหมือนเท้าอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน มันเจ็บ มันชา แล้วกลับมาเจ็บอีก วนไปเรื่อยๆ

วันนี้ ฉันตัดความเสียดาย 8 ปีที่ผ่านมาไว้ที่ตรงทางแยกนั้น แล้วเลือกเดินทางใหม่ ทางที่มันโครตจะมืดและไม่รู้จะเจอกับอะไรอีก แต่อย่างน้อยที่สุดทางนี้ก็ไม่มีเศษแก้วอีกแล้ว

แน่นอนว่า เมื่อไม่มีเศษแก้ว ฉันจึงกล้าที่จะวางเด็กลงกับพื้นแล้วจับมือกันเดินแทนการอุ้ม ฉันรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
จากที่เป็นแต่ผู้ตามที่ซื่อสัตย์ ฉันรู้ทันทีว่าตอนนี้ฉันต้องมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทนในวินาทีนี้เลย เพราะฉันกำลังจะมีเด็กคนนึงเดินตามแผ่นหลังของฉัน

ตอนนี้ฉันยังเดินต่อไม่ค่อยไหวเลย จากนี้ฉันอาจจะนั่งลงใช้เวลาในการรักษาแผลที่เท้าไปซักพัก แต่ไม่นานหรอกฉันจะลุกขึ้นแล้วเดินต่อ เดินไปไอ้ทางที่แม่งโคตรมืดนี่แหล่ะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…ฉันยังอยู่ ฉันยังไม่ตาย ฉันจะไปต่อ ฉันจะไปได้โดยไม่ต้องเดินตามใครอีก และฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้ว

โดยล่าสุดโพสต์นี้ได้ถูกแชร์มากกว่า 3 หมื่นครั้ง และมีผู้เข้ามาให้กำลังใจมากมาย

 

แหล่งที่มา: tnews